แชร์

ประกันภัยสินค้าคุ้มครองอะไรบ้าง ?

อัพเดทล่าสุด: 21 ก.ย. 2024
859 ผู้เข้าชม

ประกันภัยสินค้า หรือ ประกันภัยการขนส่ง เป็นการคุ้มครองความเสียหายหรือสูญเสียที่เกิดขึ้นกับสินค้าระหว่างการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ซึ่งความคุ้มครองนั้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทของกรมธรรม์และบริษัทประกันที่คุณเลือก แต่โดยทั่วไปแล้ว ประกันภัยสินค้าจะให้ความคุ้มครองในเรื่องต่อไปนี้ค่ะ

ความคุ้มครองหลักๆ ของประกันภัยสินค้า

ความเสียหายทางกายภาพ:

  • สินค้าเสียหายจากอุบัติเหตุ เช่น การชน การตก การกระแทก
  • สินค้าเสียหายจากสภาพอากาศ เช่น พายุ ฝนตก น้ำท่วม
  • สินค้าเสียหายจากการขนย้าย เช่น รอยขีดข่วน รอยบุบ

การสูญหาย:

  • สินค้าสูญหายทั้งหมดหรือบางส่วนระหว่างการขนส่ง
  • สินค้าถูกขโมย

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม:

  • ค่าใช้จ่ายในการเคลมประกัน
  • ค่าใช้จ่ายในการกู้คืนสินค้า
  • ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบสินค้า

ความเสียหายทั่วไป (General Average):

  • เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่จงใจเพื่อรักษาความปลอดภัยของเรือและสินค้าทั้งหมด เช่น การทิ้งสินค้าลงทะเลเพื่อช่วยให้เรือลอยตัวได้
  • ผู้เอาประกันภัยจะต้องร่วมกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ตามสัดส่วนของมูลค่าสินค้าที่เอาประกันภัย

ประเภทของกรมธรรม์ประกันภัยสินค้า

  • กรมธรรม์แบบ A (Institute Cargo Clauses (A)): ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สุด โดยคุ้มครองความเสี่ยงภัยเกือบทุกชนิด
  • กรมธรรม์แบบ B (Institute Cargo Clauses (B)): ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าแบบ A โดยจะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากสาเหตุภายใน เช่น การบูดเน่า เสื่อมสภาพ
  • กรมธรรม์แบบ C (Institute Cargo Clauses (C)): ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด โดยจะคุ้มครองเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์ที่รุนแรง เช่น อัคคีภัย การระเบิด การจม

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความคุ้มครองและเบี้ยประกัน

  • มูลค่าของสินค้า: ยิ่งมูลค่าของสินค้าสูง เบี้ยประกันก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
  • เส้นทางการขนส่ง: เส้นทางการขนส่งที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การขนส่งทางทะเลระยะไกล ก็จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่า
  • ประเภทของสินค้า: สินค้าที่เปราะบางหรือมีมูลค่าสูง จะมีเบี้ยประกันที่สูงกว่าสินค้าทั่วไป
  • เงื่อนไขความคุ้มครอง: เงื่อนไขความคุ้มครองที่แตกต่างกันก็จะส่งผลต่อเบี้ยประกันที่แตกต่างกัน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนทำประกันภัยสินค้า

  • อ่านกรมธรรม์ให้ละเอียด: ก่อนตัดสินใจทำประกัน ควรอ่านกรมธรรม์ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อทราบสิทธิและความรับผิดชอบของตนเอง
  • เปรียบเทียบราคาและความคุ้มครอง: ควรเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองจากหลายๆ บริษัทประกัน เพื่อเลือกแผนที่เหมาะสมกับความต้องการ
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากมีข้อสงสัย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัย เพื่อขอคำแนะนำ

การทำประกันภัยสินค้าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่ดี หากคุณมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหรือนำเข้าสินค้า การทำประกันภัยจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น สินค้าของคุณจะได้รับการคุ้มครอง




BY: Theeratepplai

ที่มา: Gemini


บทความที่เกี่ยวข้อง
ส่งของผ่าน Smart Locker: เทคโนโลยีนี้จะมาแทนจุดรับพัสดุหรือไม่?
ลองจินตนาการว่า...คุณสั่งของออนไลน์ และพัสดุของคุณถูกส่งมาถึง "ตู้ล็อกเกอร์" ใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคนส่ง ไม่ต้องมีใครโทรมาแค่สแกน QR หรือใส่รหัส ก็รับของได้เลยภายในไม่กี่วินาที
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
12 ก.ค. 2025
เทคโนโลยี AI กับการจัดรอบรถให้คุ้มต้นทุนสูงสุด
ในธุรกิจขนส่ง ทุกการวิ่งรถคือ "ต้นทุน" ถ้าวิ่งผิดรอบ ผิดเส้นทาง หรือมีพัสดุน้อยเกินไป ก็เท่ากับ เสียเงินเปล่า นี่คือเหตุผลที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญโดยเฉพาะในเรื่องของ การจัดรอบรถอัตโนมัติ (AI Route Optimization)
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
12 ก.ค. 2025
อนาคตของศูนย์คัดแยกพัสดุอัตโนมัติในประเทศไทย
ในยุคที่อีคอมเมิร์ซเติบโตเร็ว พัสดุหลายล้านชิ้นเคลื่อนไหวในแต่ละวัน ระบบ คัดแยกพัสดุ จึงกลายเป็นหัวใจของธุรกิจขนส่ง
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
12 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ