แชร์

Jidoka คืออะไร? ระบบการผลิตแบบจิโดกะ

อัพเดทล่าสุด: 5 ธ.ค. 2024
2721 ผู้เข้าชม
  Jidoka คือ ภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า Autonomation หรือการควบคุมโดยอัตโนมัติ เป็นวิธีที่ Toyota ใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อลดความผิดพลาดและความสูญเสียจากกระบวนการผลิต (Waste) ด้วยการออกแบบระบบการผลิตให้หยุดเองอัตโนมัติ
 
  สำหรับ Jidoka ที่ Toyota ใช้ในกระบวนการผลิตจะช่วยลดความผิดพลาดในการผลิตด้วยการมีระบบอัตโนมัติ (Autonomation หรือ Jidoka) ที่จะหยุดกระบวนการผลิตเองอัตโนมัติทันทีเมื่อเกิดความผิดพลาดในการผลิต เพื่อแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนที่จะดำเนินการผลิตต่อไป ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดของเสีย (Waste) ที่เกิดจากการผลิตที่มีข้อบกพร่อง
 
  นอกจากนี้ ในการใช้งานระบบ Jidoka อย่างเต็มรูปแบบ เมื่อเกิดกระบวนการที่สร้างปัญหาใด ๆ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาประเมินถึงปัญหาในภายหลังเพื่อขจัดความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นอีก

  ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการประกอบชิ้นส่วนเกินเข้าไปในระบบ ระบบอัตโนมัติ Jidoka จะหยุดกระบวนการผลิตชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเข้าไปจัดการชิ้นส่วนที่เกินก่อนที่จะดำเนินการผลิตต่อ

  โดยระบบ Jidoka ที่ Toyota ใช้นั้นจะใช้เป็นสัญญาณไฟที่จะสว่างขึ้นเมื่อเกิดความผิดพลาดในการผลิตขึ้นมา เพื่อส่งสัญญาณให้พนักงานหยุดกระบวนการผลิต และพนักงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไข
 
ประโยชน์ของระบบ Jidoka
  การใช้หลักการของ Jidoka ตลอดกระบวนการผลิตเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบการผลิตของโตโยต้า (Toyota Production System หรือ TPS) จะช่วยบังคับให้ผู้ปฏิบัติงานตรวจสอบตัวเองแก้ไขความไม่สมบูรณ์ในทันที เพื่อลดปริมาณงานในอนาคตที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่อง

  จะเห็นว่าประโยชน์หลักของ Jidoka คือ ช่วยป้องกันไม่ให้งานที่มีความผิดพลาดหลุดไปยังกระบวนการต่อไปรวมถึงหลุดไปจนถึงมือลูกค้า

  เพราะถ้าชิ้นส่วนที่ประกอบผิดพลาดในตัวอย่างหลุดเข้าไปเป็นชิ้นส่วนในขั้นตอนต่อไป ก็ยากที่จะตรวจสอบหรือยากที่จะรู้ว่าสินค้าชิ้นนั้นมีความผิดพลาด และสุดท้ายสินค้าที่มีปัญหาก็จะถูกส่งไปถึงมือลูกค้า และเกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย
 
  ปัญหาที่ตามมาก็จะส่งผลให้ต้นทุกการผลิตสูงขึ้น จาก Reverse Logistics หรือ การส่งสินค้าที่เสียหายกลับมาและต้นทุนในการชดใช้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นความสูญเปล่าตามหลัก 7 Wastes ของญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ในส่วนของเครื่องอัตโนมัติที่สามารถตรวจจับความผิดพลาดได้เองโดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์เข้าไปแก้ปัญหายังช่วยทำให้เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วมตลอดเวลา 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
BY : Jim 
ที่มา : https://shorturl.asia/XOH3v

บทความที่เกี่ยวข้อง
Automation และหุ่นยนต์ในคลังสินค้า: เทรนด์ปีนี้
ในปีนี้ธุรกิจโลจิสติกส์และคลังสินค้ากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการนำ Automation (ระบบอัตโนมัติ) และ หุ่นยนต์ (Robotics) เข้ามาช่วยงานมากขึ้น ไม่ใช่แค่บริษัทใหญ่ แต่ SME ก็เริ่มใช้ได้แล้ว เพราะเทคโนโลยีมีราคาที่จับต้องง่ายขึ้น และใช้งานง่ายกว่าเดิมมาก
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
9 ธ.ค. 2025
วิธีคำนวณค่าระวางสินค้า (Freight) เบื้องต้นที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้
วิธีคำนวณค่าระวางสินค้า (Freight) ฉบับเข้าใจง่าย: เจ้าของธุรกิจต้องรู้ ก่อนขาดทุนค่าส่ง! Meta Description: เคยสงสัยไหมทำไมของเบาแต่ค่าส่งแพง? เรียนรู้วิธีคำนวณค่าระวางสินค้า (Freight) และวิธีคิด CBM เบื้องต้น เทคนิคลดต้นทุนที่ช่วยให้คุณประเมินราคาขนส่งได้แม่นยำ ไม่โดนบวกเพิ่ม
ไทก้า นักศึกษาฝึกงาน
9 ธ.ค. 2025
Customer Retention 101: ทำไม "บริการส่งที่ดี" ถึงสำคัญกว่า "ยิงแอด" ในการดึงลูกค้าให้ซื้อซ้ำ
หยุดถมเงินค่าแอด ถ้าหลังบ้านยัง "รั่ว" คุณเคยสงสัยไหมว่า ทำไมยิงแอดไปเท่าไหร่ ยอดขายก็ไม่โตแบบก้าวกระโดดสักที? หรือทำไมลูกค้าซื้อครั้งเดียวแล้วหายเงียบ ไม่กลับมาซื้อซ้ำ? ในโลกธุรกิจออนไลน์ปี 2025 ที่ค่าโฆษณา (Ads Cost) แพงหูฉี่ การมัวแต่หาลูกค้าใหม่ (Acquisition) อาจไม่ใช่คำตอบที่คุ้มค่าที่สุดอีกต่อไป กุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอดและกำไรพุ่งคือ "การรักษาลูกค้าเก่า (Customer Retention)" และเชื่อหรือไม่ว่า เครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ไม่ใช่คูปองส่วนลด แต่คือ "ประสบการณ์การจัดส่ง (Delivery Experience)" นั่นเอง วันนี้ BS Group จะพาไปดูว่าทำไมการส่งของที่ดี ถึงมีค่ามากกว่าการยิงแอด
ลูกดิว เด็กฝึกงาน
9 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ