AI ช่วยลด พัสดุหาย ได้ยังไง?
อัพเดทล่าสุด: 4 ก.ค. 2025
125 ผู้เข้าชม
AI ช่วยลด พัสดุหาย ได้ยังไง?
เคยไหม?
ส่งของแล้วลูกค้าบอก ยังไม่ได้รับ
พอเช็กกลับไป
ของหายระหว่างทาง ไม่รู้หายตอนไหน ไม่รู้ว่าใครเป็นคนรับผิดชอบ
นี่คือปัญหาใหญ่ในโลจิสติกส์
และ AI กำลังกลายเป็น ผู้ช่วยสืบสวน ที่แม่นยำกว่าคนหลายเท่า
ทำไมพัสดุถึงหาย?
คัดของผิด วางผิดเส้นทาง
สแกนผิด ระบบบันทึกว่ารับแล้วแต่จริง ๆ ยังไม่ได้
ของตกหล่น จากสายพาน / ระหว่างขนถ่าย
ความตั้งใจ กรณีทุจริตหรือฉ้อโกง
AI ช่วยลดของหายได้ยังไง?1. กล้องตรวจจับ + Machine Learning
ติดกล้องไว้ในจุดสำคัญ เช่น จุดรับพัสดุ-จุดโหลดขึ้นรถ
AI วิเคราะห์พฤติกรรมผิดปกติ เช่น:
วางของผิดตำแหน่ง
ของหล่นจากสายพานแล้วไม่มีใครเก็บ
คนหยิบของใส่รถผิดเส้นทาง
ต่างจากกล้องวงจรปิดทั่วไป เพราะ AI แจ้งเตือน ทันที ไม่ต้องมานั่งย้อนดู
2. สแกนพัสดุแบบอัตโนมัติทุกจุด
AI ตรวจสอบว่าเลข Tracking ถูกต้องหรือไม่
ถ้าข้ามจุดสแกน / สแกนซ้ำ / หายไปจากระบบ
ระบบจะเตือนว่า ของนี้อาจหาย หรือถูกจัดผิดทาง
3. วิเคราะห์พฤติกรรมซ้ำซ้อน
AI จะเรียนรู้ว่า
เส้นทางไหนเกิดพัสดุหายบ่อย
จุดไหนในคลังมีสถิติปัญหาซ้ำ ๆ
คนส่ง/คนขับคนไหนเจอปัญหาบ่อยกว่าค่าเฉลี่ย
จากนั้นแจ้งเตือนทีมงานให้ตรวจสอบล่วงหน้า ก่อนปัญหาเกิดซ้ำ
ตัวอย่างการใช้งาน
บริษัทโลจิสติกส์ในสหรัฐฯ ใช้ AI ตรวจสอบกล้องทุกจุดในคลัง
ลดของหายได้ 3040% ภายใน 6 เดือน
บางบริษัทในไทย เริ่มใช้ระบบ Tracking + กล้อง AI
ตรวจสอบย้อนหลังแบบแม่นยำว่า พัสดุอยู่ตรงไหนจนวินาทีสุดท้าย
สรุป
AI ไม่ได้แค่ช่วย ตามหาของ
แต่ช่วย ป้องกันไม่ให้หาย ตั้งแต่ต้นทาง
ใครเริ่มใช้ก่อน = ลดต้นทุน + เพิ่มความน่าเชื่อถือ
ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการส่งของที่ แม่นยำ 100%
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในยุคที่คอนเทนต์วิดีโอครองโลกโซเชียล เราเห็นคลิปที่น่าสนใจมากมายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น YouTube, TikTok หรือ Instagram แต่เคยสงสัยไหมว่าคลิปความยาวไม่กี่นาทีที่ทำให้เราเพลิดเพลินนั้น มีเบื้องหลังการทำงานที่ซับซ้อนและต้องใช้ความทุ่มเทแค่ไหน?
19 ส.ค. 2025
WMS ไม่ได้เป็นแค่ "ศูนย์ต้นทุน" ที่ต้องลงทุนไป แต่เป็น "ศูนย์สร้างกำไร" ที่จะเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน วันนี้เราจะมาดูกันว่า WMS ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณได้อย่างไร
19 ส.ค. 2025
ในบทความที่แล้วเราได้รู้จักกับ "กราฟแท่ง" พระเอกแห่งการเปรียบเทียบกันไปแล้ว แต่ถ้าหากสิ่งที่คุณอยากรู้ไม่ใช่แค่ "อะไรมากกว่ากัน" แต่เป็น "สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อเวลาผ่านไป?" คำตอบของคุณอยู่ใน "กราฟเส้น" หรือ Line Chart ครับ
19 ส.ค. 2025