ทำไมการขนส่งทางเรือยังถูกที่สุดในโลกโลจิสติกส์
เวลาพูดถึง การขนส่งสินค้า หลายคนอาจจะนึกถึงความเร็วเป็นหลัก เช่น เครื่องบิน Cargo ที่สามารถส่งของจากเอเชียไปยุโรปได้ในเวลาไม่กี่วัน แต่ถ้าถามว่า วิธีไหนถูกที่สุด? คำตอบเกือบจะเป็นเอกฉันท์ว่า การขนส่งทางเรือ (Sea Freight) คือแชมป์ในด้านต้นทุน และยังเป็นระบบโลจิสติกส์หลักของโลกมานานหลายศตวรรษ
เหตุผลที่ทำให้การขนส่งทางเรือถูกที่สุด
ขนได้ปริมาณมหาศาล
เรือ Container ลำหนึ่งบรรทุกได้หลายหมื่นตู้คอนเทนเนอร์ (TEU)
เมื่อหารต้นทุนต่อหน่วย สินค้าแต่ละกล่องหรือแต่ละชิ้นมีต้นทุนขนส่งต่ำกว่าการใช้รถบรรทุกหรือเครื่องบินมาก
ใช้พลังงานน้อยต่อหน่วยสินค้า
การเคลื่อนย้ายบนผืนน้ำมีแรงเสียดทานต่ำกว่า
เรือ 1 ลำ สามารถขนสินค้าหนักหลายแสนตันได้ โดยใช้น้ำมันน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องบินที่ต้องยกน้ำหนักขึ้นฟ้า
โครงสร้างพื้นฐานพร้อมทั่วโลก
ท่าเรือใหญ่ ๆ กระจายอยู่แทบทุกทวีป และเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายการค้า
ตู้คอนเทนเนอร์มี มาตรฐานสากล (ISO Container) ทำให้การขนต่อจากเรือไปสู่รถไฟหรือรถบรรทุกง่ายและไม่เปลืองค่าใช้จ่าย
Economies of Scale
เรือยิ่งใหญ่ ต้นทุนต่อหน่วยยิ่งต่ำ
ปัจจุบันมีเรือ Container ยักษ์ขนาดกว่า 20,000 TEU ที่ทำให้ค่าขนส่งต่อกล่องลดลงเหลือเพียงเศษเสี้ยวเมื่อเทียบกับเครื่องบิน
ตัวอย่างเปรียบเทียบต้นทุน
เรือสินค้า: ส่ง 1 ตู้คอนเทนเนอร์ (20 ฟุต) จากเอเชียไปยุโรป ค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักพันดอลลาร์
เครื่องบิน Cargo: ส่งสินค้าน้ำหนักเท่ากัน ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่าหลายสิบเท่า
รถบรรทุก: เหมาะสำหรับระยะสั้น แต่หากต้องวิ่งข้ามทวีป ทั้งแพงและไม่คุ้มค่า
จุดอ่อนของการขนส่งทางเรือ
ความเร็วต่ำ การเดินทางข้ามทวีปอาจใช้เวลา 2040 วัน
ความไม่แน่นอนของตารางเดินเรือ มีโอกาสดีเลย์สูงจากสภาพอากาศ, ปัญหาทางการเมือง, หรือความแออัดในท่าเรือ
ความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม แม้จะประหยัดพลังงาน แต่การใช้น้ำมันเตา (Heavy Fuel Oil) ของเรือก็สร้างมลพิษจำนวนมาก
เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังเปลี่ยนการขนส่งทางเรือ
เรือพลังงานสะอาด มีการทดลองใช้เรือที่ขับเคลื่อนด้วย LNG, ไฮโดรเจน หรือพลังงานไฟฟ้าแบบไฮบริด
Smart Port ท่าเรืออัจฉริยะที่ใช้ระบบอัตโนมัติและ IoT เพื่อลดเวลาการขนถ่าย
AI & Big Data ช่วยคาดการณ์เส้นทางที่ดีที่สุดและลดความล่าช้าในการขนส่ง
ทำไมยังเป็น เส้นเลือดใหญ่ของการค้าโลก?
กว่า 90% ของการค้าระหว่างประเทศ ยังคงพึ่งพาการขนส่งทางเรือ เพราะถึงแม้จะช้ากว่า แต่สำหรับสินค้าที่ไม่ใช่ของด่วน เช่น เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือวัตถุดิบการผลิต ต้นทุนที่ถูกกว่ามากคือปัจจัยสำคัญที่สุด
สรุป
แม้ว่าโลกจะหมุนเร็วขึ้น ลูกค้าจะต้องการความเร็วมากขึ้น แต่ในภาพรวม การขนส่งทางเรือยังคงเป็นทางเลือกหลัก ที่ทำให้เศรษฐกิจโลกเดินหน้าได้ เพราะมันคือวิธีที่ ถูกที่สุดต่อหน่วยสินค้า และสามารถรองรับปริมาณมหาศาลที่ไม่มีพาหนะใดมาแทนได้ง่าย ๆ
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์จากยุโรป หรือร้านค้าไทยจะนำเข้าวัตถุดิบจากจีน สินค้าเหล่านี้เกือบทั้งหมด ล้วนเดินทางมาทางเรือก่อนจะถึงมือเรา