แชร์

การบำรุงรักษาเชิงป้องกันแตกต่างจากการบำรุงรักษาเชิงแก้ไขอย่างไร?

อัพเดทล่าสุด: 21 ธ.ค. 2024
725 ผู้เข้าชม

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน vs. การบำรุงรักษาเชิงแก้ไข

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน และ การบำรุงรักษาเชิงแก้ไข เป็นสองแนวทางหลักในการดูแลรักษาเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ แต่มีหลักการและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance)

หลักการ: การบำรุงรักษาโดยมีเป้าหมายหลักคือการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหรือความเสียหายขึ้นกับเครื่องจักร โดยอาศัยการตรวจสอบและบำรุงรักษาตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า

วิธีการ

  • ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ
  • เปลี่ยนถ่ายน้ำมันและสารหล่อลื่น
  • ทำความสะอาดชิ้นส่วน
  • ปรับตั้งค่าต่างๆ
  • เปลี่ยนอะไหล่ที่เสื่อมสภาพก่อนที่จะเกิดปัญหา

ข้อดี

  • ลดความเสี่ยงของการหยุดทำงานฉุกเฉิน
  • ยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร
  • ลดต้นทุนในการซ่อมแซมในระยะยาว
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

ข้อจำกัด

  • อาจมีการเปลี่ยนอะไหล่ที่ยังใช้งานได้ดี
  • ต้องใช้ทรัพยากรในการวางแผนและดำเนินการ

การบำรุงรักษาเชิงแก้ไข (Corrective Maintenance)

หลักการ: การบำรุงรักษาที่เกิดขึ้นเมื่อเครื่องจักรเกิดความเสียหายหรือหยุดทำงานแล้ว จึงเข้าไปซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานได้

วิธีการ

  • ตรวจสอบหาสาเหตุของปัญหา
  • ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ที่เสียหาย

ข้อดี

  • ไม่ต้องลงทุนกับการบำรุงรักษาเชิงป้องกันล่วงหน้า

ข้อจำกัด

  • ทำให้การผลิตหยุดชะงัก
  • มีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูง
  • อาจเกิดความเสียหายเพิ่มเติมหากปล่อยให้ปัญหาลุกลาม

การเลือกใช้วิธีการบำรุงรักษา ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของเครื่องจักร ความสำคัญของการทำงานต่อเนื่อง ต้นทุนในการบำรุงรักษา และทรัพยากรที่มีอยู่ โดยทั่วไปแล้ว การบำรุงรักษาเชิงป้องกันเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากช่วยลดต้นทุนในระยะยาวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต

 

ที่มา: Gemini

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
จัดโซนในคลังให้ปัง: เทคนิคการแบ่งพื้นที่อย่างมือโปร
การจัดโซนในคลังสินค้าไม่ใช่แค่การแบ่งพื้นที่วางของเท่านั้น แต่เป็นหัวใจของการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
6 ก.ค. 2025
เปลี่ยนคลังสินค้าให้เป็นจุดสร้างยอดขาย ไม่ใช่แค่ที่เก็บของ
หลายธุรกิจยังมองว่า “คลังสินค้า” คือที่เก็บของเฉยๆ เป็นต้นทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ความจริงแล้ว ถ้าบริหารจัดการอย่างมีกลยุทธ์ คลังสินค้าสามารถเป็นเครื่องมือสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้อย่างมหาศาล
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
6 ก.ค. 2025
Warehouse KPI ที่คุณควรติดตาม ถ้าอยากให้คลังทำกำไร
คลังสินค้าไม่ได้เป็นแค่ที่เก็บของ แต่คือหัวใจของธุรกิจที่ช่วยสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า และลดต้นทุนได้อย่างมหาศาล ถ้าคลังของคุณ “ไม่มีกำไร” หรือ “ไร้ประสิทธิภาพ” อาจเพราะคุณยังไม่ได้ติดตาม KPI (Key Performance Indicators) ที่ถูกต้อง
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
6 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ