แชร์

Last Mile Delivery คืออะไร? และทำไมถึงเป็นต้นทุนที่แพงที่สุดของการขนส่ง

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 16 ส.ค. 2025
71 ผู้เข้าชม

ถ้าเปรียบ โลจิสติกส์ เป็นเส้นทางการวิ่งผลัด ไม้สุดท้าย คือไม้ที่ตัดสินชัยชนะได้เสมอ สำหรับธุรกิจขนส่งก็เช่นกัน Last Mile Delivery หรือ การส่งในช่วงสุดท้าย คือการขนส่งจาก ศูนย์กระจายสินค้า ไปยังมือผู้รับปลายทาง ซึ่งมักจะเป็นบ้านของลูกค้า หรือร้านค้ารายย่อย

แม้จะเป็นระยะทางที่สั้นที่สุดในกระบวนการทั้งหมด แต่กลับ ใช้ต้นทุนสูงที่สุด และยังเป็นตัวแปรสำคัญที่กำหนดว่า ลูกค้าจะ ประทับใจ หรือ ผิดหวัง กับการสั่งซื้อออนไลน์


#?

First Mile = จากโรงงาน คลังสินค้าใหญ่
Middle Mile = จากคลังใหญ่ ศูนย์กระจายใกล้พื้นที่ลูกค้า
Last Mile = จากศูนย์กระจาย ลูกค้าปลายทาง (ระยะสั้นที่สุด แต่ซับซ้อนที่สุด)

ทำไม Last Mile ถึงแพงที่สุด?

ผู้รับกระจายหลายจุด ไม่ใช่ส่งไปที่เดียวเหมือนโรงงานหรือร้านค้า แต่ต้องกระจายของไปทีละบ้าน
ความไม่แน่นอน ลูกค้าไม่อยู่บ้าน ต้องเลื่อนเวลา หรือเปลี่ยนสถานที่รับของ ทำให้เสียเวลาและเชื้อเพลิง
ปริมาณงานไม่สม่ำเสมอ วันโปรโมชัน 11.11, 12.12 ปริมาณพัสดุพุ่งสูงกว่าปกติหลายเท่า ทำให้บริหารจัดการยาก
ความคาดหวังสูง ลูกค้าอยากได้ของเร็วและถูก (เช่น ส่งฟรีภายในวัน) บริษัทต้องแบกต้นทุนเอง

ตัวเลขที่น่าตกใจ

งานวิจัยของ Capgemini พบว่า Last Mile คิดเป็น 41% ของต้นทุนโลจิสติกส์ทั้งหมด
ลูกค้ากว่า 55% บอกว่า ความเร็วและความถูกต้องในการส่ง เป็นเหตุผลหลักที่เลือกซื้อออนไลน์จากร้านหนึ่งแทนอีกเจ้า
บริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Amazon ยอมลงทุนพันล้านดอลลาร์ในระบบ Last Mile เพราะนี่คือหัวใจของการสร้าง ความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty)

เทคโนโลยีที่ถูกนำมาแก้โจทย์ Last Mile

AI Route Optimization คำนวณเส้นทางสั้นที่สุด ลดการวิ่งเปล่า
Crowdsourced Delivery ใช้คนทั่วไป (เช่น Grab, Lalamove) ช่วยขนส่งแทนรถของบริษัท
Smart Locker & Pickup Point ส่งรวมไปที่ตู้ล็อกเกอร์/จุดรับใกล้บ้าน ลดปัญหาลูกค้าไม่อยู่บ้าน
Drone & Robot Delivery ทดลองใช้หุ่นยนต์ส่งของในระยะสั้น ๆ เช่นในวิทยาเขตมหาวิทยาลัย หรือเขตเมืองที่จราจรติดขัด
Micro Fulfillment Center กระจายคลังย่อยใกล้ชุมชน เพื่อลดเวลาส่งจากวันเป็นชั่วโมง

ทำไมธุรกิจควรลงทุนใน Last Mile?

เพราะนี่คือ จุดสัมผัสสุดท้าย ระหว่างแบรนด์กับลูกค้า หากการส่งถึงบ้านล่าช้า ของเสียหาย หรือสื่อสารไม่ดี แม้สินค้าจะดีแค่ไหนก็ทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้ แต่ถ้าส่งเร็ว ตรงเวลา สะดวก ลูกค้าจะ อยากกลับมาซื้ออีก


สรุปสั้น ๆ

Last Mile Delivery คือช่วงสุดท้ายของการขนส่ง ศูนย์กระจาย ลูกค้า
เป็นขั้นตอนที่ แพงที่สุดและซับซ้อนที่สุด
บริษัทโลจิสติกส์ทั่วโลกกำลังใช้ AI, หุ่นยนต์, Micro Fulfillment และ Smart Locker เพื่อแก้ปัญหานี้


บทความที่เกี่ยวข้อง
สต็อกตรง 100% ไม่ใช่เรื่องยาก: เทคนิคจัดเก็บและนับสต็อกฉบับมืออาชีพ
หัวใจของคลังสินค้าและธุรกิจ Fulfillment ก็คือ "สินค้าคงคลัง" (Inventory) การไม่รู้ว่าคุณมีสินค้าอะไร, จำนวนเท่าไหร่, และเก็บไว้ที่ไหน คือจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการส่งของผิด, สต็อกขาดโดยไม่รู้ตัว, หรือการใช้พื้นที่อย่างสิ้นเปลือง
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
3 ก.ย. 2025
Sankey Diagram: 'แผนภาพสายธาร' เครื่องมือติดตาม 'การไหล' ของข้อมูลและสินค้า
เคยสงสัยไหมครับว่าสินค้า 100 ชิ้นที่รับเข้ามาในคลัง ถูกกระจายออกไปหาลูกค้ากลุ่มไหน ผ่านช่องทางใด และถูกตีกลับมาเป็นจำนวนเท่าไหร่? การจะแสดงภาพความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเช่นนี้ด้วยกราฟธรรมดาอาจทำได้ยาก แต่ "Sankey Diagram" หรือ "แผนภาพสายธาร" ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยเฉพาะ
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
3 ก.ย. 2025
ไขทุกข้อสงสัย! ก่อนตัดสินใจลงทุนแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ ต้องรู้อะไรบ้าง?
ในยุคที่การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ธุรกิจขนส่งพัสดุจึงเติบโตอย่างก้าวกระโดดเหมือนเงาตามตัว การลงทุนใน "แฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ" กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ด้วยโมเดลธุรกิจที่ดูเหมือนจะเริ่มต้นได้ไม่ยาก มีแบรนด์ที่แข็งแกร่งคอยสนับสนุน แต่ก่อนที่คุณจะกระโดดเข้าสู่สมรภูมินี้อย่างเต็มตัว มีคำถามสำคัญมากมายที่ต้องหาคำตอบให้ชัดเจนเสียก่อน บทความนี้จะพาทุกท่านไปไขทุกข้อสงสัย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจลงทุนครั้งสำคัญนี้
ร่วมมือ.jpg Contact Center
3 ก.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ