แชร์

หนึ่งวันของเจ้าของร้านพัสดุ: ทำอะไรบ้าง? เหนื่อยจริงไหม? คุ้มค่าหรือไม่?

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 23 ส.ค. 2025
142 ผู้เข้าชม

หนึ่งวันของเจ้าของร้านพัสดุ: ทำอะไรบ้าง? เหนื่อยจริงไหม? คุ้มค่าหรือไม่?

เมื่อมองจากภายนอก ธุรกิจร้านรับ-ส่งพัสดุอาจดูเหมือนเป็นงานง่ายๆ แค่นั่งในห้องแอร์เย็นๆ รอรับของจากลูกค้า คีย์ข้อมูล แล้วก็รอรถมารับไป แต่เคยสงสัยไหมครับว่าเบื้องหลังเคาน์เตอร์ที่ดูวุ่นวายนั้น ในหนึ่งวันพวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง? มันเป็นงานสบายๆ อย่างที่คิด หรือเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังใจมากกว่าที่เห็น?

บทความนี้จะพาคุณไปติดตามชีวิตหนึ่งวันของ "เจ้าของร้านพัสดุ" ตั้งแต่เปิดร้านจนปิดร้าน เพื่อตอบคำถามที่หลายคนอยากรู้ที่สุด: "เหนื่อยจริงไหม?" และที่สำคัญกว่านั้นคือ "มันคุ้มค่าหรือไม่?"

ช่วงเช้า: เตรียมพร้อมก่อนเปิดศึก (08:30 - 10:00 น.)

วันของเจ้าของร้านมักจะเริ่มต้นก่อนเวลาเปิดทำการจริงเสมอ

  • เปิดระบบ: เดินเข้าร้าน สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปิดคอมพิวเตอร์, ระบบจัดการหน้าร้าน (POS), เครื่องพิมพ์, และเครื่องสแกนบาร์โค้ดให้พร้อมใช้งาน
  • เช็คความเรียบร้อย: ตรวจสอบสต็อกอุปกรณ์แพ็คกิ้ง (กล่อง, ซอง, บับเบิ้ล), จัดหน้าร้านให้สะอาดตา, และเตรียมเงินทอนให้พร้อม
  • เคลียร์งานค้าง: ตอบแชทลูกค้าจากเมื่อคืน, เช็คอีเมล, หรือเตรียมเอกสารต่างๆ

ช่วงสายถึงบ่าย: ชั่วโมงเร่งด่วนที่สุด (10:00 - 16:00 น.)

เมื่อประตูร้านเปิด นี่คือช่วงเวลาที่แทบจะไม่ได้นั่งพัก

  • ต้อนรับและบริการ: ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาพร้อมกับพัสดุหลากหลายขนาด หน้าที่หลักคือการต้อนรับ, ชั่งน้ำหนัก, วัดขนาดกล่อง, และคีย์ข้อมูลผู้รับ-ผู้ส่งอย่างแม่นยำ
  • เป็นที่ปรึกษา: ให้คำแนะนำลูกค้าเรื่องการแพ็คของ, เลือกขนาดกล่องที่เหมาะสม, และอธิบายประเภทบริการต่างๆ
  • นักขายมือทอง: Upsell อุปกรณ์แพ็คกิ้งต่างๆ ซึ่งเป็นแหล่งกำไรที่สำคัญของร้าน
  • Multi-tasking Skill: ในเวลาเดียวกันอาจจะต้องรับโทรศัพท์, ตอบคำถามลูกค้าหน้าร้าน, และแพ็คของไปด้วย เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ต้องใช้ทักษะรอบด้านจริงๆ

ช่วงบ่ายแก่ๆ: รอบรถเข้ารับและงานหลังบ้าน (16:00 - 18:00 น.)

ช่วงเวลานี้เปรียบเสมือนเส้นตายของวัน

  • รวบรวมและคัดแยก: นำพัสดุทั้งหมดของวันมาคัดแยกตามประเภทบริการหรือบริษัทขนส่ง เพื่อเตรียมส่งมอบให้รถที่กำลังจะมารับ
  • ส่งมอบพัสดุ: สแกนบาร์โค้ดพัสดุทุกชิ้นเข้าระบบเพื่อส่งมอบให้พนักงานขับรถ ตรวจนับจำนวนให้ตรงกันอย่างละเอียด
  • เคลียร์พื้นที่: เมื่อรถรับพัสดุไปแล้ว ก็ถึงเวลาจัดการกับความเรียบร้อยในร้าน, เช็คสต็อกอุปกรณ์ที่ต้องสั่งเพิ่ม, และเริ่มงานเอกสาร

ช่วงเย็น: ปิดร้านและสรุปยอด (18:00 น. เป็นต้นไป)

แม้จะหมดลูกค้ารอบสุดท้ายแล้ว แต่งานยังไม่จบ

  • สรุปยอดขาย: เคลียร์ยอดเงินสดในลิ้นชัก, ตรวจสอบยอดโอน, และทำรายงานสรุปยอดขายประจำวัน
  • จัดการเรื่อง COD: ตรวจสอบรายงานการเก็บเงินปลายทางที่บริษัทขนส่งจะโอนกลับมา
  • วางแผนสำหรับวันพรุ่งนี้: เช็คว่ามีอะไรที่ต้องทำหรือเตรียมการสำหรับวันถัดไปหรือไม่
    ปิดร้าน: ปิดระบบคอมพิวเตอร์, ปิดไฟ, และล็อคประตู เป็นอันสิ้นสุดวันทำงานที่ยาวนาน

ตอบคำถามสำคัญ: เหนื่อยจริงไหม? แล้วคุ้มค่าหรือไม่?

เหนื่อยจริงไหม?

ตอบตามตรงได้เลยว่า "มาก" ครับ มันเป็นงานที่ต้องยืนเกือบทั้งวัน, ต้องยกของหนัก, ต้องใช้สมาธิสูงกับรายละเอียดข้อมูล, และต้องใช้พลังงานในการรับมือกับลูกค้าหลากหลายประเภท มันไม่ใช่งานสำหรับคนที่มองหา Passive Income อย่างแน่นอน

แล้ว... คุ้มค่าหรือไม่?

คำตอบของคำถามนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับมุมมองของคุณ

  • ถ้ามองในแง่ตัวเงิน: เป็นธุรกิจที่กำไรต่อชิ้นน้อย ต้องอาศัยปริมาณสูงจึงจะสร้างรายได้ที่ดีได้
  • ถ้ามองในแง่ "ความเป็นเจ้าของ": มันคือความภูมิใจที่ได้สร้างธุรกิจของตัวเองขึ้นมา, คือความสุขที่ได้เห็นลูกค้าประจำแวะเวียนมาด้วยความไว้วางใจ, และคือการได้เป็นศูนย์กลางเล็กๆ ที่คอยช่วยเหลือคนในชุมชน

ดังนั้น มันจะ "คุ้มค่า" มากสำหรับคนที่มีใจรักในงานบริการ, มีความสุขกับการได้พูดคุยกับผู้คน, ขยัน, และมีความละเอียดรอบคอบ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายและต้องการผลตอบแทนที่รวดเร็ว ธุรกิจนี้อาจจะไม่ใช่คำตอบของคุณ

อยากเป็นเจ้าของธุรกิจที่ "คุ้มค่า"? ให้เราเป็นเพื่อนคู่คิด

BS Express เข้าใจทุกแง่มุมของธุรกิจขนส่ง เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและ "คุ้มค่า" กับการลงทุน

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่

  • โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-303-9620
  • อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
  • ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!


บทความที่เกี่ยวข้อง
Content is King, Community is Kingdom: สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งด้วย Community Marketing
ในโลกการตลาดยุคดิจิทัล เราทุกคนต่างคุ้นเคยกับประโยคอมตะที่ว่า "Content is King" (คอนเทนต์คือราชา) ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ คอนเทนต์คุณภาพสูงคือสิ่งที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาหาแบรนด์ของคุณ สร้างความน่าเชื่อถือ และให้คุณค่าแก่ผู้ชม แต่ในสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือดในปัจจุบัน การมีเพียง "ราชา" อาจไม่เพียงพออีกต่อไป... เพราะสิ่งที่ทำให้แบรนด์ของคุณอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การมีผู้ติดตาม แต่คือการมี "อาณาจักร" ที่แข็งแกร่ง และอาณาจักรนั้นก็คือ "Community" (ชุมชน) ของคุณนั่นเอง บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่าทำไมยุคนี้ "Content is King" จึงต้องตามมาด้วย "Community is Kingdom" และทำไม Community Marketing จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะสร้างปราการอันแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของคุณ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
17 ต.ค. 2025
ผลกระทบลูกโซ่: 'การ Match ข้อมูลผิดพลาด' เพียงจุดเดียว สร้างความเสียหายต่อธุรกิจได้อย่างไร?
การจับคู่ข้อมูล (Data Matching) คือกระบวนการสำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น การเชื่อมข้อมูลการขายเข้ากับข้อมูลลูกค้า
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
17 ต.ค. 2025
วัดชีพจรธุรกิจขนส่ง: เฟรมเวิร์กสรุปรายงาน วัน-สัปดาห์-เดือน ที่ผู้จัดการสาขาต้องรู้
ในธุรกิจขนส่งที่ทุกนาทีคือต้นทุนและความพึงพอใจของลูกค้า การดำเนินงานในแต่ละวันเต็มไปด้วยความท้าทาย ตั้งแต่การจัดการรถ, การวางแผนเส้นทาง, ไปจนถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การบริหารจัดการโดยอาศัยแค่ "ความรู้สึก" หรือ "การแก้ปัญหาเมื่อมันเกิด" นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป
ปาล์ม นักศึกษาฝึกงาน
17 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ