ระบบ E-POD (Electronic Proof of Delivery) คืออะไร?
อัพเดทล่าสุด: 29 ม.ค. 2025
1491 ผู้เข้าชม
คุณสมบัติหลักของระบบ E-POD
1.บันทึกข้อมูลการส่งมอบแบบเรียลไทม์
- ระบบช่วยให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ทันที
2.ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature)
- ผู้รับสามารถลงลายเซ็นบนอุปกรณ์พกพาหรือแท็บเล็ตของผู้ส่งของได้ทันที
3.ถ่ายภาพหลักฐานการส่งมอบ
- สามารถแนบรูปภาพสินค้า ณ จุดส่งมอบเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม
4.GPS Tracking
- ตรวจสอบตำแหน่งที่แน่นอนของพนักงานส่งของขณะส่งสินค้า
5.QR Code / Barcode Scanning
- ใช้สแกนรหัสสินค้าเพื่อลดข้อผิดพลาดในการส่งมอบ
6.การแจ้งเตือนและรายงานอัตโนมัติ
- ส่งอีเมลหรือ SMS แจ้งเตือนการส่งมอบไปยังลูกค้า
7.บันทึกปัญหาการส่งมอบ
- หากเกิดปัญหา เช่น ไม่มีผู้รับสินค้า สามารถบันทึกเหตุผลลงในระบบเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ประโยชน์ของระบบ E-POD
- ลดการใช้เอกสารกระดาษ (Paperless)
- ป้องกันข้อพิพาทและความผิดพลาดในการส่งมอบ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขนส่งและลดต้นทุน
- สร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
- รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือ WMS
ใครบ้างที่ควรใช้ระบบ E-POD?
- ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
- ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ (Food Delivery, Courier)
- ธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
- ผู้ผลิตและซัพพลายเชน
ที่มา: Chat Gpt
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในธุรกิจขนส่งยุคใหม่ ความสะดวกและความรวดเร็วของการจัดส่งพัสดุไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ที่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของสินค้า แต่ยังขึ้นกับเวลาที่เหมาะสมสำหรับผู้รับในการรับพัสดุด้วย ซึ่งหากเวลาจัดส่งไม่ตรงกับความสะดวกของผู้รับ
18 ก.ค. 2025
ในยุคที่ผู้บริโภคต้องการความรวดเร็วและความโปร่งใสในการขนส่ง พฤติกรรมของผู้รับพัสดุเปลี่ยนไปมาก การรู้ว่าสินค้าของตัวเองอยู่ตรงไหนและจะมาถึงเมื่อไหร่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจใช้บริการขนส่ง
18 ก.ค. 2025
เคยไหมครับ? เวลาที่ต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับบริการขนส่ง แต่กลับต้องจมอยู่กับผลการค้นหาที่กว้างเกินไป ไม่ตรงประเด็น หรือต้องเสียเวลาเปรียบเทียบข้อมูลจากหลายเว็บไซต์จนน่าปวดหัว ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าเรารู้วิธี "ตั้งคำถาม" หรือ "สั่งงาน" ให้ฉลาดขึ้นด้วย พรอมต์ (Prompt)
17 ก.ค. 2025