ตัวอย่างเช่น สำหรับบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ โลจิสติกส์ภายในทำหน้าที่เคลื่อนย้าย ขนส่ง และเก็บเข้าที่พวกชิ้นส่วนตั้งต้นหรืออุปกรณ์เพื่อประกอบเป็นชิ้นส่วน ให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อให้งานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์เสร็จสมบูรณ์และถึงมือบริษัทชิ้นส่วนรถยนต์
คือ โลจิสติกส์ระหว่างผู้ผลิต บริษัทขนส่ง และผู้รับปลายทางแบบ End userโดย Outbound logistics จะทำหน้าที่เคลื่อนย้าย ขนส่ง และเก็บเข้าที่พวกวัตถุดิบตั้งต้นให้บริษัทผู้ผลิต แล้วเมื่อผู้ผลิตผลิตเสร็จ ก็จะดำเนินการส่งถึงผู้รับปลายทางที่เป็น end user
คือ การขนส่งวัตถุดิบหรือสินค้าใดๆ จากผู้ใช้งานสุดท้าย (End user) กลับมาที่บริษัทต้นทางหรือผู้ผลิตเลยโดย Reverse logistics จะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนคืนสินค้าเพื่อเปลี่ยนชิ้นใหม่และนำชิ้นเก่ากลับมาทำลายทิ้งหรือรีไซเคิลส่วนมากธุรกิจที่ใช้บริการ Reverse logistics เป็นกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์
หรือ 3PL คือ ธุรกิจโลจิสติกส์ หรือ Outsource ที่ให้บริการโลจิสติกส์ ที่ดูแลตั้งแต่
- จัดเก็บสินค้าและคลังสินค้า (Inventory management & Warehousing)
- หยิบและแพ็กสินค้าตามออเดอร์สั่งซื้อ (Picking & Packing)
- ขนส่งและการกระจายสินค้า (Transportation)
- จัดการด้านศุลกากร (Freight forwarding)
- และบริการอื่นๆ เช่น ส่งคืนสินค้าถึงต้นทาง หรือ Reverse logistics
หรือ 4PL เป็น ธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ให้บริการทุกอย่างแบบ 3PL แต่เพิ่มเติมคือ ยกระดับโดยมีการประเมินการทำงาน ออกแบบพัฒนา จัดทำ และติดตาม supply chain ทั้งหมดของธุรกิจนั้นๆ ให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดรวมถึง 4PL จะส่งออกหรือ outsource งาน logistics ให้กับบริษัท logistics รายย่อยด้วย ต่างจาก 3PL ที่ทำงานด้วยตัวบริษัทเองทั้งนี้ การที่ 3PL จะพัฒนาไปสู่ 4PL จะต้องสร้างเครือข่ายหาพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างแข็งแกร่งจริงๆ
BY : FAH
ที่มา : cartrack