แชร์

แอป "Make by KBank" (หรือที่บางครั้งเรียกว่า "Make")

อัพเดทล่าสุด: 28 ส.ค. 2024
437 ผู้เข้าชม

แอป "Make by KBank" คืออะไร?

แอป "Make by KBank" (หรือที่บางครั้งเรียกว่า "Make") เป็นแอปพลิเคชันการเงินดิจิทัลที่พัฒนาโดยธนาคารกสิกรไทย (KBank) ซึ่งมีจุดมุ่งหมายในการให้บริการการเงินที่สะดวกและทันสมัยแก่ผู้ใช้ แอปนี้มีฟีเจอร์หลักหลายประการที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในยุคดิจิทัล



ฟีเจอร์หลักของแอป Make by KBank

การเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์:
สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ทันทีผ่านแอปโดยไม่ต้องไปที่สาขา ใช้เอกสารประจำตัวและการยืนยันตัวตนผ่านระบบออนไลน์
การทำธุรกรรมการเงิน:
โอนเงิน: ส่งเงินระหว่างบัญชีธนาคารหรือไปยังบัญชีอื่นๆ รวมถึงการโอนเงินผ่าน QR Code
จ่ายบิล: ชำระค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภค, ค่าบัตรเครดิต, และค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้สะดวก
การจัดการบัญชี:
ตรวจสอบยอดเงิน: ดูยอดคงเหลือและประวัติธุรกรรมของบัญชีได้ตลอดเวลา
ตั้งงบประมาณ: ตั้งงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายและติดตามการใช้จ่ายเพื่อการวางแผนทางการเงินที่ดีขึ้น
การทำธุรกรรมผ่าน QR Code:
ใช้ QR Code เพื่อทำการโอนเงินหรือชำระเงินได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
การลงทุน:
บางเวอร์ชันของแอปอาจมีบริการการลงทุนพื้นฐาน เช่น การลงทุนในกองทุนหรือการซื้อขายหุ้น
บริการทางการเงินเพิ่มเติม:
เช่น สินเชื่อหรือการกู้เงิน ที่อาจให้บริการผ่านแอป ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการการเงินได้อย่างครบวงจร
ความปลอดภัยและการป้องกัน:
มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การตรวจสอบลายนิ้วมือ (Fingerprint) หรือการใช้การยืนยันตัวตนด้วยรหัส OTP (One-Time Password)

วิธีการใช้งานแอป Make by KBank

ดาวน์โหลดและติดตั้ง:
ดาวน์โหลดแอป "Make by KBank" จาก App Store (iOS) หรือ Google Play Store (Android) และติดตั้งบนอุปกรณ์ของคุณ
สมัครและลงทะเบียน:
เปิดแอปและทำการสมัครสมาชิก โดยกรอกข้อมูลส่วนตัวและทำตามขั้นตอนการยืนยันตัวตน
เริ่มใช้งาน:
ลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลที่คุณสมัครไว้ จากนั้นคุณสามารถเริ่มทำธุรกรรมการเงินหรือใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ตามความต้องการ
การใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ:
ใช้เมนูในแอปเพื่อทำธุรกรรมต่างๆ เช่น การโอนเงิน, การจ่ายบิล, หรือการตรวจสอบยอดเงิน
แอป Make by KBank มีจุดมุ่งหมายในการทำให้การจัดการการเงินของคุณสะดวกสบายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น และช่วยให้คุณสามารถจัดการเรื่องการเงินได้ง่ายขึ้นผ่านอุปกรณ์มือถือของคุณ

การใช้แอป Make by KBank มีประโยชน์หลากหลายที่ช่วยให้การจัดการการเงินและการดำเนินธุรกรรมต่างๆ ง่ายและสะดวกขึ้น:

1. สะดวกสบาย
เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์: สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ทันทีโดยไม่ต้องไปที่สาขา ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยาก
ทำธุรกรรมได้ทุกที่: ทำธุรกรรมการเงินต่างๆ เช่น การโอนเงินและการจ่ายบิล ได้จากมือถือของคุณไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

2. การจัดการการเงินที่มีประสิทธิภาพ
ติดตามยอดเงินและธุรกรรม: ตรวจสอบยอดคงเหลือและประวัติธุรกรรมได้ตลอดเวลา ช่วยให้คุณสามารถติดตามการใช้จ่ายและจัดการงบประมาณได้ดีขึ้น
ตั้งงบประมาณ: ใช้ฟีเจอร์การตั้งงบประมาณเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและวางแผนการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ

3. การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและง่ายดาย
การโอนเงินผ่าน QR Code: ทำการโอนเงินได้รวดเร็วโดยการสแกน QR Code ลดความยุ่งยากในการกรอกข้อมูลบัญชี
การจ่ายบิลที่สะดวก: ชำระค่าสาธารณูปโภค, ค่าบัตรเครดิต, และบิลอื่นๆ ได้ง่ายและรวดเร็วผ่านแอป

4. ความปลอดภัยสูง
ระบบรักษาความปลอดภัย: ใช้เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือ (Fingerprint) หรือรหัส OTP (One-Time Password) เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต

5. บริการทางการเงินเสริม
การลงทุน: บางฟีเจอร์ของแอปอาจให้บริการการลงทุนพื้นฐาน เช่น การลงทุนในกองทุน ซึ่งช่วยให้คุณสามารถจัดการการลงทุนได้ง่ายขึ้น
การเข้าถึงสินเชื่อ: แอปอาจมีบริการสินเชื่อหรือการกู้เงินที่ช่วยในการบริหารกระแสเงินสดหรือรองรับความต้องการทางการเงิน

6. การบริการลูกค้าและการสนับสนุน
การติดต่อและสนับสนุน: สามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าผ่านช่องทางที่ระบุในแอปหากมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน

7. การวางแผนการเงิน
เครื่องมือการวางแผน: ใช้เครื่องมือในการวางแผนการเงินและการจัดการงบประมาณที่มีอยู่ในแอปเพื่อช่วยในการวางแผนทางการเงินในระยะยาว
แอป Make by KBank ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การจัดการการเงินของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ที่ทันสมัยและความปลอดภัยสูง ช่วยให้คุณสามารถจัดการเรื่องการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความยุ่งยากในชีวิตประจำวัน


การใช้แอป Make by KBank สำหรับธุรกิจมีประโยชน์หลายประการที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการจัดการการเงิน:

1. การทำธุรกรรมที่รวดเร็วและสะดวก
รับและส่งเงิน: ธุรกิจสามารถรับการชำระเงินจากลูกค้าและทำการโอนเงินไปยังผู้จัดหาหรือผู้ขายได้อย่างรวดเร็วผ่านแอป โดยการโอนเงินผ่าน QR Code หรือหมายเลขบัญชี
จ่ายบิลและค่าใช้จ่าย: ชำระค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าสาธารณูปโภค, ค่าเช่าสำนักงาน, และค่าธรรมเนียมอื่นๆ ได้สะดวกโดยไม่ต้องไปที่สาขาหรือเคาน์เตอร์

2. การจัดการการเงินที่มีประสิทธิภาพ
ติดตามและวิเคราะห์ธุรกรรม: ใช้ฟีเจอร์การติดตามยอดเงินและประวัติธุรกรรมเพื่อวิเคราะห์การใช้จ่ายและรายรับ ช่วยในการจัดทำงบประมาณและการบริหารเงินทุน
ตั้งงบประมาณ: จัดการงบประมาณของธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยใช้ฟีเจอร์การตั้งงบประมาณเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการเงิน

3. ลดต้นทุนและความยุ่งยาก
ลดการใช้เงินสด: การใช้แอปในการทำธุรกรรมการเงินช่วยลดความต้องการในการจัดการเงินสด ซึ่งลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการจัดการและเก็บรักษาเงินสด
ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน: ด้วยการใช้เทคโนโลยีการทำธุรกรรมที่สะดวกและรวดเร็ว อาจลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการและการจัดการทางการเงิน

4. ความปลอดภัยสูง
การรักษาความปลอดภัย: มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือรหัส OTP ซึ่งช่วยปกป้องข้อมูลทางการเงินของธุรกิจ

5. การเข้าถึงบริการทางการเงินเสริม
สินเชื่อและการกู้เงิน: แอปอาจมีบริการสินเชื่อหรือการกู้เงินที่ธุรกิจสามารถใช้ในการบริหารเงินทุนหมุนเวียนหรือลงทุนในโครงการใหม่
การลงทุน: บางฟีเจอร์ของแอปอาจช่วยในการจัดการการลงทุนเพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากเงินทุนของธุรกิจ

6. การบริหารจัดการลูกค้าและคู่ค้า
การสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า: การให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านแอป Make by KBank ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการทำธุรกรรม
การบริหารความสัมพันธ์กับคู่ค้า: การจ่ายเงินและโอนเงินให้กับคู่ค้าหรือผู้จัดหาสินค้าหรือบริการได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

7. การจัดการเงินทุนหมุนเวียน
การจัดการกระแสเงินสด: สามารถทำธุรกรรมการเงินได้รวดเร็ว ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกระแสเงินสดได้ดีขึ้นและตอบสนองต่อความต้องการทางการเงินได้ทันที

8. การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน
การรายงานและวิเคราะห์: ใช้ฟีเจอร์ในแอปเพื่อจัดทำรายงานการเงินและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้จ่ายและรายรับของธุรกิจ ซึ่งช่วยในการตัดสินใจทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น

 




BY : NONGNONT

ที่มา : Makebykbank , Chat gpt


บทความที่เกี่ยวข้อง
Warehouse 5.0: ภาพอนาคตของคลังสินค้าที่ยั่งยืนและอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ในยุคที่เทคโนโลยีไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังต้องตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืน “Warehouse 5.0” ได้ก้าวข้ามแนวคิดแบบดั้งเดิมของคลังสินค้าไปไกลกว่าที่เคยเป็นมา ไม่ใช่แค่เรื่องของระบบอัตโนมัติเท่านั้น แต่คือการสร้างสมดุลระหว่าง “เทคโนโลยีขั้นสูง” กับ “ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์”
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
22 เม.ย. 2025
AI ปรับตัวอย่างไร เมื่อคลังสินค้ากลับมาทำงานเต็มระบบ?
หลังจากช่วงเวลาที่ยาวนานของการหยุดชะงัก—ไม่ว่าจะเป็นเพราะโรคระบาด ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หรือปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน—คลังสินค้าหลายแห่งทั่วโลกเริ่มกลับมาทำงานเต็มระบบอีกครั้ง แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดคือ บทบาทของ AI (Artificial Intelligence) ที่ไม่ได้เป็นเพียง "ผู้ช่วย" อีกต่อไป แต่กลายเป็น "ผู้เล่นหลัก" ที่ปรับตัวและพัฒนาขึ้นพร้อมกับระบบงานใหม่ที่ต้องเร็วขึ้น แม่นยำขึ้น และยืดหยุ่นยิ่งกว่าเดิม
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 เม.ย. 2025
เบื้องหลังคลังที่ไม่วุ่นวาย: การวางแผนล่วงหน้าด้วย AI
ภาพคลังสินค้าที่เต็มไปด้วยของกองพะเนิน รถโฟล์คลิฟท์วิ่งสวนกันวุ่นวาย และพนักงานที่ต้องแข่งกับเวลาเพื่อจัดส่งสินค้าให้ทัน อาจเป็นภาพที่หลายคนคุ้นเคยในแวดวงโลจิสติกส์ แต่เบื้องหลังของคลังสินค้าที่ทำงานได้อย่างราบรื่น จริง ๆ แล้วมี “สมองกล” ที่กำลังช่วยขับเคลื่อนอย่างเงียบ ๆ — นั่นคือ AI (Artificial Intelligence)
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 เม.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ