แชร์

ขั้นตอนพื้นฐานของการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ

S__2711596.jpg BS&DC SAI5
อัพเดทล่าสุด: 17 พ.ค. 2025
514 ผู้เข้าชม
1. ศึกษาและวางแผน
ก่อนนำเข้าสินค้า ควรเริ่มจากการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เช่น
  • ความต้องการของตลาด
  • ประเภทของสินค้าที่ต้องการนำเข้า
  • กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าชนิดนั้น
  • ต้นทุนทั้งหมด รวมถึงภาษีและค่าขนส่ง
2. ค้นหาแหล่งสินค้าที่น่าเชื่อถือ
ควรเลือกผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยสามารถหาได้จากช่องทางต่างๆ เช่น
  • เว็บไซต์ B2B อย่าง Alibaba, Global Sources
  • งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ
  • การติดต่อโดยตรงผ่านเครือข่ายธุรกิจ

อย่าลืมตรวจสอบประวัติ ความน่าเชื่อถือ และรีวิวของผู้ขายก่อนตัดสินใจสั่งซื้อ

3. เจรจาราคาและเงื่อนไขการซื้อขาย
หลังจากได้ซัพพลายเออร์แล้ว ให้เจรจาเงื่อนไขต่าง ๆ ได้แก่
  • ราคา (ราคาต่อหน่วย, ราคาขั้นต่ำในการสั่งซื้อ)
  • เงื่อนไขการชำระเงิน (เช่น T/T, L/C, PayPal)
  • เงื่อนไขการขนส่ง (Incoterms เช่น FOB, CIF)
  • เวลาการผลิตและการจัดส่ง
4. จัดการด้านเอกสารนำเข้า
เมื่อตกลงการซื้อขายแล้ว ต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น
  • ใบกำกับสินค้า (Invoice)
  • รายการบรรจุสินค้า (Packing List)
  • ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading หรือ Air Waybill)
  • ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin)
  • เอกสารอื่น ๆ ตามที่กรมศุลกากรกำหนด
5. ดำเนินการผ่านพิธีการศุลกากร
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ผู้ประกอบการสามารถเลือกทำเองหรือใช้บริการของตัวแทนออกของ (Customs Broker) เพื่อดำเนินการนำเข้าสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
  • ตรวจสอบภาษีอากร
  • ดำเนินการชำระภาษี
  • ผ่านกระบวนการตรวจสอบของศุลกากร
  • รับสินค้าเข้าโกดัง

6. ขนส่งและจัดเก็บสินค้า
หลังจากสินค้าผ่านศุลกากรแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการจัดส่งสินค้าไปยังที่เก็บหรือจุดจำหน่าย โดยสามารถเลือกใช้บริการโลจิสติกส์ภายในประเทศ หรือขนส่งเอง

7. การตรวจสอบคุณภาพและควบคุมสต๊อก
เมื่อสินค้าเข้ามาถึง ควรตรวจสอบคุณภาพทุกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าได้สินค้าตามที่ตกลงไว้ จากนั้นจัดเก็บอย่างเหมาะสม และจัดการสต๊อกอย่างมีระบบ

สรุป
การนำเข้าสินค้าไม่ใช่เรื่องยากหากมีการวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ การรู้ขั้นตอนพื้นฐานจะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจนำเข้า หมั่นอัปเดตกฎระเบียบใหม่ ๆ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้าต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว


บทความที่เกี่ยวข้อง
บริหารคลัง Fulfillment อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด: ลดต้นทุน เพิ่มความเร็วในการส่ง
ในยุคที่ E-commerce เติบโตอย่างก้าวกระโดด ความคาดหวังของลูกค้าไม่ใช่แค่ "ได้รับของ" แต่คือ "ได้รับของเร็วและถูกต้อง" หัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านค้าออนไลน์คือระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง และนั่นคือบทบาทของ "คลังสินค้า Fulfillment" ซึ่งเป็นมากกว่าแค่โกดังเก็บของ แต่เปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการที่จัดการทุกอย่างตั้งแต่การจัดเก็บ, แพ็ค, ไปจนถึงการจัดส่ง แล้วเราจะบริหารจัดการคลังสินค้าด้วยระบบ Fulfillment อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด? มาดูเคล็ดลับสำคัญกันครับ
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
24 ก.ค. 2025
ลืมภาพคลังสินค้าแบบเดิมๆ! รู้จักระบบ Random Location จัดเก็บอัจฉริยะ เพิ่มพื้นที่ ลดเวลา
ลองนึกภาพคลังสินค้าแบบดั้งเดิม ที่ชั้นวาง A ต้องเก็บแต่สินค้า A เท่านั้น และชั้นวาง B ก็ต้องเก็บเฉพาะสินค้า B... แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสินค้า A หมดสต็อก? พื้นที่ตรงนั้นก็จะถูกปล่อยให้ว่างเปล่าโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าเราจะมีสินค้า C ล้นคลังจนไม่มีที่เก็บก็ตาม ปัญหานี้คือจุดอ่อนของระบบการจัดเก็บแบบกำหนดตำแหน่งตายตัว (Fixed Location) แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Random Location System หรือ การจัดเก็บแบบสุ่มตำแหน่ง แนวคิดอัจฉริยะที่กำลังปฏิวัติการจัดการคลังสินค้าและบริการ Fulfillment ทั่วโลก
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
24 ก.ค. 2025
รู้จัก 3 ระบบ "หัวใจหลัก" ที่ SME ต้องมีในยุคดิจิทัล (CRM, POS, Inventory)
เราจะมาทำความรู้จักกับ 3 ระบบที่เปรียบเสมือน "หัวใจหลัก" ของการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล และมาดูกันว่าสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุอย่าง BS Express ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับพาร์ทเนอร์ของเราได้อย่างไร
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
24 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ