อุตสาหกรรม 4.0 คืออะไร? มีวิธีรับมืออย่างไร?
อัพเดทล่าสุด: 13 ธ.ค. 2024
551 ผู้เข้าชม
อุตสาหกรรม 4.0 เป็นชื่อที่ได้จากการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ซึ่งในแต่ละครั้งจะมีการดึงเอาเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งกระบวนการผลิต เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์และแรงงานที่เปลี่ยนไป
การปฏิวัติอุตสาหกรรม เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตและระบบการผลิต จากจุดเริ่มต้นที่ผลิตกันในรูปแบบของพ่อค้าที่เป็นนายทุน จัดหาวัตถุดิบมาจ้างให้แรงงานผลิตด้วยฝีมือและใช้เครื่องมือแบบง่ายๆ เมื่อมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตจึงหันมาใช้เครื่องจักรกลแทนแรงงานคน ตั้งแต่งานผลิตง่ายๆ ไปจนถึงการผลิตที่มีรูปแบบซับซ้อน กลายมาเป็นการผลิตในรูปแบบโรงงาน (Factory System)
สู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4
หลังจากที่มีการเปลี่ยนเข้าสู่การกระบวนการผลิตจากช่างฝีมือไปสู่รูปแบบโรงงาน ก็มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมมาแล้ว 4 ครั้ง โดยเริ่มจาก
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 เป็นยุคที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำจากพลังงานถ่านหินในระบบรถไฟและโรงงาน แรงงานเปลี่ยนจากเกษตรกร ช่างฝีมือ เข้าสู่การทำงานในโรงงานขนาดเล็ก
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ยุคพลังงานใหม่จากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้า การผลิตเป็นระบบสายพานที่เน้นการผลิตแบบ Mass Production ในปริมาณมากและรวดเร็ว แรงงานเข้ามาทำงานในระบบโรงงานที่ใหญ่มากขึ้น
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 มีการนำเอา IT (Information Technology) และคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรม ทำให้เกิดเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ แรงงงานบางส่วนจึงถูกหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนที่
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Industry4.0) เป็นการนำเอาโลกของการผลิต มาเชื่อมต่อกับเครือข่ายในรูปแบบ IoT (Internet of Things) ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตสินค้าเชื่อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล การนำสินค้าไปเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี รวมไปถึงการทำงานของแรงงานที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยให้งานผลิตสำเร็จได้รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
หลังจากที่มีการเปลี่ยนเข้าสู่การกระบวนการผลิตจากช่างฝีมือไปสู่รูปแบบโรงงาน ก็มีการปฏิวัติอุตสาหกรรมมาแล้ว 4 ครั้ง โดยเริ่มจาก
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 1 เป็นยุคที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำจากพลังงานถ่านหินในระบบรถไฟและโรงงาน แรงงานเปลี่ยนจากเกษตรกร ช่างฝีมือ เข้าสู่การทำงานในโรงงานขนาดเล็ก
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 2 ยุคพลังงานใหม่จากน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติและไฟฟ้า การผลิตเป็นระบบสายพานที่เน้นการผลิตแบบ Mass Production ในปริมาณมากและรวดเร็ว แรงงานเข้ามาทำงานในระบบโรงงานที่ใหญ่มากขึ้น
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 มีการนำเอา IT (Information Technology) และคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรม ทำให้เกิดเครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ แรงงงานบางส่วนจึงถูกหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนที่
-การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Industry4.0) เป็นการนำเอาโลกของการผลิต มาเชื่อมต่อกับเครือข่ายในรูปแบบ IoT (Internet of Things) ซึ่งทำให้กระบวนการผลิตสินค้าเชื่อมกับเทคโนโลยีดิจิทัล การนำสินค้าไปเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี รวมไปถึงการทำงานของแรงงานที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยให้งานผลิตสำเร็จได้รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
สิ่งควรเตรียมรับมือให้พร้อม คือในเรื่องของแรงงานที่จะมีเทคโนโลยีเข้ามาทำงานทดแทนแรงงาน ทำให้การเตรียมพร้อมในทักษะของแรงงานจะต้องสอดคล้องไปกับการพัฒนาของเทคโนโลยีด้วย เพื่อให้สามารถพัฒนาฝีมือและแข่งขันกับตลาดแรงงานในต่างประเทศได้
โดยการเตรียมพร้อมคนกำลังจะเริ่มทำงานใหม่ และใส่ใจคนทำงานเดิม ผ่านทักษะแรงงานที่จำเป็นในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้แก่
-การคิดวิเคราะห์ การคิดเชิงลึก สังเคราะห์ข้อมูลที่หลากหลาย
-การแก้ไขปัญหา
-ความคิดสร้างสรรค์
-การทำงานร่วมกับสังคม
-วุฒิภาวะทางอารมณ์
โดยการเตรียมพร้อมคนกำลังจะเริ่มทำงานใหม่ และใส่ใจคนทำงานเดิม ผ่านทักษะแรงงานที่จำเป็นในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ได้แก่
-การคิดวิเคราะห์ การคิดเชิงลึก สังเคราะห์ข้อมูลที่หลากหลาย
-การแก้ไขปัญหา
-ความคิดสร้างสรรค์
-การทำงานร่วมกับสังคม
-วุฒิภาวะทางอารมณ์
ปฏิรูปตั้งแต่การผลิตแรงงานของสถานศึกษา
เมื่ออุตสาหกรรมในอนาคตกำลังจะเปลี่ยนไป สถานศึกษาต้องมุ่งสร้างแรงงานให้มีคุณสมบัติที่พร้อมกับการทำงานร่วมไปกับเทคโนโลยี ซึ่งได้แก่
1. เรียนรู้ใหม่ได้ตลอดชีวิต
การเรียนรู้จะไม่ใช่การเรียนจบแล้วออกไปทำงาน แต่ผู้ที่ออกมาทำงานแล้วจะต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง และต้องมีความรู้พื้นฐานที่เข้มแข็ง กล่าวคือต้องไม่หยุดที่จะเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่
2. มีความคิดสร้างสรรค์
สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ จากการได้ฝึกเป็นคนที่ช่างคิดวิเคราะห์ ชอบตั้งคำถาม รวมไปถึงแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
3. เข้าใจการทำงานของเทคโนโลยี
ทุกสิ่งในยุค 4.0 ทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ นั้นถูกทำลายลง ซึ่งการเข้าใจระบบการทำงาน รวมถึงการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอยู่เสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น
4. ทักษะด้านอารมณ์และ Soft Skills
การพัฒนาทักษะให้สามารถทำงานร่วมกับสังคม รวมถึงการเข้าสังคมได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาตนเองให้มองโลกในแง่บวก เพื่อให้สามารถทำงานได้ดีในโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่
การก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ไม่ใช่เพียงภาคอุตสาหกรรมและแรงงานที่ต้องเตรียมพร้อมเท่านั้น แต่ทางภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา สถานประกอบการ และประชาชน ก็ต้องมีทั้งความรู้ ทัศนคติ
เมื่ออุตสาหกรรมในอนาคตกำลังจะเปลี่ยนไป สถานศึกษาต้องมุ่งสร้างแรงงานให้มีคุณสมบัติที่พร้อมกับการทำงานร่วมไปกับเทคโนโลยี ซึ่งได้แก่
1. เรียนรู้ใหม่ได้ตลอดชีวิต
การเรียนรู้จะไม่ใช่การเรียนจบแล้วออกไปทำงาน แต่ผู้ที่ออกมาทำงานแล้วจะต้องเรียนรู้และพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง และต้องมีความรู้พื้นฐานที่เข้มแข็ง กล่าวคือต้องไม่หยุดที่จะเปิดรับการเรียนรู้สิ่งใหม่
2. มีความคิดสร้างสรรค์
สามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ จากการได้ฝึกเป็นคนที่ช่างคิดวิเคราะห์ ชอบตั้งคำถาม รวมไปถึงแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
3. เข้าใจการทำงานของเทคโนโลยี
ทุกสิ่งในยุค 4.0 ทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้ข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างๆ นั้นถูกทำลายลง ซึ่งการเข้าใจระบบการทำงาน รวมถึงการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอยู่เสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น
4. ทักษะด้านอารมณ์และ Soft Skills
การพัฒนาทักษะให้สามารถทำงานร่วมกับสังคม รวมถึงการเข้าสังคมได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาตนเองให้มองโลกในแง่บวก เพื่อให้สามารถทำงานได้ดีในโลกอุตสาหกรรมยุคใหม่
การก้าวเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม 4.0 ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ไม่ใช่เพียงภาคอุตสาหกรรมและแรงงานที่ต้องเตรียมพร้อมเท่านั้น แต่ทางภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา สถานประกอบการ และประชาชน ก็ต้องมีทั้งความรู้ ทัศนคติ
BY : Jim
ที่มา : https://shorturl.asia/XhPaL
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ถ้าพูดถึง “โดรนส่งพัสดุ” ภาพที่หลายคนคงนึกออกคือ เสียง วี๊นนนนน ดังลั่นเหมือนผึ้งยักษ์บินผ่านบ้าน ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเหมาะถ้าต้องส่งของตอนกลางคืน หรือในพื้นที่ชุมชนเงียบสงบ
แต่ตอนนี้ นักพัฒนาได้สร้าง “Silent Delivery Drone” หรือโดรนไร้เสียง ที่บินได้แทบจะเงียบสนิท
14 ส.ค. 2025
แทนที่คุณจะเห็นพนักงานหยิบสินค้าด้วยมือ คุณจะเห็น “ลำแสงเลเซอร์” กวาดไปมาบนพัสดุ แล้วสินค้าก็ถูกหยิบขึ้นอย่างแม่นยำราวกับเวทมนตร์
14 ส.ค. 2025
นี่คือที่มาของเทคโนโลยี Green Light Freight Corridor หรือที่หลายคนเรียกว่า “ขนส่งแบบไม่ใช้ไฟแดง” ซึ่งผสมผสาน ระบบ AI จราจรอัจฉริยะ + การสื่อสารระหว่างรถกับโครงสร้างพื้นฐาน (V2I: Vehicle-to-Infrastructure) เพื่อให้รถบรรทุกสามารถวิ่งผ่านสัญญาณไฟได้โดยไม่ต้องหยุดแม้แต่ครั้งเดียวตลอดเส้นทาง
14 ส.ค. 2025