แชร์

เทียบชัดๆ! ค่าส่งแบบเรียกรถเข้ารับ vs ไปส่งเองที่สาขา แบบไหนคุ้มกว่ากัน?

ร่วมมือ.jpg Contact Center
อัพเดทล่าสุด: 14 ก.ค. 2025
8 ผู้เข้าชม

เทียบชัดๆ! ค่าส่งแบบเรียกรถเข้ารับ vs ไปส่งเองที่สาขา แบบไหนคุ้มกว่ากัน?

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ การส่งของคือหนึ่งในกิจวัตรประจำวันที่สำคัญที่สุด แต่เคยลังเลไหมครับว่าระหว่างการหิ้วของไปส่งเองที่สาขา กับการใช้บริการเรียกรถมารับถึงหน้าบ้าน...แบบไหนจะ "คุ้มค่า" มากกว่ากัน?

หลายคนอาจคิดว่าการไปส่งเองนั้นประหยัดที่สุด แต่ถ้าเราลองนำ "ต้นทุนที่มองไม่เห็น" อย่างเวลาและค่าเดินทางมาคำนวณด้วย คำตอบอาจไม่เป็นอย่างที่คิด วันนี้เราจะมาเทียบให้เห็นกันชัดๆ หมัดต่อหมัด เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ว่าวิธีไหนเหมาะกับร้านค้าของคุณที่สุด!

ทีม #ไปส่งเองที่สาขา: สายลุย ประหยัดทุกบาท

นี่คือวิธีคลาสสิกที่ทุกคนคุ้นเคย คือการแพ็คของแล้วนำไปส่งที่จุดบริการหรือสาขาของบริษัทขนส่งด้วยตัวเอง

ข้อดี

  • ควบคุมค่าใช้จ่ายโดยตรง: ส่วนใหญ่ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม จ่ายแค่ค่าส่งตามจริง หรือบางครั้งอาจมีโปรโมชันสำหรับลูกค้า walk-in
  • ยืดหยุ่นเรื่องเวลา: อยากส่งตอนไหนก็ไปได้เลย (ภายในเวลาทำการ) ไม่ต้องรอรอบรถมารับ
  • สบายใจ ได้รับหลักฐานทันที: ได้ใบเสร็จและเลข Tracking Number มาไว้ในมือทันทีที่ส่งเสร็จ

ต้นทุนแฝงที่ต้องพิจารณา

  • ค่าเดินทาง: ค่าน้ำมันรถ ค่าสึกหรอ หรือค่ารถสาธารณะ
  • ค่าเสียเวลา: เวลาที่ใช้เดินทางไป-กลับ, เวลาหาที่จอดรถ, และที่สำคัญคือ "เวลารอคิว"
  • ค่าเสียโอกาส: เวลาที่หายไปเกือบ 1-2 ชั่วโมง คุณอาจนำไปตอบแชทลูกค้า, แพ็คของเพิ่ม, หรือทำการตลาดได้อีกมหาศาล
  • ข้อจำกัดทางกายภาพ: หากมีพัสดุจำนวนมากหรือชิ้นใหญ่ การขนไปเองอาจทุลักทุเลและใช้แรงเยอะมาก

ทีม #เรียกรถเข้ารับ: สายสมาร์ท เน้นประสิทธิภาพ

วิธีนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงในกลุ่มผู้ขายออนไลน์ เพียงแค่แพ็คของรอที่บ้านหรือออฟฟิศ แล้วกดเรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันให้รถขนส่งเข้ามารับพัสดุ

ข้อดี

  • ประหยัดเวลามหาศาล: แค่กดเรียกแล้วรอ! คุณสามารถใช้เวลาที่เหลือไปโฟกัสกับงานขายได้อย่างเต็มที่
  • สะดวกสบายขั้นสุด: ไม่ต้องเหนื่อยยกของหนัก ไม่ต้องผจญรถติดหรือสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ
  • เพิ่มประสิทธิภาพ: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านค้าที่มียอดสั่งซื้อจำนวนมาก หรือมีพัสดุขนาดใหญ่ ช่วยให้จัดการออเดอร์ได้รวดเร็วและเป็นระบบ
  • สร้างภาพลักษณ์มืออาชีพ: การจัดการที่รวดเร็วส่งผลให้ลูกค้าได้รับของไวขึ้น สร้างความประทับใจให้แบรนด์ของคุณ

สิ่งที่ต้องพิจารณา

  • ค่าบริการเข้ารับ: บางผู้ให้บริการอาจมีค่าเรียกรถ (Pickup Fee) หรือบางเจ้าอาจให้บริการฟรีเมื่อมีพัสดุถึงจำนวนที่กำหนด
  • รอบเวลา: ต้องนัดหมายล่วงหน้าและรอรถตามรอบเวลาที่กำหนด อาจไม่ยืดหยุ่นเท่าการไปส่งเอง

ตารางเปรียบเทียบหมัดต่อหมัด

บทสรุป: แล้วแบบไหนที่ "คุ้ม" สำหรับคุณ?

คำว่า "คุ้มค่า" ของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ การเลือกวิธีจัดส่งจึงขึ้นอยู่กับลักษณะธุรกิจและสิ่งที่คุณให้ความสำคัญ

เลือก "ไปส่งเองที่สาขา" ถ้า

  • คุณเพิ่งเริ่มต้นขายของ ปริมาณพัสดุยังไม่เยอะ (1-5 ชิ้น/วัน)
  • ที่พักอยู่ใกล้สาขามากๆ เดินไปได้
  • ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายโดยตรงให้ได้มากที่สุด และมีเวลาเหลือเฟือ

เลือก "เรียกรถเข้ารับที่บ้าน" ถ้า

  • คุณให้ความสำคัญกับ "เวลา" มากกว่าเงินเล็กน้อยที่ต้องจ่ายเพิ่ม
  • มียอดสั่งซื้อจำนวนมากในแต่ละวัน หรือมีพัสดุชิ้นใหญ่/น้ำหนักเยอะ
  • ต้องการยกระดับการทำงานให้เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต

ท้ายที่สุดแล้ว การลองคำนวณ "มูลค่าเวลา" ของคุณดู อาจทำให้เห็นว่าการจ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อยเพื่อซื้อเวลาและความสะดวกสบายกลับมานั้น เป็นการลงทุนที่ "คุ้มค่า" กว่าในระยะยาว ลองเปิดใจใช้บริการเรียกรถเข้ารับดูสักครั้ง แล้วคุณอาจจะไม่อยากกลับไปเสียเวลารอคิวอีกเลยก็เป็นได้ครับ

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่

โทรศัพท์: 02-114-8855 หรือ 086-3039620

อีเมล: bstransport_bkk@hotmail.com

ที่อยู่สำนักงานใหญ่: สถานีขนส่งสินค้าพุทธมณฑลสาย 5 ชานชาลาที่ 11 ห้องที่ 16-17 133 หมู่ที่ 1 ถนนบรมราชชนนี ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73210

คลิ๊กดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย!
https://www.bsgroupth.com/parcel-delivery-service-to-customers-home


บทความที่เกี่ยวข้อง
Ai จะมาช่วยพัฒนาการขนส่งอย่างไร
เทคโนโลยี AI ได้เข้ามาเสริมศักยภาพให้ระบบการขนส่ง
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
14 ก.ค. 2025
คลังแบบ Multi-Channel Fulfillment: เมื่อขายหลายช่องทาง ต้องบริหารคลังแบบใหม่
การจัดการคลังสินค้าก็ซับซ้อนขึ้นเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ธุรกิจควรทำความรู้จักกับ “Multi-Channel Fulfillment” หรือการบริหารคลังสำหรับการขายหลายช่องทาง
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
15 ก.ค. 2025
ปฏิวัติวงการขนส่ง: AI ขับเคลื่อนโลจิสติกส์สู่อนาคตอัจฉริยะ
ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ "ปัญญาประดิษฐ์" หรือ AI (Artificial Intelligence) ได้ก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในหลากหลายอุตสาหกรรม และหนึ่งในนั้นคือ วงการขนส่งและโลจิสติกส์ ที่ AI กำลังจะเข้ามาปฏิวัติรูปแบบการทำงานแบบเดิมๆ ให้ก้าวสู่ยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
14 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ