ทำไมต้องหนาและหนัก เรื่องน่ารู้ของประตูหนีไฟ และมาตรฐาน
อัพเดทล่าสุด: 24 ธ.ค. 2024
716 ผู้เข้าชม
ความสำคัญของประตูหนีไฟ
เพราะความปลอดภัยของผู้ที่อาศัยอยู่ภายในอาคารควรถูกจัดไว้เป็นอันดับแรก ๆ ในการออกแบบอาคาร ทำให้เราต้องเตรียมพร้อมกับอันตรายทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ภายในอาคารของเรา และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้บ่อยอันดับต้น ๆ ก็คืออัคคีภัย ปัจจัยที่สามารถก่อให้เกิดอัคคีภัยได้นั้นสามารถเกิดได้จากหลาย ๆ สาเหตุอย่างเช่น การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องใช้ไฟฟ้าขัดข้อง เกิดประกายไฟที่ใกล้แหล่งเชื้อเพลิง การจะอพยพผู้คนในสถานการณ์อัคคีภัยตามช่องทางประตูปกติอาจเกิดปัญหาได้อย่างประตูอัตโนมัติไม่ทำงาน เนื่องจากระบบไฟฟ้าขัดข้อง ประตูกระจกไม่สามารถเปิดได้เพราะแรงดันอากาศ จึงจำเป็นต้องมีประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟที่นำไปสู่ทางหนีไฟที่ได้รับมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟนี้เองจึงมีความสำคัญในการป้องกันทั้งไฟและควันไม่ให้เล็ดลอดเข้าสู่ทางเดินหนีไฟ หรืออาจรวมไปถึงหลบหนีจากสถานการณ์อื่น ๆ ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในอาคารสามารถอพยพออกจากตัวอาคารได้อย่างปลอดภัย
ทำไมประตูหนีไฟถึงต้องหนาและหนัก
ประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟนั้นจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่สามารถทนความร้อนได้สูง ในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อัคคีภัย ภายในบานประตูหนีไฟจึงมักจะบุด้วยวัสดุที่เป็นฉนวนทนไฟ ค่าการนำความร้อนต่ำเพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในกรณีที่เราต้องใช้งานตัวประตูหนีไฟ ฉนวนที่นิยมใช้ในการบุภายในประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟจึงนิยมใช้ Rockwool หรืออีกชื่อหนึ่งคือฉนวนใยหิน ซึ่งสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ตัววัสดุที่ทำประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟเองก็ต้องทำจากวัสดุไม่ติดไฟและไม่ลามไฟ เพื่อความปลอดภัยส่วนประกอบภายนอกของประตูหนีไฟจึงทำจากวัสดุอย่างแผ่นเหล็ก เพื่อคงความแข็งแรงของประตูเอาไว้ไม่ให้เสียรูปทรงจากความร้อน เมื่อรวมส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟจึงจำเป็นต้องมีความหนาและหนัก เพื่อให้ประตูหนีไฟสามารถป้องกันไฟและควันไฟไม่ให้เล็ดลอดผ่านเข้าไปในทางเดินหนีไฟได้
ประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟนั้นจำเป็นต้องมีคุณสมบัติที่สามารถทนความร้อนได้สูง ในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้อัคคีภัย ภายในบานประตูหนีไฟจึงมักจะบุด้วยวัสดุที่เป็นฉนวนทนไฟ ค่าการนำความร้อนต่ำเพื่อไม่ให้เกิดความร้อนในกรณีที่เราต้องใช้งานตัวประตูหนีไฟ ฉนวนที่นิยมใช้ในการบุภายในประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟจึงนิยมใช้ Rockwool หรืออีกชื่อหนึ่งคือฉนวนใยหิน ซึ่งสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส ตัววัสดุที่ทำประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟเองก็ต้องทำจากวัสดุไม่ติดไฟและไม่ลามไฟ เพื่อความปลอดภัยส่วนประกอบภายนอกของประตูหนีไฟจึงทำจากวัสดุอย่างแผ่นเหล็ก เพื่อคงความแข็งแรงของประตูเอาไว้ไม่ให้เสียรูปทรงจากความร้อน เมื่อรวมส่วนประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกันประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟจึงจำเป็นต้องมีความหนาและหนัก เพื่อให้ประตูหนีไฟสามารถป้องกันไฟและควันไฟไม่ให้เล็ดลอดผ่านเข้าไปในทางเดินหนีไฟได้
ขนาดของประตูหนีไฟที่เหมาะสม
การอพยพผู้คนในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ผ่านจำเป็นต้องผ่านด่านแรกในทุก ๆ ชั้นของอาคารนั้นก็คือประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟ และขนาดของประตูหนีไฟนี้เองก็สำคัญไม่แพ้กัน ขนาดที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายที่ว่าด้วยขนาดของประตูหนีไฟที่มีอยู่หลายฉบับ ซึ่งระบุแตกต่างกันออกไป แต่ขนาดที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบแล้วนั่นก็คือประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟควรมีขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร และสูงไม่น้อยกว่า 2 เมตร ซึ่งเป็นขนาดขั้นต่ำที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ แต่การเลือกขนาดของประตูหนีไฟ ควรพิจารณาถึงรูปแบบอาคารด้วยว่ามีเส้นทางหนีไฟทั้งหมดกี่เส้นทางภายในพื้นที่ และจะมีจำนวนคนที่ต้องการให้อพยพออกจากตัวอาคารอย่างปลอดภัยจำนวนกี่คน ในกรณีที่ประตูกว้าง 90 เซนติเมตรและสูง 2 เมตรที่ตามกฎหมายระบุนั้นจะสามารถรองรับการอพยพของผู้คนภายในอาคารให้ออกจากพื้นที่ประมาณ 180 คน ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่มีตามท้องตลาดทั่วไป แต่ถ้าอาคารมีเส้นทางในการอพยพที่น้อย และจำนวนผู้ที่ต้องอพยพออกจากอาคารที่เยอะ การเลือกขนาดของประตูหนีไฟที่กว้างและสูงกว่านี้ก็เหมาะสมในการพิจารณาเลือกขนาดของประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟ
การอพยพผู้คนในกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ผ่านจำเป็นต้องผ่านด่านแรกในทุก ๆ ชั้นของอาคารนั้นก็คือประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟ และขนาดของประตูหนีไฟนี้เองก็สำคัญไม่แพ้กัน ขนาดที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบกับกฎหมายที่ว่าด้วยขนาดของประตูหนีไฟที่มีอยู่หลายฉบับ ซึ่งระบุแตกต่างกันออกไป แต่ขนาดที่เหมาะสมเมื่อเปรียบเทียบแล้วนั่นก็คือประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟควรมีขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร และสูงไม่น้อยกว่า 2 เมตร ซึ่งเป็นขนาดขั้นต่ำที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้ แต่การเลือกขนาดของประตูหนีไฟ ควรพิจารณาถึงรูปแบบอาคารด้วยว่ามีเส้นทางหนีไฟทั้งหมดกี่เส้นทางภายในพื้นที่ และจะมีจำนวนคนที่ต้องการให้อพยพออกจากตัวอาคารอย่างปลอดภัยจำนวนกี่คน ในกรณีที่ประตูกว้าง 90 เซนติเมตรและสูง 2 เมตรที่ตามกฎหมายระบุนั้นจะสามารถรองรับการอพยพของผู้คนภายในอาคารให้ออกจากพื้นที่ประมาณ 180 คน ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่มีตามท้องตลาดทั่วไป แต่ถ้าอาคารมีเส้นทางในการอพยพที่น้อย และจำนวนผู้ที่ต้องอพยพออกจากอาคารที่เยอะ การเลือกขนาดของประตูหนีไฟที่กว้างและสูงกว่านี้ก็เหมาะสมในการพิจารณาเลือกขนาดของประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟ
มาตรฐานของประตูหนีไฟ
โดยสรุปแล้วประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟที่ได้รับมาตรฐานนั้นควรมีขนาดความกว้างที่เหมาะสมต่อการอพยพของผู้คนภายในอาคารนั่นก็คือความกว้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร และความสูงขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 2 เมตรตามที่กฎหมายระบุ และตัวประตูหนีไฟเองจำเป็นต้องมีคุณสมบัติทนไฟ ไม่สูญเสียรูปทรงเมื่อเจอความร้อนสูง ไม่นำความร้อนสูงจนเกินไป และภายในประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟจำเป็นต้องบุด้วยฉนวนทนไฟทั่วทั้งบาน ซึ่งฉนวนทนไฟที่เหมาะสมนั่นก็คือ Rockwool หรือ ฉนวนใยหินที่สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 1000 องศาเซลเซียส อัตราการทนไฟของประตูหนีไฟต้องไม่น้อยกว่าอัตราการทนไฟของผนังที่ประตูทนไฟติดตั้ง และทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนประกอบของประตูที่เป็น วงกบ บานพับ อุปกรณ์ล็อกและอุปกรณ์ดึงปิดประตู มีความจำเป็นต้องเป็นวัสดุไม่ติดไฟมีช่องว่างระหว่างขอบประตูกับพื้นไม่มากเกินกว่า 5 มิลลิเมตร ในกรณีไม่มีธรณีประตู ทิศทางการติดตั้งประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟต้องสามารถผลักไปในทิศทางการหนีไฟไปสู่ทางหนีไฟ โดยเปิดกว้างได้ไม่น้อยกว่า 90 องศา โดยที่ไม่กีดขวางเส้นทางอพยพ และสามารถปิดได้เองอัตโนมัติ ความกว้างของบาร์ผลัก (Panic Hardware) จำเป็นต้องมีขนาดไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของความกว้างของบานประตู โดยติดตั้งที่ระดับไม่ต่ำกว่า 80 ถึง 120 โดยวัดจากระดับพื้น
โดยสรุปแล้วประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟที่ได้รับมาตรฐานนั้นควรมีขนาดความกว้างที่เหมาะสมต่อการอพยพของผู้คนภายในอาคารนั่นก็คือความกว้างขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 90 เซนติเมตร และความสูงขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 2 เมตรตามที่กฎหมายระบุ และตัวประตูหนีไฟเองจำเป็นต้องมีคุณสมบัติทนไฟ ไม่สูญเสียรูปทรงเมื่อเจอความร้อนสูง ไม่นำความร้อนสูงจนเกินไป และภายในประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟจำเป็นต้องบุด้วยฉนวนทนไฟทั่วทั้งบาน ซึ่งฉนวนทนไฟที่เหมาะสมนั่นก็คือ Rockwool หรือ ฉนวนใยหินที่สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 1000 องศาเซลเซียส อัตราการทนไฟของประตูหนีไฟต้องไม่น้อยกว่าอัตราการทนไฟของผนังที่ประตูทนไฟติดตั้ง และทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนประกอบของประตูที่เป็น วงกบ บานพับ อุปกรณ์ล็อกและอุปกรณ์ดึงปิดประตู มีความจำเป็นต้องเป็นวัสดุไม่ติดไฟมีช่องว่างระหว่างขอบประตูกับพื้นไม่มากเกินกว่า 5 มิลลิเมตร ในกรณีไม่มีธรณีประตู ทิศทางการติดตั้งประตูเหล็กทนไฟ หรือประตูหนีไฟต้องสามารถผลักไปในทิศทางการหนีไฟไปสู่ทางหนีไฟ โดยเปิดกว้างได้ไม่น้อยกว่า 90 องศา โดยที่ไม่กีดขวางเส้นทางอพยพ และสามารถปิดได้เองอัตโนมัติ ความกว้างของบาร์ผลัก (Panic Hardware) จำเป็นต้องมีขนาดไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของความกว้างของบานประตู โดยติดตั้งที่ระดับไม่ต่ำกว่า 80 ถึง 120 โดยวัดจากระดับพื้น
BY : Jim
ที่มา : https://shorturl.asia/N7Bic
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในยุคที่ E-commerce เติบโตอย่างก้าวกระโดด ความคาดหวังของลูกค้าไม่ใช่แค่ "ได้รับของ" แต่คือ "ได้รับของเร็วและถูกต้อง" หัวใจสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของร้านค้าออนไลน์คือระบบหลังบ้านที่แข็งแกร่ง และนั่นคือบทบาทของ "คลังสินค้า Fulfillment" ซึ่งเป็นมากกว่าแค่โกดังเก็บของ แต่เปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการที่จัดการทุกอย่างตั้งแต่การจัดเก็บ, แพ็ค, ไปจนถึงการจัดส่ง
แล้วเราจะบริหารจัดการคลังสินค้าด้วยระบบ Fulfillment อย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด? มาดูเคล็ดลับสำคัญกันครับ
24 ก.ค. 2025
ลองนึกภาพคลังสินค้าแบบดั้งเดิม ที่ชั้นวาง A ต้องเก็บแต่สินค้า A เท่านั้น และชั้นวาง B ก็ต้องเก็บเฉพาะสินค้า B... แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสินค้า A หมดสต็อก? พื้นที่ตรงนั้นก็จะถูกปล่อยให้ว่างเปล่าโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าเราจะมีสินค้า C ล้นคลังจนไม่มีที่เก็บก็ตาม
ปัญหานี้คือจุดอ่อนของระบบการจัดเก็บแบบกำหนดตำแหน่งตายตัว (Fixed Location) แต่วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Random Location System หรือ การจัดเก็บแบบสุ่มตำแหน่ง แนวคิดอัจฉริยะที่กำลังปฏิวัติการจัดการคลังสินค้าและบริการ Fulfillment ทั่วโลก
24 ก.ค. 2025
เราจะมาทำความรู้จักกับ 3 ระบบที่เปรียบเสมือน "หัวใจหลัก" ของการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิทัล และมาดูกันว่าสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุอย่าง BS Express ระบบเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความสำเร็จให้กับพาร์ทเนอร์ของเราได้อย่างไร
24 ก.ค. 2025