แชร์

เปิด 6 เทคนิควางแผนการทำงานที่ดี ทำตามนี้รับรองว่าเวิร์ก!

noimageauthor นักศึกษาฝึกงาน(คลัง)
อัพเดทล่าสุด: 1 ก.พ. 2025
502 ผู้เข้าชม

เคยเป็นไหม งานเยอะ เดดไลน์เร็ว แต่ 24 ชั่วโมงในแต่ละวันดูเหมือนจะไม่พอ? หยุดความวุ่นวายเหล่านั้นด้วย 6 เทคนิควางแผนการทำงานที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณไปตลอดกาล ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดวางแผน หรือต้องการยกระดับทักษะการจัดการเวลาของคุณ เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้น เครียดน้อยลง และมีเวลาเหลือสำหรับสิ่งสำคัญในชีวิต


ทำไมต้องวางแผนการทำงาน
การวางแผนการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดและความวุ่นวายในการทำงาน นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราสามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ดียิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจว่าเราจะสามารถทำงานสำคัญได้เสร็จทันเวลา การวางแผนที่ดียังช่วยให้เราสามารถคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมแผนสำรองไว้ล่วงหน้า ส่งผลให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


แนะนำ 6 เทคนิควางแผนการทำงาน
การวางแผนการทำงานที่ดีเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วย 6 เทคนิค ต่อไปนี้

1. กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้
เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น เพิ่มยอดขายให้ได้ 20% ภายในไตรมาสที่ 2 แทนที่จะเป็น เพิ่มยอดขาย เพียงอย่างเดียว การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณวางแผนงานได้ตรงจุดและวัดความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม

2. ลำดับความสำคัญของงาน
เมื่อมีงานหลายอย่างที่ต้องทำ การจัดลำดับความสำคัญจะช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุดก่อน ใช้เทคนิค Eisenhower Matrix แบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่ม สำคัญและเร่งด่วน สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน ไม่สำคัญแต่เร่งด่วน และไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน จากนั้นจัดการงานตามลำดับความสำคัญ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าได้ทุ่มเทเวลาและพลังงานไปกับงานที่สำคัญจริง ๆ

3. ใส่ใจทุกขั้นตอนของกระบวนการทำงาน
การวางแผนการทำงานที่ดีต้องคำนึงถึงทุกขั้นตอนของกระบวนการ แบ่งงานใหญ่ออกเป็นงานย่อย ๆ และกำหนดขั้นตอนการทำงานอย่างละเอียด วิธีนี้จะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของงานทั้งหมดและสามารถประเมินเวลาและทรัพยากรที่ต้องใช้ได้แม่นยำยิ่งขึ้น 

4. กำหนดกรอบเวลาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละงาน
การกำหนดเวลาที่เหมาะสมสำหรับแต่ละงานเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนการทำงาน ใช้เทคนิค Time Boxing โดยกำหนดช่วงเวลาที่แน่นอนสำหรับแต่ละงาน เช่น ทำรายงานสรุปยอดขายเป็นเวลา 2 ชั่วโมง วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีสมาธิกับงานนั้น ๆ และป้องกันไม่ให้ใช้เวลากับงานใดงานหนึ่งมากเกินไป 

5. ใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีช่วยจัดการงาน
ในยุคดิจิทัล มีเครื่องมือและแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการวางแผนการทำงาน เช่น Trello, Asana, หรือ Microsoft To-Do ใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อจัดการงาน ติดตามความคืบหน้า และแบ่งปันแผนงานกับทีม เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของงานทั้งหมดและสามารถปรับแผนได้อย่างยืดหยุ่นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง

6. สื่อสารแผนงานให้ทีมและผู้เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกัน
การวางแผนการทำงานที่ดีไม่ได้จบแค่การเขียนแผน แต่ต้องสื่อสารให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกันด้วย จัดประชุมทีมเพื่ออธิบายแผนงาน เปิดโอกาสให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นและซักถาม ใช้การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมา หากมีการเปลี่ยนแปลงแผนงาน ต้องแจ้งให้ทุกคนทราบทันที การสื่อสารที่ดีจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจบทบาทและความรับผิดชอบของตนเอง ส่งผลให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพ


สุดท้ายนี้ การวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น การใช้เก้าอี้สำนักงานที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพ จะช่วยให้คุณนั่งทำงานได้อย่างสบายและมีสมาธิในการวางแผนงานมากขึ้น หรือการใช้โต๊ะปรับระดับช่วยให้คุณสามารถสลับระหว่างการนั่งและยืนทำงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานและสมาธิในการทำงานตามเวลาที่กำหนดไว้

BY : Tonkla

ที่มา : okamura.co.th


บทความที่เกี่ยวข้อง
มากกว่าแค่ 'รายงาน' แต่คือ 'Insight': เปลี่ยนข้อมูลดิบให้เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ
Insight Report ไม่ได้แค่บอกว่า "เกิดอะไรขึ้น" แต่จะตอบคำถามที่ลึกลงไปว่า "ทำไมมันถึงเกิดขึ้น" และ "เราควรจะทำอะไรต่อไป" นี่คือการเปลี่ยนข้อมูลดิบให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่นำไปใช้งานได้จริง วันนี้เราจะมาดูกันว่าการสร้าง Insight Report นั้นสำคัญอย่างไร
ซาล(นักศึกษาฝึกงาน)
18 ก.ย. 2025
Brand Book คืออะไร?: คู่มือสร้างแบรนด์ฉบับสมบูรณ์ ที่ช่วยให้ทุกคนในทีมสื่อสารไปในทิศทางเดียวกัน
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรง การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและเป็นที่จดจำไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป องค์กรหลายแห่งทุ่มงบประมาณมหาศาลไปกับการตลาด แต่กลับพบว่าการสื่อสารของแบรนด์ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในทีมภายในและกับลูกค้าภายนอก ปัญหานี้จะหมดไปหากคุณมี "Brand Book" เปรียบเสมือนคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่เป็น DNA ของแบรนด์ ช่วยให้ทุกคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นทีมการตลาด, ทีมขาย, ดีไซเนอร์ หรือแม้แต่ผู้บริหารเข้าใจและสื่อสารตัวตนของแบรนด์ไปในทางเดียวกัน
ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
16 ก.ย. 2025
การปรับ Mindset ของพนักงานจัดส่งพัสดุ: จากผู้ส่งของ → ผู้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
การปรับ Mindset ของพนักงานจัดส่งพัสดุ: จากผู้ส่งของ → ผู้สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
Screenshot_2025_09_02_160144.png พี่ปี
16 ก.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ