มือใหม่หัดส่งของไปต่างประเทศ! รวมทุกเรื่องต้องรู้ จบในโพสต์เดียว (เอกสาร/ภาษี/ข้อห้าม)
ในยุคที่โลกเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดน การส่งของไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการส่งของขวัญให้คนสำคัญ ส่งเอกสารเร่งด่วน หรือขยายธุรกิจส่งสินค้าให้ลูกค้าในต่างแดน แต่สำหรับมือใหม่แล้ว กระบวนการเหล่านี้อาจดูซับซ้อนและน่าปวดหัว ตั้งแต่การเตรียมเอกสาร การรับมือกับเรื่องภาษี ไปจนถึงการตรวจสอบของต้องห้าม ไม่ต้องกังวล! บล็อกนี้ได้รวบรวมทุกสิ่งที่คุณต้องรู้แบบครบจบในที่เดียว อ่านจบแล้วส่งของไปต่างประเทศได้แบบมือโปรแน่นอน
1. เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียม: ก้าวแรกสู่การส่งออก
การเตรียมเอกสารให้ถูกต้องและครบถ้วนคือหัวใจสำคัญที่สุดของการส่งของไปต่างประเทศ เพราะหากเอกสารผิดพลาด อาจทำให้พัสดุของคุณติดอยู่ที่ศุลกากร หรือถูกส่งกลับได้ เอกสารหลักๆ ที่ต้องใช้ มีดังนี้
1.1ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (Air Waybill - AWB): เปรียบเสมือนบัตรประชาชนของพัสดุคุณ จะระบุข้อมูลสำคัญทั้งหมด ทั้งชื่อ-ที่อยู่ผู้ส่งและผู้รับ, รายละเอียดของที่อยู่ภายใน, น้ำหนัก และข้อมูลจำเป็นอื่นๆ ที่บริษัทขนส่งจะออกให้เมื่อคุณไปใช้บริการ
1.2ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice): เอกสารนี้จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินพิธีการศุลกากร โดยจะระบุรายละเอียดของสินค้าแต่ละรายการ, จำนวน, ราคาต่อหน่วย และมูลค่ารวม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรปลายทางใช้ในการประเมินภาษี
1.3เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี): สำหรับสินค้าบางประเภท อาจต้องมีเอกสารเพิ่มเติม เช่น
- ใบอนุญาตส่งออก: สำหรับสินค้าควบคุมบางชนิด
- เอกสารรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin): เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีในบางประเทศ
- เอกสาร อย. (FDA permit): สำหรับอาหารและยา
2. ภาษีนำเข้าและอากร: ใครจ่าย? จ่ายเท่าไหร่?
เรื่องภาษีเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลที่สุด โดยทั่วไปแล้ว ภาษีจะถูกประเมินโดยศุลกากรของประเทศผู้รับ และ ผู้รับปลายทางจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ภาษีจะถูกคำนวณจากปัจจัยหลักๆ คือ
- CIF: คือ มูลค่าของสินค้า (Cost) + ค่าประกันภัย (Insurance) + ค่าขนส่ง (Freight)
- ประเภทของสินค้า (HS Code): สินค้าแต่ละชนิดมีพิกัดอัตราภาษีที่แตกต่างกัน
- มูลค่าขั้นต่ำที่ไม่ต้องเสียภาษี (De Minimis Value): หลายประเทศกำหนดมูลค่าขั้นต่ำที่หากราคาสินค้าไม่เกินเกณฑ์นี้ จะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ผู้ส่งควรตรวจสอบก่อนส่ง
วิธีลดภาระผู้รับ: คุณสามารถเลือกใช้บริการขนส่งแบบ DDP (Delivered Duty Paid) ที่ผู้ส่งจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าภาษีทั้งหมดตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งเหมาะกับการส่งของเชิงธุรกิจที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าปลายทาง
3. ของต้องห้าม (Prohibited Items): เช็คให้ชัวร์ก่อนส่ง
การส่งของต้องห้ามไม่เพียงแต่จะทำให้พัสดุถูกยึดหรือทำลาย แต่ผู้ส่งอาจมีความผิดตามกฎหมายได้อีกด้วย รายการของต้องห้ามจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศและแต่ละบริษัทขนส่ง แต่โดยทั่วไปมักจะประกอบด้วย
- วัตถุอันตราย: วัตถุไวไฟ, สารเคมี, แบตเตอรี่ลิเธียม (บางประเภท), วัตถุระเบิด, สเปรย์อัดแก๊ส
- สิ่งมีชีวิต: สัตว์, พืช, เมล็ดพันธุ์
- ของผิดกฎหมาย: ยาเสพติด, อาวุธ, สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์, สื่อลามกอนาจาร
- อาหารและยา: สินค้าบางชนิดต้องมีใบอนุญาตพิเศษ
- ของเหลวและของมีค่า: เช่น เงินสด, ธนบัตร, อัญมณี (ควรตรวจสอบกับผู้ให้บริการขนส่งโดยตรง)
- สำคัญที่สุด: ก่อนแพ็คของทุกครั้ง ควรเข้าไปตรวจสอบรายการของต้องห้ามล่าสุดจากเว็บไซต์ของบริษัทขนส่งที่คุณจะใช้บริการ และกฎระเบียบของประเทศปลายทางโดยตรง เพื่อความมั่นใจสูงสุด
สรุปส่งท้าย
การส่งของไปต่างประเทศครั้งแรกอาจดูเหมือนมีหลายขั้นตอน แต่หากเราเตรียมตัวและทำความเข้าใจใน 3 เรื่องหลัก คือ เอกสาร, ภาษี, และของต้องห้าม กระบวนการทั้งหมดก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายและราบรื่น อย่าลืมแพ็คของให้แน่นหนาแข็งแรงเพื่อป้องกันความเสียหาย, สำแดงราคาสินค้าตามจริงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ศุลกากร และเลือกใช้บริการบริษัทขนส่งที่น่าเชื่อถือ เพียงเท่านี้ พัสดุของคุณก็จะเดินทางถึงมือผู้รับปลายทางทั่วโลกได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620
อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210
คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!