แชร์

ถ้าตื่นมาวันหนึ่ง... ไทยเลิกค้าขายกับอเมริกา

OIG3__1_.jpg Boss Jame ฝ่ายกองรถ
อัพเดทล่าสุด: 9 เม.ย. 2025
54 ผู้เข้าชม
1. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
การส่งออกหายไปทันที
สหรัฐฯ คือหนึ่งใน 3 ตลาดส่งออกอันดับต้นๆ ของไทย
ปี 2023 ไทยส่งออกไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านบาท
หากตัดขาด หมายถึงสูญเสียรายได้เข้าประเทศมหาศาลในทันที
ธุรกิจผู้ผลิตและขนส่งเสียหายหนัก
สินค้าอย่างเสื้อผ้า อิเล็กทรอนิกส์ อาหารแปรรูป และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตเพื่อส่งออกไปอเมริกา จะไม่มีที่ไป
โรงงานบางแห่งอาจต้อง ลดกำลังผลิต-เลิกจ้างแรงงาน

️ 2. ผลกระทบด้านการลงทุนและเทคโนโลยี
การลงทุนจากสหรัฐฯ หยุดชะงัก
บริษัทใหญ่จากอเมริกา เช่น Microsoft, Ford, Amazon ฯลฯ ที่ลงทุนในไทยอาจถอนตัว
ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติก็จะสั่นคลอน ไทยอาจถูกมองว่า "เสี่ยง" ทางการเมือง/เศรษฐกิจ
การเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำๆ ถูกจำกัด
ซอฟต์แวร์-ฮาร์ดแวร์-ระบบดิจิทัลหลายอย่างของสหรัฐฯ จะถูกตัดออก เช่น Cloud, AI tools, ระบบการเงินบางอย่าง
กระทบทั้งในภาคธุรกิจและการศึกษา

3. ไทยต้อง รีเซ็ตห่วงโซ่อุปทาน ใหม่หมด
ปัจจุบันธุรกิจไทยพึ่งพา วัตถุดิบ นวัตกรรม และตลาดผู้บริโภค จากสหรัฐฯ ในระดับสูง
การเลิกค้าขาย = ต้องหาพาร์ทเนอร์ใหม่ด่วน เช่น จีน อินเดีย รัสเซีย หรือกลุ่มอาเซียน
แต่การหาตลาดใหม่ใช้ เวลาและต้นทุน สูงมาก

4. ด้านการทูตและภูมิรัฐศาสตร์
ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ไม่ได้มีแค่การค้า ยังครอบคลุมถึงความร่วมมือด้านความมั่นคง, การทหาร, การศึกษา, วัฒนธรรม
การตัดสัมพันธ์ทางการค้าอาจ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ในด้านอื่น เย็นลง อย่างรุนแรง
ไทยอาจถูกจัดอยู่ใน "ประเทศที่ไม่เป็นมิตร" และอาจถูกกีดกันทางการเงินหรือการท่องเที่ยวจากฝั่งตะวันตก

5. แล้วมีข้อดีอะไรไหม?
มีอยู่บ้าง เช่น:

กระตุ้นให้ไทยพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ในด้านนวัตกรรมและการผลิต
ดันให้เกิด ความร่วมมือกับประเทศคู่แข่งของสหรัฐฯ เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน ฯลฯ
โอกาสในตลาดใหม่ บางแห่งที่เคยโดนสหรัฐฯ กีดกัน อาจเปิดให้ไทยแทนที่ได้
แต่ก็ต้องบอกว่า ข้อดีน้อยกว่าข้อเสียมาก


สรุป: ยังไงก็ไม่คุ้ม
การตัดสัมพันธ์ทางการค้ากับสหรัฐฯ คือการยิงตัวเองที่ขา
เพราะเศรษฐกิจไทยยังพึ่งตลาดสหรัฐฯ อยู่ในหลายด้าน
การ ลดการพึ่งพา อาจพอเป็นไปได้
แต่การ ตัดขาด คงเป็นทางเลือกสุดโต่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เว้นแต่มีความขัดแย้งใหญ่ระดับโลก

บทความที่เกี่ยวข้อง
เปรียบเทียบระบบจัดการคลังสินค้า WMS ยอดนิยมในปี 2025
ในยุคที่ผู้บริโภคคาดหวังการจัดส่งที่รวดเร็วและแม่นยำ ธุรกิจจึงไม่สามารถพึ่งพาการจัดการคลังสินค้าแบบเดิมได้อีกต่อไป ระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System หรือ WMS) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และควบคุมต้นทุนให้กับธุรกิจทุกขนาด
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
9 พ.ค. 2025
Business Model Canvas: BS Express
Business Model Canvas คือเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจสามารถมองภาพรวมของโมเดลธุรกิจ (Business Model) ได้อย่างชัดเจน รวดเร็ว และเป็นระบบ โดยแบ่งองค์ประกอบหลักของธุรกิจออกเป็น 9 ส่วนบนผืนผ้าใบเดียว (Canvas) ซึ่งสามารถนำมาใช้วางแผน วิเคราะห์ หรือปรับปรุงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
9 พ.ค. 2025
หุ่นยนต์ในคลังสินค้า: ภัยคุกคามหรือโอกาสใหม่ของแรงงาน
ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างก้าวกระโดด หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของอุตสาหกรรม หนึ่งในพื้นที่ที่เห็นผลกระทบชัดเจนที่สุดคือ คลังสินค้า ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่ต้องอาศัยแรงงานคนจำนวนมาก แต่ปัจจุบันกลับเริ่มถูกแทนที่ด้วยแขนกล หุ่นยนต์เคลื่อนที่ และระบบจัดการสินค้าที่ชาญฉลาด
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
9 พ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ