Success Case: โลจิสติกส์เย็น (Cold Chain) สำหรับสินค้าเกษตรไทย
อัพเดทล่าสุด: 5 ก.ค. 2025
42 ผู้เข้าชม
ทำไมสินค้าเกษตรไทยต้องใช้ Cold Chain?
สินค้าเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ ดอกไม้ พืชสมุนไพร หรือแม้แต่เนื้อสัตว์อินทรีย์ มี อายุการเก็บรักษาสั้น และไวต่ออุณหภูมิ ความชื้น แสง และการสั่นสะเทือน หากไม่มีระบบขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ จะทำให้สูญเสียคุณภาพหรือเน่าเสียก่อนถึงมือผู้บริโภค
Cold Chain คืออะไร?
Cold Chain Logistics คือ ระบบขนส่งและจัดเก็บที่ควบคุมอุณหภูมิตลอดทั้งกระบวนการ ตั้งแต่จุดผลิต โรงคัดแยก ศูนย์กระจายสินค้า ร้านค้า ผู้บริโภค โดยใช้อุปกรณ์ เช่น:
- ตู้เย็นเก็บผลผลิต
- รถบรรทุกห้องเย็น
- กล่องบรรจุหุ้มฉนวน
- ระบบติดตามอุณหภูมิแบบเรียลไทม์
กรณีศึกษา: ความสำเร็จของ มะม่วงน้ำดอกไม้ ส่งออกญี่ปุ่น
บริษัท A (นามสมมุติ) ในจังหวัดนครปฐม เป็นผู้รวบรวมผลผลิตมะม่วงจากเกษตรกรรายย่อยกว่า 200 ราย เพื่อนำไปคัดแยก บรรจุ และส่งออกไปยังญี่ปุ่น
ปัญหาที่เคยเจอ:
- มะม่วงสุกเกินระหว่างทาง
- ผิวผลผลิตช้ำจากการจัดส่งที่ไม่ได้ควบคุมอุณหภูมิ
- ลูกค้าในญี่ปุ่นร้องเรียนเรื่องคุณภาพ
แนวทางที่ใช้:
- จัดตั้ง คลังเย็น (Cold Room) ใกล้แหล่งผลิต
- ใช้ รถบรรทุกควบคุมอุณหภูมิ 13°C ตลอดการขนส่ง
- ติดตั้ง GPS + Temp Sensor ที่ส่งข้อมูลมายังโทรศัพท์แบบเรียลไทม์
- อบรมชาวสวนเรื่อง Pre-Cooling ก่อนบรรจุส่ง
ผลลัพธ์:
- ลดความเสียหายของสินค้าได้กว่า 40%
- ส่งสินค้าได้ตรงเวลาและคุณภาพสูงขึ้น
- ขยายตลาดญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2 เมือง และเพิ่มยอดขายกว่า 30% ภายใน 1 ปี
เคล็ดลับความสำเร็จของ Cold Chain สำหรับสินค้าเกษตร
- รู้จักอุณหภูมิที่เหมาะกับสินค้าแต่ละประเภท
เช่น ผักบางชนิดต้องเก็บที่ 25°C แต่ผลไม้ร้อนอย่างกล้วยห้ามโดนอากาศเย็นเกินไป - ทำ Pre-Cooling ทันทีหลังเก็บเกี่ยว
ช่วยรักษาคุณภาพตั้งแต่ต้นทางก่อนนำเข้าระบบโลจิสติกส์เย็น - เลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์เย็นที่มีประสบการณ์และอุปกรณ์ครบ
เช่น DB Schenker, JWD, Inter Express Logistics - ใช้เทคโนโลยีติดตามอุณหภูมิแบบเรียลไทม์
เพื่อป้องกันความเสี่ยงและควบคุมคุณภาพระหว่างเดินทาง
Cold Chain ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป สำหรับธุรกิจสินค้าเกษตรของไทย
ใครที่มองไกลและกล้าลงทุนในระบบโลจิสติกส์เย็นตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จะเป็นผู้ได้เปรียบในยุคที่ คุณภาพ คือทุกสิ่ง โดยเฉพาะเมื่อโลกต้องการสินค้าไทยที่ สด และ ปลอดภัย มากกว่าที่เคย
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
หลายบริษัทเริ่มหันมาใช้ระบบคลังสินค้าแบบ Just-in-Time (JIT) เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน แต่ระบบนี้ก็มีคำถามตามมาว่า… “มันคุ้มค่าจริงไหม
17 ก.ค. 2025
มากกว่าแค่ทำงานไว: องค์ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากแค่ไหน? | Blog
เราทุกคนต่างมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นและก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานกองโตในแต่ละวัน? คำตอบไม่ได้อยู่ที่การทำงานหนักขึ้น แต่อยู่ที่ "สินทรัพย์ที่มองไม่เห็น" นั่นคือ องค์ความรู้
16 ก.ค. 2025
องค์ความรู้ในการพัฒนางานด้านการขนส่งให้มีประสิทธิภาพ สามารถครอบคลุมเนื้อหาทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติที่ส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพของระบบการขนส่ง ทั้งในด้านเวลา ต้นทุน ความปลอดภัย และการบริการ โดยสามารถสรุปได้เป็นหัวข้อสำคัญ ๆ
16 ก.ค. 2025