แชร์

The Decoy Effect (ปรากฏการณ์ตัวล่อ): จิตวิทยาการตั้งราคาที่ทำให้ลูกค้า "ยอมจ่ายแพง" โดยไม่รู้ตัว

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 8 ธ.ค. 2025
3 ผู้เข้าชม

The Decoy Effect (ปรากฏการณ์ตัวล่อ): จิตวิทยาการตั้งราคาที่ทำให้ลูกค้า "ยอมจ่ายแพง" โดยไม่รู้ตัว


เคยไหม? ที่คุณเดินเข้าไปในร้านกาแฟตั้งใจจะสั่งแก้วเล็ก แต่จบลงที่การเดินออกมาพร้อมแก้วใหญ่สุด หรือสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันรายปีทั้งที่คิดว่าจะลองแค่รายเดือน

คุณไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาด และคุณไม่ได้ หน้าใหญ่ แต่อย่างใด แต่คุณกำลังตกอยู่ในมนตร์สะกดทางจิตวิทยาที่เรียกว่า "The Decoy Effect" หรือ ปรากฏการณ์ตัวล่อ

บทความนี้จะพาคุณไปถอดรหัสกลยุทธ์เบื้องหลังราคา ที่แบรนด์ระดับโลกใช้เพิ่มยอดขายและกำไร และคุณเองก็สามารถนำไปใช้ได้ทันที


The Decoy Effect คืออะไร?
The Decoy Effect (หรือในทางวิชาการเรียกว่า Asymmetric Dominance Effect) คือปรากฏการณ์ทางความคิดที่เกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคเปลี่ยนใจจากตัวเลือกหนึ่ง ไปสู่อีกตัวเลือกหนึ่งที่มีราคาสูงกว่า เพียงเพราะมี "ตัวเลือกที่ 3" (ตัวล่อ) เข้ามาเปรียบเทียบ

สมองของมนุษย์เราไม่ได้ประเมิน "ความคุ้มค่า" ของสิ่งของแบบโดดๆ แต่เราประเมินด้วยการ "เปรียบเทียบ" กับสิ่งรอบข้างเสมอ

ตัวอย่างคลาสสิก: ป๊อปคอร์นในโรงหนัง
ลองจินตนาการว่าคุณกำลังจะซื้อป๊อปคอร์น
  • แบบ A (เล็ก): 60 บาท
  • แบบ B (ใหญ่): 140 บาท


คนส่วนใหญ่อาจจะเลือก แบบ A เพราะรู้สึกว่า 140 บาทแพงเกินไปสำหรับป๊อปคอร์น และปริมาณที่ได้จากแบบ A ก็เพียงพอแล้ว

แต่ถ้าโรงหนังเพิ่ม "ตัวล่อ" เข้ามาล่ะ?
  • แบบ A (เล็ก): 60 บาท
  • แบบ B (กลาง - ตัวล่อ): 125 บาท
  • แบบ C (ใหญ่): 140 บาท


ทันทีที่มี แบบ B (กลาง) เข้ามา สถานการณ์จะเปลี่ยนไปทันที:

ลูกค้าจะมองว่าแบบ B (125 บาท) เพิ่มเงินอีกนิดเดียวก็ได้แบบ C (140 บาท) แล้ว
แบบ C จึงดู "คุ้มค่าที่สุด" (Best Value) ในสายตาของลูกค้าทันที
แบบ A จะถูกมองข้าม เพราะสมองมัวแต่เปรียบเทียบความคุ้มระหว่าง B กับ C
ผลลัพธ์คือ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือก แบบ C ทั้งที่ตอนแรกตั้งใจจะซื้อแค่แบบ A


ทำไม "ตัวล่อ" ถึงทรงพลัง?

  • ลดความซับซ้อนในการตัดสินใจ: การมีตัวเลือกมากเกินไปทำให้ลูกค้าเครียด (Decision Paralysis) แต่การมีตัวล่อเข้ามาช่วย "ชี้เป้า" ว่าตัวไหนคุ้มสุด ทำให้สมองตัดสินใจง่ายขึ้น
  • เปลี่ยนโฟกัสจาก "ราคา" เป็น "ความคุ้มค่า": แทนที่ลูกค้าจะมองว่า "จ่าย 140 บาทมันแพงนะ" พวกเขาจะเปลี่ยนไปคิดว่า "จ่ายเพิ่มอีกนิดเดียว ได้ของเยอะกว่าตั้งเยอะ"
  • สร้างความรู้สึกฉลาด: เมื่อลูกค้าเลือกตัวเลือกที่แพงที่สุด (เพราะเปรียบเทียบแล้วชนะตัวล่อ) พวกเขาจะรู้สึกดีกับตัวเองว่าได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว



วิธีนำ The Decoy Effect ไปใช้กับธุรกิจของคุณ


ไม่ว่าคุณจะขายสินค้า บริการ หรือซอฟต์แวร์ B2B คุณสามารถใช้เทคนิคนี้ได้:

1. กฎเลข 3 (The Rule of Three)
อย่าเสนอแค่ 2 ทางเลือก (ถูก vs แพง) เพราะลูกค้ามักเลือกตัวถูกเสมอ ให้เสนอ 3 ทางเลือก โดยออกแบบให้ตัวกลางเป็น "ตัวล่อ" ที่มีราคาใกล้เคียงกับตัวแพง แต่ได้ของน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

2. สร้าง "ตัวล่อ" ที่ไม่น่าสนใจ (The Ugly Option)
ตัวล่อต้องมีคุณสมบัติที่ "ด้อยกว่า" ตัวเลือกที่คุณอยากขาย (Target Option) อย่างชัดเจน แต่อย่าทำให้มันแย่จนดูเหมือนหลอกลวง หน้าที่ของมันคือการเป็น ฐานรองรับ ให้ตัวท็อปดูโดดเด่น

3. ใช้กับแพ็กเกจสมาชิก (Subscription)
กลยุทธ์นี้ได้ผลดีมากกับการขาย Software หรือบริการ:
  • Basic: 500 บาท (ฟีเจอร์พื้นฐาน)
  • Pro (Decoy): 1,200 บาท (ฟีเจอร์เกือบครบ แต่ขาดฟังก์ชันสำคัญ)
  • Enterprise: 1,250 บาท (ฟีเจอร์ครบทุกอย่าง + Support 24 ชม.)

ลูกค้าจะรู้สึกทันทีว่าการเลือก Enterprise นั้นฉลาดและคุ้มค่ากว่า Pro มาก


สรุปส่งท้าย


The Decoy Effect ไม่ใช่การหลอกลวงผู้บริโภค แต่เป็นการ "จัดระเบียบทางเลือก" (Choice Architecture) เพื่อช่วยให้ลูกค้าเห็นคุณค่าของสินค้าตัวท็อปของคุณชัดเจนขึ้น

หากวันนี้คุณมีสินค้าที่อยากดันยอดขาย ลองมองหา "ตัวล่อ" มาวางข้างๆ ดูสิครับ แล้วคุณจะแปลกใจว่า ลูกค้าพร้อมจะจ่ายแพงขึ้นด้วยความเต็มใจเพียงใด

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่


โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620

อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!


บทความที่เกี่ยวข้อง
5 เหตุผลที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อ และวิธีใช้ให้เป็นประโยชน์
ในยุคที่ลูกค้ามีตัวเลือกนับไม่ถ้วน การรู้ว่า อะไร ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ คือสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจเพิ่มความน่าสนใจ ปิดการขายง่ายขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่โดนใจลูกค้ามากขึ้น บทความนี้สรุป 5 ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการซื้อ พร้อม วิธีที่แบรนด์สามารถนำไปใช้สร้างยอดขายจริง
ร่วมมือ.jpg Contact Center
6 ธ.ค. 2025
การใช้ Creator Marketplace เพื่อให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่
ยุคดิจิทัลวันนี้ ผู้บริโภคเชื่อ “คน” มากกว่า “โฆษณา” ธุรกิจจำนวนมากจึงหันมาใช้ Creator / Influencer ช่วยขยายการมองเห็น (Reach) และเข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่แบบรวดเร็ว ซึ่ง Creator Marketplace กลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้แบรนด์และครีเอเตอร์จับคู่ร่วมงานกันได้ง่าย สะดวก และได้ผลจริง
ร่วมมือ.jpg Contact Center
6 ธ.ค. 2025
ส่งของชิ้นใหญ่/แตกหักง่าย ให้ถึงมือลูกค้าแบบ "ไร้รอยขีดข่วน" ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
ฝันร้ายของคนขายของชิ้นใหญ่ คือลูกค้าเปิดกล่องมาแล้วเจอ "ซาก" สำหรับร้านค้าที่ขายเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของแต่งบ้าน หรืออะไหล่ยนต์ การได้รับออเดอร์นั้นเป็นเรื่องน่าดีใจ แต่ช่วงเวลาที่น่ากังวลที่สุดคือ "ระหว่างทางขนส่ง" เพราะสินค้าที่มีขนาดใหญ่ (Bulky Items) หรือมีความเปราะบาง (Fragile) หากจัดการไม่ดี ความเสี่ยงที่จะเกิดรอยขีดข่วน บุบ หรือแตกหัก มีสูงมาก และความเสียหายนั้นไม่ได้จบแค่การเคลมสินค้า แต่มันหมายถึง "ความเชื่อมั่น" ของลูกค้าที่ลดลงทันที วันนี้ BS Group จะมาแชร์เทคนิคการเตรียมตัวและจัดการสินค้ากลุ่มนี้ ให้ถึงมือลูกค้าแบบปลอดภัย 100% เหมือนรับจากมือคุณเองครับ
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
6 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ