แชร์

SME ต้องรู้ เริ่มต้นธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศอย่างไรให้รุ่ง

noimageauthor นักศึกษาฝึกงาน(ฝ่ายวางแผน)
อัพเดทล่าสุด: 22 ก.พ. 2025
74 ผู้เข้าชม

การนำสินค้าที่มีในประเทศหนึ่งส่งออกไปยังอีกประเทศหนึ่งที่ยังไม่มีสินค้าชนิดนี้ ถือเป็นหลักการส่งออกโดยทั่วไปที่ทำให้ผู้ประกอบการทำธุรกิจส่งออกส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ ประสบความสำเร็จ มาหลายรายแล้ว แล้วถ้าเราจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่งออกควรจะเริ่มต้นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง SME ขนาดกลางและเล็กที่อยากจะนำสินค้าของตนส่งออกไปยังต่างประเทศ เหมือนผู้ประกอบรายใหญ่บ้าง จะเริ่มต้นอย่างไรดี บทความนี้มีคำตอบ

5 ขั้นตอน ทำธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ สำหรับ SME
1. หาความต้องการของสินค้าของเราให้เจอ
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของ SME ที่จะทำธุรกิจส่งออกสินค้าให้ ตรงจุด และตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เราจะนำสินค้าไปเสนอขาย เพราะหากเราเลือกกลุ่มลูกค้าไม่ถูกจุดตั้งแต่เริ่มต้นเราจะเสียเวลา เสียเงินเปล่าไปกับการโปรโมต ค่าใช้จ่ายของการเดินทาง สินค้าตัวอย่าง โดยที่ลูกค้าไม่ได้สนใจสินค้าของเราเลย ดังนั้น หากว่าเราสนใจการทำธุรกิจนำเข้าส่งออกจริง ๆ ให้ลองเข้าไปหากลุ่มลูกค้าของเราด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีฐานข้อมูลลูกค้าต่างประเทศอย่างกรมส่งเสริมการส่งออกก็ได้ครับ
"จุดเริ่มต้นของ SME ที่จะทำธุรกิจส่งออกสินค้าของเราให้ ตรงจุด และตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เราจะนำสินค้าไปเสนอขาย"
2. โปรโมทสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ
เมื่อเราได้กลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการแล้ว SME ที่ต้องการทำธุรกิจส่งออกไปต่างประเทศ ต้องเริ่มต้นโปรโมตสินค้าของตนเองผ่านช่องทางต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ช่องทางอินเทอร์เน็ตอย่างเว็บ www.alibaba.com ที่เป็นเว็บขายส่งสินค้าระดับโลกด้วยการโพสต์บอกสรรพคุณสินค้าของเรา นอกจากนั้นการติดตามกรมส่งเสริมการส่งออกไปออกงานแสดงสินค้าที่ต่างประเทศหรือภายในประเทศเพื่อทำให้สินค้าของเราเป็นที่รับรู้ในวงกว้างที่สุด จนกว่าจะได้ คำสั่งซื้อ จากลูกค้าเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปครับ
3. วางแผนการผลิตและจัดส่งสินค้า
เมื่อเราได้กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ประเทศเป้าหมายในการทำธุรกิจส่งออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมา ก็คือการวางแผนการส่งสินค้าเมื่อเราได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้ามาแล้ว การวางแผนส่งสินค้าประกอบด้วยการวางแผนการผลิตสินค้า การตรวจสอบคุณภาพสินค้า เราต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการคุณภาพสินค้าระดับไหน ต้องมีใบรับรองอะไรบ้าง เพื่อกันความผิดพลาด เพราะหากเราส่งสินค้าผิด Spec ไปยังต่างประเทศแล้วลูกค้าตีกลับ ค่าขนส่งกลับนั้นอาจแพงกว่าราคาสินค้า ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อธุรกิจส่งออกของเราอีกด้วย
4. จัดการเอกสารการส่งออกให้ครบถ้วน
เอกสารการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งถ้าเราเป็น SME ที่ส่งออกสินค้าที่เน่าเสียง่ายยิ่งต้องมีความรอบคอบเรื่องเอกสารให้ครบถ้วนที่สุดครับ ลองเข้าไปดูรายละเอียดและตัวอย่างการทำงานของ SME เพิ่มเติมที่นี่ ขั้นตอนการนำเข้าส่งออกทั้งระบบ "แม่ประนอม" จาก SME ตัวเล็กสู่เวทีระดับโลก
5. การบริหารจัดการด้านการเงินสำหรับผู้ส่งออก
สำหรับการบริหารจัดการด้านการเงินนั้นถือเป็นเครื่องมือที่ใช้ หล่อเลี้ยง ให้การทำธุรกิจส่งออกต่างแระเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้า เปรียบเหมือนกับรถยนต์ที่ไม่มีน้ำมันเครื่องที่ดีก็จะกินน้ำมัน ต้นทุนสูงและไปไม่ได้ไกล สำหรับการขับเคลื่อนทางการเงินด้วยการขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจ SME ผมขอแนะนำบริการสินเชื่อเพื่อการส่งออก (Packing Credit) ของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบริการที่สนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้ส่งออกในการซื้อวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าและช่วยให้ธุรกิจการค้าดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว

สำหรับการบริการธนาคารให้บริการสินเชื่อเพื่อการส่งออกเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นไม่เกิน 180 วันทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยสามารถนำสัญญาซื้อขาย, L/C หรือใบจำนำสินค้ามาเป็นหลักฐานเพื่อขอสินเชื่อ ผู้ส่งออกสามารถเบิกเงินล่วงหน้าเพื่อนำไปซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกและเมื่อได้รับชำระค่าสินค้าจากผู้นำเข้าในต่างประเทศแล้ว จึงนำเงินมาชำระคืนให้กับธนาคารในภายหลัง

BY : Tonkla

ที่มา : krungsri.com


บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีเพิ่มยอดลูกค้าสำหรับเฟรนไชส์ขนส่งในพื้นที่แข่งขันสูง
ในยุคที่ธุรกิจขนส่งเติบโตอย่างรวดเร็ว การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ก็ยิ่งทวีความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการเฟรนไชส์ขนส่งที่ต้องเผชิญกับทั้งผู้เล่นรายใหญ่และธุรกิจท้องถิ่นที่มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น การเพิ่มยอดลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน บทความนี้จะพาคุณไปดูวิธีเพิ่มยอดลูกค้าให้กับเฟรนไชส์ขนส่งของคุณในพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง
ร่วมมือ.jpg Contact Center
22 มี.ค. 2025
AI และระบบอัตโนมัติในคลังสินค้า
ในยุคที่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ระบบ AI และระบบอัตโนมัติ (Automation) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะใน คลังสินค้าและโลจิสติกส์ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้กระบวนการจัดเก็บ คัดแยก และขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจว่า AI และระบบอัตโนมัติทำงานอย่างไร และส่งผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจคลังสินค้า
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 มี.ค. 2025
Automated Warehouse: เมื่อ AI และหุ่นยนต์ทำงานแทนคน
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนคือ "คลังสินค้าอัตโนมัติ" หรือ Automated Warehouse ระบบที่ใช้ AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยจัดการแทนมนุษย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 มี.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ