แชร์

การวิเคราะห์และแก้ปัญหาด้วย 5W2H

สีเขียว_สีเหลือง_น่ารัก_ภาพประกอบ_ปิดร้านค้า_Sorry_We_Are_Closed_Instagram_Post_.png BS Rut กองรถ
อัพเดทล่าสุด: 21 เม.ย. 2025
685 ผู้เข้าชม
5W2H คืออะไร?
5W2H เป็นแนวทางการตั้งคำถามเพื่อวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยประกอบด้วย 7 คำถามหลัก ดังนี้:

  • What (อะไร) ปัญหาคืออะไร เกิดอะไรขึ้น
  • Why (ทำไม) ทำไมถึงเกิดปัญหานี้ขึ้น
  • Where (ที่ไหน) ปัญหาเกิดขึ้นที่ใด
  • When (เมื่อไหร่) ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อใด หรือเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน
  • Who (ใคร) ใครเป็นผู้เกี่ยวข้อง หรือใครพบเจอปัญหา
  • How (อย่างไร) ปัญหาเกิดขึ้นได้อย่างไร
  • How much / How many (มากแค่ไหน) ความรุนแรงของปัญหาหรือผลกระทบมีมากน้อยเพียงใด

     

    การประยุกต์ใช้ 5W2H ในการวิเคราะห์ปัญหา
    การใช้ 5W2H ช่วยให้ทีมงานมองเห็นปัญหาในหลายมิติ และเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างชัดเจนก่อนจะหาทางแก้ไข ตัวอย่างเช่น:

    ตัวอย่างสถานการณ์: เครื่องจักรในสายการผลิตหยุดทำงานบ่อยครั้ง
     
    คำถาม คำตอบ (ตัวอย่าง)
    What เครื่องจักรหมายเลข 3 หยุดทำงานกลางคันระหว่างการผลิต
    Why สายพานภายในเสื่อมสภาพบ่อย
    Where ในสายการผลิต A ของแผนกประกอบ
    When เกิดขึ้นทุกวันช่วงกะกลางคืน
    Who ผู้ควบคุมเครื่องจักรประจำกะกลางคืน
    How เครื่องไม่มีการบำรุงรักษาตามรอบเวลาที่กำหนด
    How much ทำให้สายการผลิตล่าช้า 3 ชั่วโมงต่อวัน สูญเสียรายได้วันละ 20,000 บาท

     จากการวิเคราะห์นี้ ทีมงานสามารถเห็นภาพรวมของปัญหาและสามารถนำไปสู่แนวทางการแก้ไขได้อย่างตรงจุด เช่น จัดทำตารางบำรุงรักษาที่เข้มงวดขึ้น, ฝึกอบรมพนักงาน หรือจัดเตรียมอะไหล่ให้เพียงพอ เป็นต้น

 

ประโยชน์ของการใช้ 5W2H

  • ช่วยให้เข้าใจปัญหาอย่างรอบด้าน
  • สร้างแนวทางการแก้ไขที่ชัดเจนและตรงจุด
  • ส่งเสริมการทำงานร่วมกันในทีมอย่างมีระบบ
ใช้ได้กับทั้งการวิเคราะห์ปัญหา การวางแผนงาน และการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์

สรุป
      5W2H เป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังในการวิเคราะห์ปัญหาและหาวิธีแก้ไขอย่างเป็นระบบ เหมาะสำหรับทุกระดับในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงกระบวนการ การแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือการวางแผนเชิงกลยุทธ์ เพราะเมื่อเราถามคำถามที่ถูกต้อง ก็จะได้คำตอบที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
Tags :

บทความที่เกี่ยวข้อง
คลังสินค้าแบบ Just-in-Time: ประหยัดจริงหรือเสี่ยงเกินไป?
หลายบริษัทเริ่มหันมาใช้ระบบคลังสินค้าแบบ Just-in-Time (JIT) เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน แต่ระบบนี้ก็มีคำถามตามมาว่า… “มันคุ้มค่าจริงไหม
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
17 ก.ค. 2025
การพัฒนางานด้วยองค์ความรู้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากน้อยเพียงใด
มากกว่าแค่ทำงานไว: องค์ความรู้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากแค่ไหน? | Blog เราทุกคนต่างมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนถึงสามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นและก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนยังคงยุ่งวุ่นวายอยู่กับงานกองโตในแต่ละวัน? คำตอบไม่ได้อยู่ที่การทำงานหนักขึ้น แต่อยู่ที่ "สินทรัพย์ที่มองไม่เห็น" นั่นคือ องค์ความรู้
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
16 ก.ค. 2025
การยกระดับประสิทธิภาพด้านองค์กร ด้วยแนวทางพัฒนางานอย่างยั่งยืน(copy)
ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความสามารถในการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานขององค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานไม่ใช่เพียงแค่การทำงานให้เร็วขึ้น แต่ต้องครอบคลุมถึงการทำงานที่ มีคุณภาพ ลดความผิดพลาด ใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ปาล์ม นักศึกษาฝึกงาน
16 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ