ลดต้นทุน เพิ่มกำไร! 5 เทคนิคการจัดการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจ
ลดต้นทุน เพิ่มกำไร! 5 เทคนิคการจัดการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าสำหรับธุรกิจ
ในโลกของธุรกิจที่การแข่งขันสูง ทุกบาททุกสตางค์ที่ประหยัดได้ หมายถึงกำไรที่เพิ่มขึ้นโดยตรง และหนึ่งในต้นทุนที่สำคัญและมักจะซับซ้อนที่สุดสำหรับผู้ประกอบการก็คือ "ค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์และการขนส่งสินค้า"
หลายคนอาจมองว่าค่าขนส่งเป็นต้นทุนคงที่ที่ควบคุมได้ยาก แต่ความจริงแล้วมันคือพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ หากคุณสามารถจัดการได้อย่างชาญฉลาด มันจะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดต้นทุนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้มหาศาล
บทความนี้จะมาเปิด 5 เทคนิคสำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณจัดการโลจิสติกส์ได้อย่างมืออาชีพ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือ "ลดต้นทุน" และ "เพิ่มกำไร"
1.วางแผนและรวมเที่ยวการจัดส่ง (Plan & Consolidate Shipments)
แทนที่จะส่งของแบบกระจัดกระจายทีละชิ้นสองชิ้นทุกวัน ลองเปลี่ยนมาวางแผนรวบรวมออเดอร์แล้วจัดส่งเป็นล็อตใหญ่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ การทำเช่นนี้มีข้อดีคือ
- ลดต้นทุนต่อหน่วย: การส่งของในปริมาณที่มากขึ้นมักจะทำให้คุณได้ราคาค่าส่งต่อชิ้นที่ถูกลง
- ลดงานเอกสาร: ทำเอกสารและจัดการบิลเพียงไม่กี่ครั้งแทนที่จะต้องทำทุกวัน
- ลดเวลาในการจัดการ: พนักงานของคุณใช้เวลาในการแพ็คและรอรถเข้ารับเป็นรอบๆ ทำให้มีเวลาไปทำงานส่วนอื่นมากขึ้น
2.เพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้า (Optimize Warehouse Management)
คลังสินค้าที่รกรุงรังและไม่มีระบบ คือต้นตอของต้นทุนที่มองไม่เห็น
- จัดวาง Layout ให้ดี: จัดวางสินค้าที่ขายดีหรือถูกสั่งบ่อย (Fast-Moving Items) ไว้ในจุดที่หยิบง่ายและใกล้กับโซนแพ็คของมากที่สุด เพื่อลดระยะเวลาในการเคลื่อนที่
- ใช้ระบบ FIFO (First-In, First-Out): สินค้าที่เข้าคลังก่อน ควรถูกนำออกไปขายก่อน เพื่อลดปัญหาสินค้าเก่าเก็บ, เสื่อมสภาพ, หรือตกรุ่น
- ควบคุมสต็อกให้แม่นยำ: การมีสต็อกสินค้ามากเกินไปคือการเอาเงินไปจม การใช้ระบบจัดการสต็อกจะช่วยให้คุณสั่งของได้ในปริมาณที่เหมาะสม
3.เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม (Appropriate Packaging)
ขนาดและน้ำหนักของกล่องพัสดุส่งผลโดยตรงต่อค่าขนส่ง
- ใช้กล่องหลายขนาด: เตรียมกล่องหลายๆ ขนาดให้พอดีกับสินค้า อย่าใช้กล่องใหญ่เกินความจำเป็น เพราะผู้ให้บริการขนส่งหลายรายคิดค่าส่งจาก "น้ำหนักตามปริมาตร" (Dimensional Weight)
- เลือกวัสดุกันกระแทกที่เบา: ใช้วัสดุที่น้ำหนักเบาแต่ป้องกันได้ดี เช่น บับเบิ้ลอากาศ แทนการใช้กระดาษหนาๆ หนักๆ
- ลดความเสียหาย: การแพ็คที่ดีจะช่วยลดอัตราสินค้าเสียหายระหว่างขนส่ง ซึ่งหมายถึงการลดต้นทุนในการส่งของเคลมหรือส่งสินค้าใหม่ไปทดแทน
4.เปรียบเทียบและสร้างสัมพันธ์กับผู้ให้บริการขนส่ง
อย่าผูกติดกับผู้ให้บริการเพียงรายเดียวตลอดไปโดยไม่มีการทบทวน
- เปรียบเทียบราคาเสมอ: ควรขอใบเสนอราคาจากผู้ให้บริการหลายๆ เจ้าเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังได้ราคาที่ดีที่สุดในตลาด
- สร้างความสัมพันธ์แบบพาร์ทเนอร์: มองผู้ให้บริการขนส่งเป็น "หุ้นส่วน" ไม่ใช่แค่ "ซัพพลายเออร์" การมีความสัมพันธ์ที่ดีอาจนำมาซึ่งราคาที่ยืดหยุ่น, บริการที่รวดเร็วขึ้น, และความช่วยเหลือที่เต็มใจเมื่อเกิดปัญหา
5.ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย (Leverage Technology)
ในยุคดิจิทัล การทำงานแบบ Manual นั้นช้าและเสี่ยงต่อความผิดพลาด
- ระบบจัดการออเดอร์ (OMS): ช่วยรวบรวมออเดอร์จากทุกช่องทางมาไว้ในที่เดียว
- ระบบจัดการการขนส่ง (TMS): ช่วยวางแผนเส้นทาง, ติดตามสถานะ, และเลือกผู้ให้บริการที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ
- เชื่อมต่อระบบ (API Integration): หากทำได้ การเชื่อมต่อระบบร้านค้าของคุณกับระบบของบริษัทขนส่งจะช่วยลดขั้นตอนการคีย์ข้อมูลและพิมพ์ใบปะหน้าได้อย่างมหาศาล
การลดต้นทุนโลจิสติกส์ไม่ใช่การตัดค่าใช้จ่ายแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่คือการทำงานอย่างชาญฉลาดและมีระบบมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจของคุณแข็งแกร่งและทำกำไรได้มากขึ้นในระยะยาว
ต้องการพาร์ทเนอร์ที่ช่วยคุณลดต้นทุนโลจิสติกส์? ปรึกษา BS Express
เราเข้าใจว่าการจัดการโลจิสติกส์เป็นเรื่องซับซ้อน BS Express พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่ให้คำปรึกษาและนำเสนอโซลูชันการขนส่งที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจของคุณ
ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่
- โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-303-9620
- อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com
- ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210