แชร์

อัตราเงินเฟ้อในปี 2568: แนวโน้ม เศรษฐกิจ และผลกระทบ

สีเขียว_สีเหลือง_น่ารัก_ภาพประกอบ_ปิดร้านค้า_Sorry_We_Are_Closed_Instagram_Post_.png BS Rut กองรถ
อัพเดทล่าสุด: 29 เม.ย. 2025
392 ผู้เข้าชม
แนวโน้มของเงินเฟ้อในปี 2568
          ข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารกลางหลายแห่งคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อในปี 2568 จะเริ่ม "ชะลอลง" เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนโควิด-19 เล็กน้อย ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแนวโน้มดังกล่าว ได้แก่:

  • ต้นทุนพลังงาน: ราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีความผันผวนตามภาวะภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและนโยบายพลังงานสะอาด
  • ห่วงโซ่อุปทานโลก: แม้การขนส่งและการผลิตจะเริ่มฟื้นตัว แต่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ เช่น สหรัฐฯ และจีน ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ
  • ค่าแรง: ตลาดแรงงานในหลายประเทศตึงตัว ทำให้ค่าแรงเฉลี่ยปรับสูงขึ้น ซึ่งผลักดันต้นทุนการผลิตและราคาสินค้า
สำหรับประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1.5%2.5% ซึ่งอยู่ในระดับ "ใกล้เคียงเป้าหมาย" หลังจากที่เคยสูงเกินเป้าหมายในช่วงวิกฤตพลังงานปี 2566

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและประชาชน
อัตราเงินเฟ้อที่สูงต่อเนื่องมีผลกระทบในหลายมิติ ได้แก่:

  • ค่าครองชีพสูงขึ้น: ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร พลังงาน และค่าที่อยู่อาศัย เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม
  • นโยบายการเงินเข้มงวด: ธนาคารกลางหลายแห่งยังคงใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งกระทบต่อการกู้ยืม ทั้งในภาคธุรกิจและครัวเรือน
  • การลงทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจ: อัตราดอกเบี้ยสูงกดดันการลงทุนใหม่ ๆ และอาจทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะลอลง
ในประเทศไทย ผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากรายได้ที่ปรับตัวช้ากว่าค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รัฐบาลยังคงมีนโยบายช่วยเหลือ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการลดภาระค่าครองชีพต่าง ๆ

มุมมองอนาคต
ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเชื่อว่า หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น วิกฤตการณ์ทางการเมืองใหญ่ หรือสงครามใหม่ ๆ เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะค่อย ๆ ฟื้นตัว และอัตราเงินเฟ้อจะเข้าสู่ระดับ "ปกติใหม่" ที่สูงกว่าก่อนยุคโควิดเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงมีอยู่ และต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

บทความที่เกี่ยวข้อง
บริหารคลัง Fulfillment อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด: ลดต้นทุน เพิ่มความเร็วในการส่ง
ในยุคที่ E-commerce เติบโตอย่างก้าวกระโดด ความคาดหวังของลูกค้าไม่ใช่แค่ "ได้รับของ" แต่คือ "ได้รับของเร็วและถูกต้อง" หัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านค้าออนไลน์คือระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง และนั่นคือบทบาทของ "คลังสินค้า Fulfillment" ซึ่งเป็นมากกว่าแค่โกดังเก็บของ แต่เปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการที่จัดการทุกอย่างตั้งแต่การจัดเก็บ, แพ็ค, ไปจนถึงการจัดส่ง แล้วเราจะบริหารจัดการคลังสินค้าด้วยระบบ Fulfillment อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด? มาดูเคล็ดลับสำคัญกันครับ
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
24 ก.ค. 2025
ลืมภาพคลังสินค้าแบบเดิมๆ! รู้จักระบบ Random Location จัดเก็บอัจฉริยะ เพิ่มพื้นที่ ลดเวลา
ลองนึกภาพคลังสินค้าแบบดั้งเดิม ที่ชั้นวาง A ต้องเก็บแต่สินค้า A เท่านั้น และชั้นวาง B ก็ต้องเก็บเฉพาะสินค้า B... แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสินค้า A หมดสต็อก? พื้นที่ตรงนั้นก็จะถูกปล่อยให้ว่างเปล่าโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าเราจะมีสินค้า C ล้นคลังจนไม่มีที่เก็บก็ตาม ปัญหานี้คือจุดอ่อนของระบบการจัดเก็บแบบกำหนดตำแหน่งตายตัว (Fixed Location) แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Random Location System หรือ การจัดเก็บแบบสุ่มตำแหน่ง แนวคิดอัจฉริยะที่กำลังปฏิวัติการจัดการคลังสินค้าและบริการ Fulfillment ทั่วโลก
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
24 ก.ค. 2025
รู้จัก 3 ระบบ "หัวใจหลัก" ที่ SME ต้องมีในยุคดิจิทัล (CRM, POS, Inventory)
เราจะมาทำความรู้จักกับ 3 ระบบที่เปรียบเสมือน "หัวใจหลัก" ของการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล และมาดูกันว่าสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุอย่าง BS Express ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับพาร์ทเนอร์ของเราได้อย่างไร
ฟ่าง (นักศึกษาฝึกงาน)
24 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ