แชร์

COD คือดาบสองคม? เจาะลึกข้อดี-ข้อเสียของ "เก็บเงินปลายทาง" ที่ร้านค้าต้องรู้ ก่อนเปิดระบบรับทรัพย์

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 17 ธ.ค. 2025
3 ผู้เข้าชม

"พี่คะ มีเก็บเงินปลายทางไหม?" "ถ้าไม่มีปลายทาง ขอยกเลิกก่อนนะคะ"

ประโยคเหล่านี้คือสิ่งที่แม่ค้าออนไลน์ได้ยินจนชินหู จากสถิติพบว่าคนไทยกว่า 60-70% ยังคงเลือกชำระเงินแบบ COD (Cash on Delivery) หรือเก็บเงินปลายทาง เพราะความอุ่นใจที่ว่า "เห็นของก่อนค่อยจ่าย"

แต่สำหรับคนขาย COD เปรียบเสมือน "ดาบสองคม" คมด้านหนึ่ง... มันช่วยฟันยอดขายให้กระฉูด ปิดการขายง่าย แต่คมอีกด้าน... มันอาจบาดมือคนขายจนเลือดซิบ จากการถูกเทสินค้า หรือเงินจมในระบบ

วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันชัดๆ ว่า COD มีดีและร้ายอย่างไร และมีเทคนิคอะไรที่จะทำให้ร้านค้าใช้ดาบเล่มนี้ฟันกำไรได้ โดยไม่เจ็บตัว

ด้านที่ 1: ข้อดี (ทำไมร้านค้า "จำเป็น" ต้องมี COD)

  1. ปิดการขายง่ายขึ้น 2-3 เท่า: ลูกค้าจำนวนมากมีนิสัย "ขี้เกียจสลับแอป" เพื่อโอนเงิน หรือบางคนยังไม่มี Mobile Banking การมีปุ่ม "เก็บเงินปลายทาง" ช่วยลดความยุ่งยาก ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์ชั่ววูบ (Impulse Buying) ได้ง่ายขึ้น
  2. สร้างความเชื่อถือให้ร้านใหม่: ถ้าร้านคุณเพิ่งเปิด เพจยังไม่ดัง รีวิวยังน้อย ลูกค้าจะกลัวโดนโกงมากที่สุด COD คือกุญแจดอกสำคัญที่ปลดล็อกความกลัวนี้ ทำให้เขากล้าสั่งซื้อครั้งแรก
  3. ขยายฐานลูกค้า: เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิต หรือผู้สูงอายุที่ไม่ถนัดเทคโนโลยี แต่มีกำลังซื้อและพร้อมจ่ายเงินสดหน้าบ้าน

ด้านที่ 2: ข้อเสีย (ความเสี่ยงที่ต้องระวัง)

  1. ฝันร้ายเรื่อง "ของตีกลับ" (Return to Origin): นี่คือความเจ็บปวดที่สุด ลูกค้าสั่งเล่น, เปลี่ยนใจ, ไม่อยู่บ้าน, หรือเงินไม่พอจ่าย เมื่อของตีกลับ ร้านค้าต้องเสียทั้ง "ค่ากล่อง" "ค่าแพ็ค" และ "ค่าส่งไป-กลับ" ฟรีๆ โดยไม่ได้เงินสักบาท
  2. กระแสเงินสดสะดุด (Cash Flow): การขายแบบโอนเงิน คุณได้เงินทันที แต่ COD ต้องรอเคลียร์ยอดจากขนส่ง ซึ่งอาจใช้เวลา 1-3 วัน (หรือบางเจ้าเป็นอาทิตย์) หากคุณสายป่านไม่ยาวพอ อาจหมุนเงินมาซื้อของเติมสต็อกไม่ทัน
  3. ต้นทุนค่าธรรมเนียม: ขนส่งจะคิดค่าธรรมเนียม COD ประมาณ 2-3% ของยอดขาย ซึ่งถือเป็นต้นทุนที่ร้านค้าต้องแบกรับ หรือต้องบวกเพิ่มไปในราคาสินค้า

How-to: เทคนิคใช้ COD ให้กำไร ไม่ขาดทุน

การจะใช้ดาบสองคม ต้องมี "กระบวนท่า" ที่รัดกุมครับ

  1. โทรคอนเฟิร์มออเดอร์: ยอมเสียเวลาโทรหาลูกค้า หรือทักแชทเพื่อยืนยันที่อยู่และยอดเงินก่อนส่งทุกครั้ง ช่วยลดอัตราการตีกลับได้ถึง 50%
  2. สกรีนลูกค้า: เช็คประวัติคร่าวๆ หรือถ้าเป็นลูกค้าใหม่ที่สั่งยอดเยอะผิดปกติ อาจมัดจำบางส่วนก่อน
  3. เลือกขนส่งที่ "โอนเงินไว" และ "ตามงานเก่ง": หัวใจสำคัญคือพนักงานขนส่ง ถ้าพนักงานโทรหาลูกค้าขยันส่ง โอกาสสำเร็จก็สูง และที่สำคัญต้องเลือกเจ้าที่ "โอนคืนเงิน COD ไว" (เช่น ภายในวันถัดไป) เพื่อให้คุณมีเงินหมุนเวียนในร้านไม่ขาดมือ

 

COD เป็นสิ่งที่ "เลี่ยงไม่ได้" ในตลาด E-commerce ไทย หากคุณปิดกั้น COD ก็เท่ากับปิดโอกาสการขายของตัวเองไปกว่าครึ่ง ทางออกที่ดีที่สุดไม่ใช่การยกเลิก แต่คือการ "บริหารจัดการ" เลือกใช้บริการขนส่งที่มีมาตรฐาน มีระบบการโอนเงินที่รวดเร็วและตรวจสอบได้ เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถใช้ประโยชน์จาก COD ในการโกยยอดขาย ได้อย่างสบายใจหายห่วงครับ

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

เราเข้าใจหัวอกคนค้าขาย เราจึงมีบริการ COD ที่โอนเงินคืนไว เคลียร์ยอดแม่นยำ พร้อมระบบจัดการที่ให้คุณตรวจสอบสถานะการเงินได้แบบ Real-time

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620 อีเมล: info@bsgroupth.com ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

 


บทความที่เกี่ยวข้อง
มาตรฐาน ISO ด้านการขนส่งสำคัญอย่างไรต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า
ทำไมธุรกิจขนส่งที่ได้รับมาตรฐาน ISO ถึงน่าเชื่อถือกว่า? เจาะลึกเหตุผลว่าทำไม ISO จึงเป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพ และสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าสินค้าจะปลอดภัยและถึงที่หมายตรงเวลา
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
17 ธ.ค. 2025
Bubble Wrap ไม่ใช่คำตอบเดียว! รู้จัก 4 วัสดุกันกระแทก (โฟมตัวหนอน, กระดาษฝอย, ถุงลม) ใช้อันไหน ประหยัดงบที่สุด?
อยากลดต้นทุนค่าแพ็คของ? เลิกใช้บับเบิ้ลห่อทุกอย่าง! เปรียบเทียบ 4 วัสดุกันกระแทกยอดฮิต โฟมตัวหนอน, ถุงลม, กระดาษฝอย อันไหนกันกระแทกดีสุด และอันไหนช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้จริง อ่านเลย!
ผึ้ง เด็กฝึกงาน
17 ธ.ค. 2025
Hyper-Personalized Delivery: มัดใจลูกค้าด้วยการขนส่งที่ "รู้ใจ" และ "เลือกได้"
จบปัญหา "มาส่งตอนไม่อยู่" สู่ยุคที่ "ลูกค้าเป็นคนคุมเกม" เคยไหมครับ? สั่งของไปแล้วต้องมานั่งลุ้นว่าขนส่งจะโทรมาตอนไหน พอโทรมาก็ดันติดประชุม หรือพอของมาถึงก็ไม่มีคนอยู่บ้านจนต้องตีของกลับ... นี่คือ Pain Point คลาสสิกที่ทำลายประสบการณ์การซื้อของออนไลน์มานานนับสิบปี แต่ในปี 2025 ยุคที่ "ลูกค้าคือพระเจ้า" อย่างแท้จริง การขนส่งแบบเดิมที่กำหนดเวลาตายตัว (8.00 - 17.00 น.) กำลังจะตายไป และถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ใหม่ที่เรียกว่า "Hyper-Personalized Delivery" หรือ การขนส่งแบบรู้ใจเฉพาะบุคคล วันนี้ BS Group จะพาคุณไปดูว่า เมื่อการตลาดและโลจิสติกส์มาเจอกัน มันจะเปลี่ยนการส่งของธรรมดา ให้กลายเป็น "บริการที่ลูกค้ารัก" ได้อย่างไร?
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
17 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ