สั่นสะเทือนวงการธุรกิจทั่วโลก เมื่อทรัมป์ขึ้นภาษี
อัพเดทล่าสุด: 10 เม.ย. 2025
190 ผู้เข้าชม
สั่นสะเทือนวงการธุรกิจทั่วโลก เมื่อทรัมป์ขึ้นภาษี
การกลับมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในสนามการเมืองสหรัฐฯ ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังปลุกประเด็นเก่าให้ร้อนขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่อง การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของเขา
แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ
หากทรัมป์กลับมาจริง และเดินหน้านโยบายขึ้นภาษีอีกครั้ง ใครจะได้รับผลกระทบบ้าง?
บทความนี้พาไปดูกันแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์ก็เก็ทได้
⸻
1. ธุรกิจส่งออก (Exporters)
นี่คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงที่สุด โดยเฉพาะผู้ส่งออกสินค้าที่ต้องผ่านตลาดสหรัฐฯ หรือเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับจีน
ผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น:
คำสั่งซื้อลดลง เพราะราคาสินค้าสูงขึ้นจากภาษี
ลูกค้าในสหรัฐฯ หันไปหาคู่ค้ารายอื่น
เกิดความล่าช้าในการนำเข้าสินค้าจากซัพพลายเชนจีน ซึ่งกระทบกับการผลิตในไทย
⸻
2. โลจิสติกส์และธุรกิจขนส่ง
ธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับปริมาณการค้า หากปริมาณการส่งออก-นำเข้าลดลง
บริษัทขนส่งอาจต้องเผชิญกับ ช่องว่าง ในการขนส่ง
รายได้จากค่าระวางลดลง
ต้องปรับแผนเส้นทางและบริหารต้นทุนใหม่
⸻
3. ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม
ในหลายกรณี โรงงานไทยผลิตชิ้นส่วนที่ส่งไปจีนเพื่อประกอบเป็นสินค้า ก่อนส่งต่อไปสหรัฐฯ
หากภาษีสูงขึ้นจนทำให้สินค้าสำเร็จรูปจากจีนขายไม่ออก
ผู้ผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำในไทยก็โดนผลกระทบไปด้วยทันที
⸻
4. ธุรกิจค้าปลีกที่นำเข้าสินค้าต่างประเทศ
แม้จะอยู่ในประเทศ แต่หากธุรกิจของคุณต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากสหรัฐฯ หรือจีน ก็อาจเจอของแพงขึ้น
ต้นทุนสินค้าเพิ่ม
ลูกค้าไม่กล้าซื้อ เพราะราคาสูง
ยอดขายลดลงแบบไม่รู้ตัว
⸻
5. ธุรกิจการเงิน และนักลงทุน
ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่อย่างไทย มีแนวโน้มผันผวนหนัก เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางการค้า
นักลงทุนอาจเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
เงินบาทผันผวน ส่งผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า/ส่งออก
สถาบันการเงินต้องปรับกลยุทธ์การปล่อยกู้และบริหารความเสี่ยง
⸻
ไม่ใช่แค่ จีน ที่เจอ โลกทั้งใบก็สะเทือน
นโยบายของทรัมป์ แม้จะตั้งเป้าหมายไปที่จีนเป็นหลัก แต่ผลกระทบกลับ ลูกโซ่ ไปทั่วโลก รวมถึงไทยด้วยเช่นกัน
ธุรกิจไทยจึงควรจับตานโยบายของผู้นำโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผน รับมือ ให้ทัน หากต้องเจอพายุเศรษฐกิจรอบใหม่
การกลับมาของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในสนามการเมืองสหรัฐฯ ไม่เพียงสร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังปลุกประเด็นเก่าให้ร้อนขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่อง การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของเขา
แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ
หากทรัมป์กลับมาจริง และเดินหน้านโยบายขึ้นภาษีอีกครั้ง ใครจะได้รับผลกระทบบ้าง?
บทความนี้พาไปดูกันแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นนักเศรษฐศาสตร์ก็เก็ทได้
⸻
1. ธุรกิจส่งออก (Exporters)
นี่คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรงที่สุด โดยเฉพาะผู้ส่งออกสินค้าที่ต้องผ่านตลาดสหรัฐฯ หรือเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้องกับจีน
ผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น:
คำสั่งซื้อลดลง เพราะราคาสินค้าสูงขึ้นจากภาษี
ลูกค้าในสหรัฐฯ หันไปหาคู่ค้ารายอื่น
เกิดความล่าช้าในการนำเข้าสินค้าจากซัพพลายเชนจีน ซึ่งกระทบกับการผลิตในไทย
⸻
2. โลจิสติกส์และธุรกิจขนส่ง
ธุรกิจขนส่งระหว่างประเทศมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับปริมาณการค้า หากปริมาณการส่งออก-นำเข้าลดลง
บริษัทขนส่งอาจต้องเผชิญกับ ช่องว่าง ในการขนส่ง
รายได้จากค่าระวางลดลง
ต้องปรับแผนเส้นทางและบริหารต้นทุนใหม่
⸻
3. ผู้ผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรม
ในหลายกรณี โรงงานไทยผลิตชิ้นส่วนที่ส่งไปจีนเพื่อประกอบเป็นสินค้า ก่อนส่งต่อไปสหรัฐฯ
หากภาษีสูงขึ้นจนทำให้สินค้าสำเร็จรูปจากจีนขายไม่ออก
ผู้ผลิตชิ้นส่วนต้นน้ำในไทยก็โดนผลกระทบไปด้วยทันที
⸻
4. ธุรกิจค้าปลีกที่นำเข้าสินค้าต่างประเทศ
แม้จะอยู่ในประเทศ แต่หากธุรกิจของคุณต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้าจากสหรัฐฯ หรือจีน ก็อาจเจอของแพงขึ้น
ต้นทุนสินค้าเพิ่ม
ลูกค้าไม่กล้าซื้อ เพราะราคาสูง
ยอดขายลดลงแบบไม่รู้ตัว
⸻
5. ธุรกิจการเงิน และนักลงทุน
ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่อย่างไทย มีแนวโน้มผันผวนหนัก เมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางการค้า
นักลงทุนอาจเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
เงินบาทผันผวน ส่งผลต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า/ส่งออก
สถาบันการเงินต้องปรับกลยุทธ์การปล่อยกู้และบริหารความเสี่ยง
⸻
ไม่ใช่แค่ จีน ที่เจอ โลกทั้งใบก็สะเทือน
นโยบายของทรัมป์ แม้จะตั้งเป้าหมายไปที่จีนเป็นหลัก แต่ผลกระทบกลับ ลูกโซ่ ไปทั่วโลก รวมถึงไทยด้วยเช่นกัน
ธุรกิจไทยจึงควรจับตานโยบายของผู้นำโลกอย่างใกล้ชิด พร้อมวางแผน รับมือ ให้ทัน หากต้องเจอพายุเศรษฐกิจรอบใหม่
บทความที่เกี่ยวข้อง
คลังสินค้าอัจฉริยะ หรือ Smart Warehouse คือระบบคลังสินค้าที่นำเทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการจัดการสินค้า โดยใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อการตัดสินใจที่ดียิ่งขึ้น
18 ส.ค. 2025
ในโลกของ โลจิสติกส์และซัพพลายเชน การคาดการณ์ความต้องการ (Demand Forecasting) คือหัวใจสำคัญ ถ้าคาดการณ์ผิดพลาดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้เกิด 2 สถานการณ์ใหญ่ที่ธุรกิจไม่อยากเจอ
18 ส.ค. 2025
ารขนส่งไม่ได้มีทางเลือกเดียวเหมือนในอดีต เพราะสินค้าต้องเดินทางข้ามเมือง ข้ามประเทศ หรือแม้กระทั่งข้ามทวีป จึงจำเป็นต้องใช้ การขนส่งหลายรูปแบบ (Intermodal Transport) เพื่อให้ถึงปลายทางได้เร็วขึ้น ถูกลง และยืดหยุ่นกว่าเดิม
18 ส.ค. 2025