DMAIC แตกต่างจาก Lean อย่างไร ?
อัพเดทล่าสุด: 4 พ.ย. 2024
442 ผู้เข้าชม
DMAIC และ Lean: สองเครื่องมือที่ทรงพลังในการปรับปรุงกระบวนการ
ทั้ง DMAIC (Define, Measure, Analyze, Improve, Control) และ Lean เป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นการปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุน และเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า แต่ทั้งสองมีจุดมุ่งหมายและวิธีการที่แตกต่างกัน ดังนี้
DMAIC (Define, Measure, Analyze, Improve, Control)
- จุดมุ่งหมาย: มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาเฉพาะเจาะจง โดยใช้ข้อมูลเป็นหลักในการวิเคราะห์และหาสาเหตุของปัญหา เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงที่เป็นรูปธรรม
- ขั้นตอน: มีขั้นตอนที่ชัดเจนและเป็นระบบ โดยเริ่มจากการกำหนดปัญหา วัดผล วิเคราะห์สาเหตุ ปรับปรุง และควบคุมผลลัพธ์
- เครื่องมือ: ใช้เครื่องมือทางสถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น แผนภูมิควบคุม ไดอะแกรมอิชิคาว่า การทดลองทางสถิติ
- ผลลัพธ์: เน้นการลดความแปรปรวนของกระบวนการ และเพิ่มความสอดคล้องกับข้อกำหนด
Lean
- จุดมุ่งหมาย: มุ่งเน้นไปที่การกำจัดของเสียทุกประเภทในกระบวนการทำงาน เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าสูงสุด
- หลักการ: มีหลักการ 5 ประการ ได้แก่ การกำจัดของเสีย (Waste), การสร้างกระแสการไหล (Flow), การสร้างระบบดึง (Pull), การสร้างวัฒนธรรมของการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement), และการแสวงหาความสมบูรณ์แบบ (Perfection)
- เครื่องมือ: ใช้เครื่องมือที่หลากหลาย เช่น แผนภูมิค่าเวลา (Value Stream Map), การจัดการด้วยสายตา (Visual Management), 5S, Kaizen
- ผลลัพธ์: เน้นการลดเวลาในการผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
DMAIC และ Lean สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร?
ทั้ง DMAIC และ Lean สามารถนำมาใช้ร่วมกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดย DMAIC สามารถช่วยในการระบุปัญหาและหาสาเหตุของปัญหาได้อย่างแม่นยำ ขณะที่ Lean สามารถช่วยในการกำจัดสาเหตุของปัญหาและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่าง
- ปัญหา: ผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่งมีอัตราการเสียสูง
- DMAIC: ใช้ DMAIC เพื่อหาสาเหตุของปัญหา เช่น วัตถุดิบมีคุณภาพไม่สม่ำเสมอ หรือเครื่องจักรมีปัญหา
- Lean: ใช้ Lean เพื่อกำจัดสาเหตุของปัญหา เช่น ปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบ หรือทำการบำรุงรักษาเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
ทั้ง DMAIC และ Lean เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน การเลือกใช้เครื่องมือใดขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหาและเป้าหมายขององค์กร การนำทั้งสองแนวคิดมาผสมผสานกันจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
BY: MANthi
ที่มา: Gemini
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีคำนวณ Efficiency ของพื้นที่จัดเก็บแบบ Racking พร้อมเทคนิคเพิ่มประสิทธิภาพคลัง!
22 เม.ย. 2025
ในโลกของการทำงาน การวิเคราะห์ปัญหาและหาวิธีแก้ไขอย่างเป็นระบบเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและได้ผลดี คือ 5W2H ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับการวิเคราะห์สถานการณ์ ปัญหา หรือแม้กระทั่งการวางแผนโครงการต่างๆ
21 เม.ย. 2025
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจทวีความรุนแรง การลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ลดคุณภาพเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ หนึ่งในแนวทางที่มีประสิทธิภาพและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายคือ “Kaizen” ซึ่งเป็นแนวคิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องที่มีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น
21 เม.ย. 2025