แชร์

เทคโนโลยีตรวจจับตำแหน่งพัสดุในคลัง (Item-Level Tracking) ด้วย RFID + AI

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 24 ก.ค. 2025
220 ผู้เข้าชม

จาก ของอยู่ไหน? สู่ระบบติดตามแบบเรียลไทม์

ในอดีต เวลาพนักงานถามหาพัสดุในคลังสินค้า คำตอบอาจมีแค่ 2 แบบ:

"น่าจะอยู่แถวๆ นั้น"
"ต้องขอเวลาหาก่อนครับ"
ทั้งเสียเวลา ทั้งเสี่ยงผิดพลาด
แต่วันนี้ คำตอบใหม่คือ: อยู่ที่แถว 4 ชั้น 2 ตำแหน่ง C-27 ครับ
เพราะเรามี เทคโนโลยี Item-Level Tracking ด้วย RFID + AI มาช่วย


Item-Level Tracking คืออะไร?

Item-Level Tracking คือระบบที่สามารถติดตาม ตำแหน่งของพัสดุแต่ละชิ้น (ไม่ใช่แค่พาเลทหรือกล่องรวม) แบบ เรียลไทม์ในคลังสินค้า โดยใช้:

RFID Tag (แท็กอิเล็กทรอนิกส์) ติดที่ตัวพัสดุ
RFID Reader วางตามจุดสำคัญในคลัง
AI หรือระบบวิเคราะห์ คอยประมวลผลและระบุตำแหน่งของพัสดุแต่ละชิ้นอย่างแม่นยำ

 

ทำไมต้องใช้ RFID แทนบาร์โค้ด?

 


 


AI เข้ามาช่วยอะไร?

AI สามารถเรียนรู้รูปแบบการเคลื่อนไหวของพัสดุในคลัง เช่น:

ระยะเวลาที่พัสดุอยู่ในจุดหนึ่ง
พฤติกรรมของพนักงานที่ย้ายของผิดตำแหน่ง
ตรวจจับ ของตกหล่น หรือ ของหาย แบบอัตโนมัติ
นอกจากนี้ AI ยังสามารถประมวลผล Big Data เพื่อเสนอแนะ เส้นทางจัดวางสินค้าที่ดีที่สุด เพื่อประหยัดเวลาและแรงงาน


ประโยชน์ของ Item-Level Tracking

1. รู้ตำแหน่งของทุกชิ้นแบบทันที
ไม่ต้องเสียเวลาหาของ ลดเวลาจัดของ ลดความผิดพลาดในการหยิบผิด

2. ป้องกันของหายของผิดที่
มีระบบแจ้งเตือนเมื่อพัสดุถูกวางผิดตำแหน่ง หรือออกจากพื้นที่โดยไม่อนุญาต

3. เชื่อมต่อกับระบบ ERP/WMS ได้
ข้อมูลจาก RFID สามารถเชื่อมต่อไปยังระบบหลัก เช่น ERP หรือ WMS เพื่ออัปเดตสถานะทันที

4. รองรับระบบหยิบอัตโนมัติ (Pick-to-Light, AGV, Robot)
รู้ตำแหน่งชัดเจน = ทำให้หุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติทำงานได้ถูกต้อง


ใช้กับธุรกิจแบบไหนได้บ้าง?

คลังสินค้าขนาดใหญ่ที่มีของหลาย SKU
ศูนย์กระจายสินค้าที่หมุนเวียนของตลอดเวลา
ธุรกิจ e-Commerce ที่มีพัสดุเข้าคลังออกคลังตลอดวัน
ผู้ผลิตที่ต้องติดตามชิ้นส่วนในสายการผลิต (Manufacturing Logistics)

ต้นทุนกับผลตอบแทน (ROI)

แม้ระบบ RFID จะมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าบาร์โค้ด แต่เมื่อใช้ร่วมกับ AI แล้ว จะได้ประโยชน์ในด้าน:

ลดเวลาค้นหาสินค้าได้มากกว่า 40-60%
ลดค่าเสียหายจากของหายหรือส่งผิดที่
เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
ตรวจสอบย้อนหลังได้เมื่อมีปัญหา (เช่น สินค้าเสียหายหรือเคลม)

ความท้าทายและการปรับใช้

การติดตั้งอุปกรณ์อ่าน (RFID Reader) ต้องวางแผนตำแหน่งให้ครอบคลุม
แท็ก RFID ต้องเลือกให้เหมาะกับประเภทสินค้า (ของโลหะของเหลวของร้อน)
การฝึกอบรมพนักงาน ให้เข้าใจระบบใหม่
ระบบ AI ต้องเรียนรู้จากข้อมูลจริงก่อน ถึงจะให้ผลแม่นยำ

สรุป: คลังสินค้าแม่นยำเริ่มต้นที่ รู้ว่าของอยู่ตรงไหน
ถ้าการจัดการพัสดุเปรียบเหมือน เกมล่าขุมทรัพย์
เทคโนโลยี Item-Level Tracking ด้วย RFID + AI ก็คือ แผนที่ขุมทรัพย์แบบเรียลไทม์
ช่วยให้คุณเห็นทุกจุดของคลัง รู้ทุกตำแหน่งของของ เพิ่มความเร็ว และลดต้นทุน

ในยุคที่ลูกค้าไม่อยากรอ พัสดุต้องแม่น ระบบต้องอัตโนมัติ
เทคโนโลยีนี้ คือคำตอบที่ธุรกิจโลจิสติกส์ยุคใหม่ไม่ควรมองข้าม

 


 



บทความที่เกี่ยวข้อง
ระบบจัดการพัสดุแบบ Cloud  ข้อมูลเรียลไทม์ทุกขั้นตอน
ในยุคดิจิทัล ข้อมูลคือหัวใจของการตัดสินใจ ระบบจัดการพัสดุแบบ Cloud หรือ Cloud Logistics กลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจโลจิสติกส์ทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และโปร่งใส
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
11 ต.ค. 2025
AI ในโลจิสติกส์  ระบบอัจฉริยะช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร
ในโลกธุรกิจยุคดิจิทัล การจัดส่งสินค้าให้รวดเร็วและแม่นยำไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีคำสั่งซื้อจำนวนมหาศาลทุกวัน แต่ด้วย AI หรือ Artificial Intelligence โลจิสติกส์สามารถจัดการทุกขั้นตอนได้อย่างชาญฉลาด ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพ
ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
11 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ