ระบบ E-POD (Electronic Proof of Delivery) คืออะไร?
อัพเดทล่าสุด: 29 ม.ค. 2025
363 ผู้เข้าชม
คุณสมบัติหลักของระบบ E-POD
1.บันทึกข้อมูลการส่งมอบแบบเรียลไทม์
- ระบบช่วยให้ผู้ส่งและผู้รับสามารถตรวจสอบสถานะของสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ทันที
2.ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (E-Signature)
- ผู้รับสามารถลงลายเซ็นบนอุปกรณ์พกพาหรือแท็บเล็ตของผู้ส่งของได้ทันที
3.ถ่ายภาพหลักฐานการส่งมอบ
- สามารถแนบรูปภาพสินค้า ณ จุดส่งมอบเพื่อเป็นหลักฐานเพิ่มเติม
4.GPS Tracking
- ตรวจสอบตำแหน่งที่แน่นอนของพนักงานส่งของขณะส่งสินค้า
5.QR Code / Barcode Scanning
- ใช้สแกนรหัสสินค้าเพื่อลดข้อผิดพลาดในการส่งมอบ
6.การแจ้งเตือนและรายงานอัตโนมัติ
- ส่งอีเมลหรือ SMS แจ้งเตือนการส่งมอบไปยังลูกค้า
7.บันทึกปัญหาการส่งมอบ
- หากเกิดปัญหา เช่น ไม่มีผู้รับสินค้า สามารถบันทึกเหตุผลลงในระบบเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ประโยชน์ของระบบ E-POD
- ลดการใช้เอกสารกระดาษ (Paperless)
- ป้องกันข้อพิพาทและความผิดพลาดในการส่งมอบ
- เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขนส่งและลดต้นทุน
- สร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ
- รองรับการเชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือ WMS
ใครบ้างที่ควรใช้ระบบ E-POD?
- ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์
- ผู้ให้บริการเดลิเวอรี่ (Food Delivery, Courier)
- ธุรกิจค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ
- ผู้ผลิตและซัพพลายเชน
ที่มา: Chat Gpt
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
Bitcoin (บิตคอยน์) สกุลเงินดิจิทัล จากเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain)
21 มี.ค. 2025
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลายเชนคือ "คลังสินค้าอัตโนมัติ" หรือ Automated Warehouse ระบบที่ใช้ AI และหุ่นยนต์เข้ามาช่วยจัดการแทนมนุษย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และลดต้นทุนในการดำเนินงาน
21 มี.ค. 2025
วันนี้ผมจะมาพูดถึงเทคโนโลยีที่ช่วยให้แอปพลิเคชันต่างๆ สามารถสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ Webhook ครับ
21 มี.ค. 2025