ระบบ MRP คืออะไร? ช่วยการผลิตในแง่ใดได้บ้าง?
อัพเดทล่าสุด: 1 มี.ค. 2025
82 ผู้เข้าชม
การจัดการวัตถุดิบคือกระบวนการที่สำคัญสำหรับการทำงานผลิตในปัจจุบัน โดยเฉพาะโรงงานที่ต้องการการจัดสรรวัตถุดิบให้พอดีกับความต้องการ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป ระบบ MRP (Material Requirement Planning) จึงกลายเป็นอีกตัวช่วยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
ทำความรู้จักระบบ MRP (Material Requirement Planning)
ระบบ MRP หรือ Material Requirement Planning เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผนความต้องการวัตถุดิบ คอยจัดการทั้งในส่วนของการดูแลที่มาที่ไปของวัตถุดิบ ตรวจสอบวัตถุดิบที่ต้องใช้ ไปจนถึงการสั่งซื้อเมื่อมีวัตถุดิบไม่พอ
โดยหน้าที่หลักของ MRP นั้นจะออกแนวเฉพาะเจาะจงในส่วนของ Manufacturing หรือการผลิตในโรงงานมากกว่าโปรแกรมพี่น้องอย่าง ERP (Enterprise Resource Planning) ที่ครอบคลุมกว่า กล่าวคือระบบ MRP นั้นเป็นส่วนนึงของระบบ ERP ก็ว่าได้
ระบบ MRP หรือ Material Requirement Planning เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผนความต้องการวัตถุดิบ คอยจัดการทั้งในส่วนของการดูแลที่มาที่ไปของวัตถุดิบ ตรวจสอบวัตถุดิบที่ต้องใช้ ไปจนถึงการสั่งซื้อเมื่อมีวัตถุดิบไม่พอ
โดยหน้าที่หลักของ MRP นั้นจะออกแนวเฉพาะเจาะจงในส่วนของ Manufacturing หรือการผลิตในโรงงานมากกว่าโปรแกรมพี่น้องอย่าง ERP (Enterprise Resource Planning) ที่ครอบคลุมกว่า กล่าวคือระบบ MRP นั้นเป็นส่วนนึงของระบบ ERP ก็ว่าได้
การทำงานของระบบ MRP
หน้าที่หลักของระบบ MRP คือการวางแผนความต้องการและสร้างตารางการผลิตที่เหมาะสม จัดสรรวัตถุดิบให้เพียงพอสำหรับการผลิตตามแผนงาน โดยมีหลักการสำคัญคือการสั่งซื้อวัตถุดิบให้เพียงพอกับจำนวนและเวลาที่ต้องการ
หน้าที่หลักของระบบ MRP คือการวางแผนความต้องการและสร้างตารางการผลิตที่เหมาะสม จัดสรรวัตถุดิบให้เพียงพอสำหรับการผลิตตามแผนงาน โดยมีหลักการสำคัญคือการสั่งซื้อวัตถุดิบให้เพียงพอกับจำนวนและเวลาที่ต้องการ
โดยระบบ MRP จะรวบรวมคำสั่งซื้อที่ได้รับมาประมวลผล จากนั้นจึงจัดทำแผนความต้องการวัสดุประเภทต่างๆ โดยระบบ MRP จะสามารถตอบโจทย์คำถามเหล่านี้ได้
-ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบชนิดใด เมื่อไหร่
-สั่งปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้การผลิตถูกต้อง ไม่ขาดไม่เกินไปกว่าจำนวนผลิตจริง
-เสร็จทันตามกำหนดระยะเวลาที่ถูกวางเอาไว้ในแผนงาน
-ผูกกับระบบ HR เพื่อตรวจสอบว่าพนักงานคนใดดูแลไลน์การผลิตไหน
-ส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแผน เปลี่ยนพนักงาน หรืออื่นๆ
-ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบชนิดใด เมื่อไหร่
-สั่งปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้การผลิตถูกต้อง ไม่ขาดไม่เกินไปกว่าจำนวนผลิตจริง
-เสร็จทันตามกำหนดระยะเวลาที่ถูกวางเอาไว้ในแผนงาน
-ผูกกับระบบ HR เพื่อตรวจสอบว่าพนักงานคนใดดูแลไลน์การผลิตไหน
-ส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแผน เปลี่ยนพนักงาน หรืออื่นๆ
เงื่อนไขประการสำคัญของระบบ MRP คือการนำเอาวัตถุดิบที่ได้ผ่านการสั่งซื้อ เข้าสู่กระบวนการผลิตตามลำดับขั้นตอน โดยอิงจากแผนงานที่ถูกวิเคราะห์และรวบรวมไว้แล้วเป็นแกนกลาง
ประโยชน์ของระบบ MRP ที่มีต่อองค์กร
-ลดการขาดแคลนวัตถุดิบที่จำเป็นในระหว่างการผลิต ช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานด้านการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่น
-ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง ช่วยให้ไม่เกิดอาการทุนจมหรือเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการหรือจัดเก็บสินค้าคงคลัง
-ช่วยบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดความผิดพลาดในขั้นตอนการสั่งซื้อและจัดหา ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตสินค้าตามใบสั่งหรือแผนงาน
-เก็บรวบรวมฐานข้อมูลและความรู้ความเข้าใจในองค์กร ตั้งแต่ด้านจัดการคลังสินค้า การสั่งซื้อ การผลิตเอาไว้ในที่เดียว เป็นรากฐานและเพิ่มความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ
-เรียกดูข้อมูลรายงานการผลิตและสั่งซื้อต่างๆได้สะดวก ช่วยให้การตรวจสอบหรือนำมาใช้งานภายหลังทำได้ง่ายขึ้น
-เพิ่มความสะดวกในการทำงานให้กับบุคลากร ทำให้สามารถนำเวลาไปใช้ในงานส่วนอื่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น
-ลดการขาดแคลนวัตถุดิบที่จำเป็นในระหว่างการผลิต ช่วยส่งเสริมให้การดำเนินงานด้านการผลิตเป็นไปอย่างราบรื่น
-ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง ช่วยให้ไม่เกิดอาการทุนจมหรือเสียค่าใช้จ่ายในการจัดการหรือจัดเก็บสินค้าคงคลัง
-ช่วยบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้มีประสิทธิภาพ ไม่เกิดความผิดพลาดในขั้นตอนการสั่งซื้อและจัดหา ไปจนถึงขั้นตอนการผลิตสินค้าตามใบสั่งหรือแผนงาน
-เก็บรวบรวมฐานข้อมูลและความรู้ความเข้าใจในองค์กร ตั้งแต่ด้านจัดการคลังสินค้า การสั่งซื้อ การผลิตเอาไว้ในที่เดียว เป็นรากฐานและเพิ่มความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ
-เรียกดูข้อมูลรายงานการผลิตและสั่งซื้อต่างๆได้สะดวก ช่วยให้การตรวจสอบหรือนำมาใช้งานภายหลังทำได้ง่ายขึ้น
-เพิ่มความสะดวกในการทำงานให้กับบุคลากร ทำให้สามารถนำเวลาไปใช้ในงานส่วนอื่น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มากขึ้น
ประโยชน์อื่นๆ ของระบบ MRP
นอกจากจัดตารางการผลิต MRP ยังช่วยลดจำนวนสินค้าคงคลังที่ต้องเหลือค้าง ด้วยระบบที่เอื้ออำนวยในการสั่งซื้อวัตถุดิบแบบผ่านการคิดคำนวณเวลาและการเก็บรักษา รวมไปถึงการใช้งานที่พอดีกับการผลิตจึงไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองหรือจัดหาสถานที่สำหรับเก็บวัตถุดิบคงคลัง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาหรือจัดเก็บไปได้มากทีเดียว
ทั้งหมดเป็นสาเหตุให้การบริหารจัดการที่มาจากระบบ MRP คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การผลิตสินค้ามีประสิทธิภาพ
นอกจากจัดตารางการผลิต MRP ยังช่วยลดจำนวนสินค้าคงคลังที่ต้องเหลือค้าง ด้วยระบบที่เอื้ออำนวยในการสั่งซื้อวัตถุดิบแบบผ่านการคิดคำนวณเวลาและการเก็บรักษา รวมไปถึงการใช้งานที่พอดีกับการผลิตจึงไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองหรือจัดหาสถานที่สำหรับเก็บวัตถุดิบคงคลัง รวมถึงลดค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาหรือจัดเก็บไปได้มากทีเดียว
ทั้งหมดเป็นสาเหตุให้การบริหารจัดการที่มาจากระบบ MRP คือองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การผลิตสินค้ามีประสิทธิภาพ
สรุปท้ายบทความ
พื้นฐานของระบบ MRP เริ่มต้นมาจากความต้องการในการสร้างแผนงานที่เป็นระบบให้แก่องค์กร ในส่วนของการผลิตและจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ หัวใจหลักอยู่ที่การจัดสรรวัตถุดิบทั้งหลายให้เพียงพอต่อการใช้งาน โดยไม่คงเหลือมากจนกลายเป็นสินค้าคงคลังเป็นภาระให้จัดการ และได้สานต่อด้วยการเพิ่มความง่ายในการใช้งาน การทำงานที่รวดเร็ว เรียลไทม์
ในปัจจุบันมีการนำระบบ MRP นี้ไปปรับใช้กับธุรกิจหรือองค์กรแบบอื่น ขยายขอบเขตและรูปแบบการใช้งานให้มากขึ้น ทำให้ไม่ว่าโรงงานเล็กหรือใหญ่ หรือเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างอื่นๆ การใช้ MRP เข้ามาบริหารจัดการ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าการลงบัญชีแบบธรรมดา
พื้นฐานของระบบ MRP เริ่มต้นมาจากความต้องการในการสร้างแผนงานที่เป็นระบบให้แก่องค์กร ในส่วนของการผลิตและจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ หัวใจหลักอยู่ที่การจัดสรรวัตถุดิบทั้งหลายให้เพียงพอต่อการใช้งาน โดยไม่คงเหลือมากจนกลายเป็นสินค้าคงคลังเป็นภาระให้จัดการ และได้สานต่อด้วยการเพิ่มความง่ายในการใช้งาน การทำงานที่รวดเร็ว เรียลไทม์
ในปัจจุบันมีการนำระบบ MRP นี้ไปปรับใช้กับธุรกิจหรือองค์กรแบบอื่น ขยายขอบเขตและรูปแบบการใช้งานให้มากขึ้น ทำให้ไม่ว่าโรงงานเล็กหรือใหญ่ หรือเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างอื่นๆ การใช้ MRP เข้ามาบริหารจัดการ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าการลงบัญชีแบบธรรมดา
BY : Jim
ที่มา : https://1stcraft.com/what-is-mrp/
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ระบบ AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะใน คลังสินค้าและโลจิสติกส์ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้กระบวนการจัดเก็บ คัดแยก และขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่า AI และระบบอัตโนมัติทำงานอย่างไร และส่งผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจคลังสินค้า
21 มี.ค. 2025
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนคือ "คลังสินค้าอัตโนมัติ" หรือ Automated Warehouse ระบบที่ใช้ AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยจัดการแทนมนุษย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน
21 มี.ค. 2025
ในยุคที่ธุรกิจโลจิสติกส์ต้องแข่งขันกับเวลา ความแม่นยำ และความสะดวกสบายสำหรับลูกค้า การมี AI Chatbot เป็นผู้ช่วยตอบคำถามและดูแลลูกค้าในระบบ Booking ขนส่ง
21 มี.ค. 2025