แชร์

การขนส่งสินค้าแบบ CPT (Carriage Paid to)

อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ค. 2024
1942 ผู้เข้าชม

CPT ย่อมาจาก Carriage Paid To เป็นเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศประเภทหนึ่ง ที่ระบุถึงความรับผิดชอบในการส่งมอบสินค้าและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

CPT หมายถึง ค่าขนส่งสินค้าจ่ายถึง หมายความว่า ผู้ขายมีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทางทะเล ทางอากาศ หรือทางบก ไปยังสถานที่ปลายทางที่ระบุไว้ ผู้ขายจะต้องทำสัญญาและชำระค่าขนส่งที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อนำสินค้าไปยังสถานที่ปลายทางนั้น เมื่อสินค้าถูกส่งมอบให้กับผู้รับขนส่งที่สถานที่ที่ระบุไว้ ถือว่าผู้ขายได้ส่งมอบสินค้าให้กับผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว ผู้ซื้อมีหน้าที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เหลือ เช่น ค่าประกันสินค้า ภาษีนำเข้า ค่าธรรมเนียมท่าเรือปลายทาง และค่าขนส่งสินค้าจากสถานที่ปลายทางไปยังคลังสินค้า


ข้อดีของการใช้ CPT

  • ความชัดเจน : เงื่อนไข CPT กำหนดความรับผิดชอบและค่าใช้จ่ายได้ชัดเจน ช่วยลดข้อพิพาทระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
  • ความยืดหยุ่น : ผู้ขายและผู้ซื้อสามารถตกลงกันเองได้ว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายบางรายการ เช่น ค่าประกันสินค้า
  • ความสะดวก : ผู้ขายไม่จำเป็นต้องจัดการเรื่องประกันสินค้า ผู้ซื้อสามารถจัดการเองได้

ข้อเสียของการใช้ CPT

  • ความเสี่ยง : ผู้ซื้อรับผิดชอบความเสี่ยงของสินค้าหลังจากส่งมอบให้กับผู้รับขนส่ง
  • ค่าใช้จ่าย : ผู้ซื้อต้องชำระค่าประกันสินค้าเอง ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุน
  • ความยุ่งยาก : ผู้ซื้อต้องจัดการเรื่องประกันสินค้าเอง ซึ่งอาจยุ่งยาก


ตัวอย่าง

บริษัท A ในประเทศไทย ขายเฟอร์นิเจอร์ให้กับบริษัท B ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้เงื่อนไข CPT

ผู้ขาย (บริษัท A) มีหน้าที่

  • บรรจุเฟอร์นิเจอร์ลงในตู้คอนเทนเนอร์
  • จัดหาผู้รับขนส่งสินค้า
  • ชำระค่าขนส่งสินค้าจากโรงงานของผู้ขายไปยังท่าเรือลอสแองเจลิส

ผู้ซื้อ (บริษัท B) มีหน้าที่

  • ชำระค่าประกันสินค้า
  • ชำระภาษีนำเข้า
  • ชำระค่าธรรมเนียมท่าเรือลอสแองเจลิส
  • ขนส่งสินค้าจากท่าเรือลอสแองเจลิสไปยังคลังสินค้า


ความแตกต่างระหว่าง CPT กับ FOB

จุดส่งมอบ

  • CPT : สินค้าถูกส่งมอบให้กับผู้รับขนส่งที่สถานที่ที่ระบุไว้
  • FOB : สินค้าถูกโหลดลงบนเรือที่ท่าเรือต้นทาง

ความรับผิดชอบ

  • CPT : ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้า และความเสี่ยงของสินค้าจนกว่าจะส่งมอบให้กับผู้รับขนส่ง
  • FOB : ผู้ขายรับผิดชอบค่าขนส่งสินค้า และความเสี่ยงของสินค้าจนกว่าจะโหลดลงบนเรือ

การขนส่งสินค้าแบบ CPT เหมาะสำหรับธุรกรรมการค้าที่มีสินค้าที่ชัดเจน จุดส่งมอบสินค้าที่ชัดเจน ผู้ขายที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย และผู้ซื้อที่ยินดีรับความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ผู้ขายและผู้ซื้อควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของสินค้า เส้นทางการขนส่ง และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ก่อนตัดสินใจใช้เงื่อนไข CPT


แหล่งข้อมูล : https://www.customs.go.th/content.php?ini_content=customs_valuation_03&ini_menu=menu_customs_value&lang=th&left_menu=menu_customs_value_03



บทความที่เกี่ยวข้อง
Fulfillment-as-a-Service (FaaS): โมเดลใหม่ของการบริหารคลัง
เมื่อโลกของอีคอมเมิร์ซเติบโตแบบก้าวกระโดด การบริหารจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
26 ก.ค. 2025
EOQ คืออะไร? สูตรลับคลังสินค้า สั่งของเท่าไหร่ให้ 'คุ้ม' ที่สุด
เคยเจอปัญหานี้ไหมครับ? สั่งของมาตุนในคลังสินค้าเยอะเกินไป เงินทุนก็จมไปกับสต็อก แถมยังต้องเสียค่าเช่าพื้นที่เพิ่ม แต่พอสั่งของมาน้อยเกินไป สินค้าก็ขาด ขายไม่ได้ เสียโอกาสทางธุรกิจไปอีก... คำถามคือ แล้วเราควรจะสั่งของครั้งละเท่าไหร่ดี ถึงจะเรียกว่า "พอดี" และ "คุ้มค่า" ที่สุด? วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ EOQ (Economic Order Quantity) หรือ ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด ซึ่งเป็นเหมือนสูตรลับที่ช่วยให้ธุรกิจหาจุดสมดุลในการสั่งซื้อสินค้าได้อย่างมืออาชีพ
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
23 ก.ค. 2025
Delivery Orchestration – การจัดการโลจิสติกส์แบบเบ็ดเสร็จยุคใหม่
Delivery Orchestration – การจัดการโลจิสติกส์แบบเบ็ดเสร็จยุคใหม่
Notify.png พี่ปี
25 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ