แชร์

ทฤษฎี Ansoff Matrix แผนที่นำทางสู่การเติบโตของธุรกิจ

อัพเดทล่าสุด: 7 ม.ค. 2025
647 ผู้เข้าชม

Ansoff Matrix หรือที่เรียกว่า Product/Market Expansion Grid เป็นเครื่องมือที่นักธุรกิจและนักการตลาดใช้ในการวางแผนและวิเคราะห์กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจ โดยพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ ผลิตภัณฑ์ (Product) และ ตลาด (Market) เมื่อนำปัจจัยทั้งสองมาผสมผสานกัน จะได้กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ 4 แนวทางหลัก

ทำความรู้จักกับ Ansoff Matrix 

Ansoff Matrix แบ่งกลยุทธ์การเติบโตออกเป็น 4 ช่อง ดังนี้

1. Market Penetration (เจาะตลาดด้วยผลิตภัณฑ์เดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์เดิมในตลาดเดิม อาจทำได้โดยการลดราคา เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย หรือทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้น

  • ตัวอย่าง: โคคา-โคลาเพิ่มยอดขายโดยการจัดโปรโมชั่นลดราคา หรือเปิดตัวขนาดบรรจุภัณฑ์ใหม่

2. Product Development (พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดเดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในตลาดเดิม อาจเป็นการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม หรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้อง

  • ตัวอย่าง: Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม

3. Market Development (บุกตลาดใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์เดิม): เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการนำผลิตภัณฑ์เดิมไปขายในตลาดใหม่ อาจเป็นการขยายเข้าสู่ภูมิภาคใหม่ หรือกลุ่มลูกค้าใหม่

  • ตัวอย่าง: Starbucks ขยายสาขาไปยังประเทศใหม่ๆ

4. Diversification (หลายด้านด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดใหม่): เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูงสุด เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเข้าสู่ตลาดใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม

  • ตัวอย่าง: Virgin Group เริ่มต้นจากธุรกิจดนตรี ก่อนขยายไปสู่ธุรกิจสายการบิน ธุรกิจโทรคมนาคม และอื่นๆ

เหตุใด Ansoff Matrix จึงสำคัญ?

  • ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของกลยุทธ์การเติบโต: ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของแต่ละกลยุทธ์ได้อย่างชัดเจน
  • ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ: ช่วยให้องค์กรเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับทรัพยากรและความสามารถขององค์กรมากที่สุด
  • สร้างโอกาสในการเติบโต: ช่วยให้องค์กรค้นพบโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่อาจมองข้ามไป
  • เป็นเครื่องมือในการวางแผนเชิงกลยุทธ์: ช่วยให้องค์กรวางแผนการดำเนินงานในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การนำ Ansoff Matrix ไปใช้

ในการนำ Ansoff Matrix ไปใช้ประโยชน์ ควรทำการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ เช่น

  • ความสามารถในการแข่งขันของผลิตภัณฑ์: ผลิตภัณฑ์ของเราแข็งแกร่งเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาดใหม่ได้หรือไม่
  • ความต้องการของตลาด: ตลาดใหม่มีความต้องการผลิตภัณฑ์ของเราหรือไม่
  • ทรัพยากรที่มีอยู่: องค์กรมีทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินกลยุทธ์นั้นๆ หรือไม่
  • ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น: มีความเสี่ยงอะไรบ้างที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกกลยุทธ์นั้นๆ

สรุป

Ansoff Matrix เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการวางแผนการเติบโตของธุรกิจ ช่วยให้องค์กรสามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ

 

ที่มา: Gemini


บทความที่เกี่ยวข้อง
Check-list คลังสินค้าพร้อมขาย: คุณมีครบหรือยัง?
การบริหารคลังสินค้าให้พร้อมขาย ไม่ใช่แค่มีของอยู่เต็มโกดังเท่านั้น แต่คือการวางระบบที่ทำให้สินค้าเคลื่อนไหวได้ทันทีเมื่อมีออเดอร์เข้ามา
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 มิ.ย. 2025
5 กลยุทธ์ลดต้นทุนในคลังสินค้าแบบมืออาชีพ
ในการบริหารคลังสินค้า ต้นทุนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระทบโดยตรงต่อกำไรของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าพื้นที่ ค่าบุคลากร ค่าขนส่ง หรือค่าจัดการสินค้า
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
21 มิ.ย. 2025
ทำไม AI วิดีโอถึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่ SME ต้องใช้?
วิดีโอ AI ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วย SME ลดต้นทุน สร้างคอนเทนต์เร็วขึ้น และเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
21 มิ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ