แชร์

Net Promoter Score (NPS) คืออะไร

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 21 ธ.ค. 2024
834 ผู้เข้าชม

Net Promoter Score (NPS) คืออะไร

 

Net Promoter Score (NPS) หรือ คะแนนผู้สนับสนุนสุทธิ เป็นตัวชี้วัดที่นิยมใช้ในการวัดความพึงพอใจของลูกค้าและความภักดีต่อแบรนด์ โดยจะวัดจากความน่าจะเป็นที่ลูกค้าจะแนะนำแบรนด์ให้กับผู้อื่น

 

NPS ทำงานอย่างไร?

โดยทั่วไปแล้ว การวัด NPS จะใช้แบบสอบถามง่ายๆ เพียงคำถามเดียว คือ "คุณจะแนะนำบริษัท/ผลิตภัณฑ์/บริการของเราให้กับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานของคุณมากน้อยแค่ไหน?" พร้อมกับให้คะแนนจาก 0-10

  • คะแนน 9-10: ถือว่าเป็น Promoters (ผู้สนับสนุน) คือลูกค้าที่พึงพอใจอย่างมากและมีแนวโน้มจะแนะนำแบรนด์ให้กับผู้อื่น
  • คะแนน 7-8: ถือว่าเป็น Passives (ผู้ที่เฉยๆ) คือลูกค้าที่พอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงขั้นจะแนะนำแบรนด์อย่างแข็งขัน
  • คะแนน 0-6: ถือว่าเป็น Detractors (ผู้คัดค้าน) คือลูกค้าที่ไม่พอใจและมีแนวโน้มจะพูดในแง่ลบเกี่ยวกับแบรนด์

 

วิธีคำนวณ NPS

  • หาเปอร์เซ็นต์ของ Promoters
  • หาเปอร์เซ็นต์ของ Detractors
  • นำเปอร์เซ็นต์ของ Promoters ลบด้วยเปอร์เซ็นต์ของ Detractors จะได้ค่า NPS

 

ตัวอย่าง

ถ้ามีผู้ตอบแบบสอบถาม 100 คน

  • 70 คน ให้คะแนน 9-10 (Promoters)
  • 20 คน ให้คะแนน 7-8 (Passives)
  • 10 คน ให้คะแนน 0-6 (Detractors)

NPS = 70% - 10% = 60
 

NPS ที่ดีคือเท่าไหร่?
 

  • NPS บวก: แสดงว่ามีลูกค้าพึงพอใจและพร้อมจะแนะนำแบรนด์ให้กับผู้อื่น
  • NPS เป็นศูนย์: แสดงว่าจำนวนผู้สนับสนุนและผู้คัดค้านเท่ากัน
  • NPS เป็นลบ: แสดงว่ามีลูกค้าไม่พอใจมากกว่าผู้สนับสนุน

 

ทำไม NPS ถึงสำคัญ?

  • วัดความภักดีของลูกค้า: ช่วยให้ทราบว่าลูกค้ามีความพึงพอใจและภักดีต่อแบรนด์มากน้อยแค่ไหน
  • เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: สามารถนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่งเพื่อดูว่าแบรนด์ของเราเป็นอย่างไร
  • ติดตามผลการดำเนินงาน: สามารถใช้เป็นตัวชี้วัดในการติดตามผลการดำเนินงานของกลยุทธ์ต่างๆ
  • ปรับปรุงบริการ: สามารถนำข้อมูลจาก NPS ไปวิเคราะห์เพื่อหาจุดแข็งจุดอ่อนและปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้น

 

ข้อควรระวังในการใช้ NPS

  • ไม่ใช่ตัวชี้วัดเดียวที่สมบูรณ์: ควรนำไปใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อให้ได้ภาพรวมที่ชัดเจน
  • ต้องมีการวิเคราะห์เพิ่มเติม: คะแนน NPS เพียงอย่างเดียวไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงได้ ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม
  • ต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง: NPS เป็นตัวชี้วัดที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา จึงต้องมีการติดตามและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

 

สรุป

NPS เป็นเครื่องมือที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการวัดความพึงพอใจของลูกค้าและความภักดีต่อแบรนด์ การนำ NPS ไปใช้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงบริการและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น


บทความที่เกี่ยวข้อง
ถอดรหัสความสำเร็จ Social Commerce: เปลี่ยนผู้ติดตามให้เป็นลูกค้าบนโซเชียลมีเดีย
"มียอดไลก์หลักพัน แต่ยอดสั่งซื้อหลักหน่วย" "ผู้ติดตามเยอะมาก แต่ทำไมเงียบจังเวลาขายของ?" นี่คือเสียงสะท้อนที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนกำลังเผชิญในยุคที่การแข่งขันบนโซเชียลมีเดียสูงลิ่ว การมีผู้ติดตามเยอะ (Followers) ไม่ได้การันตีว่าจะสร้างยอดขายได้เสมอไป แต่กุญแจสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยน "ผู้ติดตาม" เหล่านั้นให้กลายเป็น "ลูกค้า" (Customers)
ร่วมมือ.jpg Contact Center
20 ต.ค. 2025
การตลาดแบบมนุษย์: แปลงข้อมูลดิบให้เป็น 'เสียง' ของลูกค้าที่แบรนด์ต้องฟัง
ในโลกการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing) แบรนด์ส่วนใหญ่มักหยุดอยู่แค่การวิเคราะห์สถิติเพื่อเพิ่มยอดขาย แต่ "การตลาดแบบมนุษย์" (Human-Centric Marketing) คือวิวัฒนาการขั้นต่อไป เป็นการเคลื่อนจาก 'Customer-Centric' (ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง) สู่ 'Human-Centric' (มนุษย์เป็นศูนย์กลาง) อย่างแท้จริง หัวใจของแนวคิดนี้คือการใช้เทคโนโลยีและข้อมูลมหาศาลเพื่อแปลงตัวเลขที่เย็นชา ให้กลายเป็นเสียงที่มีชีวิต ชีวา และเต็มไปด้วยความรู้สึกของมนุษย์ เพื่อให้แบรนด์ไม่ได้เพียงแค่ 'ตอบสนอง' แต่สามารถ 'เข้าใจ' และ 'อยู่เคียงข้าง' ลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งในทุกมิติ
Gemini_Generated_Image_bjhh8wbjhh8wbjhh.png ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
20 ต.ค. 2025
แนะนำวิธีประเมินเรื่องเล่าของแบรนด์ เช่น การทำ A/B testing หัวข้อ, การทำ Survey สั้นๆ หรือการสังเกตปฏิกิริยาทางอารมณ์
ในยุคที่ตลาดเต็มไปด้วยสินค้าและบริการที่คล้ายคลึงกัน การ "เล่าเรื่องของแบรนด์" (Brand Storytelling) คืออาวุธสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง แต่คำถามสำคัญคือ เรื่องเล่าที่คุณลงทุนลงแรงไปนั้น "ทำงานจริงหรือไม่?" การวัดผลด้วยแค่ยอดไลก์หรือยอดวิวอาจไม่เพียงพอ เพราะการเล่าเรื่องที่ดีต้องสร้างการรับรู้ ความเชื่อใจ และนำไปสู่การกระทำ (Conversion) บทความนี้จะเปิดเผย 3 วิธีการประเมินเรื่องเล่าของแบรนด์แบบมืออาชีพ ที่จะช่วยให้คุณรู้ได้อย่างแม่นยำว่า Storytelling ของคุณสร้างผลกระทบทางอารมณ์และธุรกิจได้จริงแค่ไหน
Gemini_Generated_Image_bjhh8wbjhh8wbjhh.png ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
20 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ