เหตุใด การขนส่งทางถนน จึงเป็นโลจิสติกส์ที่ร้อนแรง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งการขนส่งทางถนนจะเติบโตในแถบนี้จะเติบโตอย่างยั่งยืนได้นั้น จะต้องผ่านการดำเนินตามมาตรการใหม่ด้านการค้าระหว่างภูมิภาค การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ความนิยมในตลาดอีคอมเมิร์ซ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นของโซลูชั่นทางโลจิสติกส์ในภูมิภาคนี้
รายงาน การขนส่งสินค้าในเอเชีย: เส้นทางสู่การเติบโต โดย ดีเอชแอล โกลเบิล ฟอร์เวิร์ดดิ้ง (DHL Global Forwarding) บริษัทด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ในเครือของกลุ่มบริษัท ดอยช์ โพสต์ ดีเอชแอล กรุ๊ป (DPDHL Group) ระบุว่า บริษัทฯ เล็งเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนของการขนส่งทางถนนข้ามพรมแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยคาดการณ์ว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเติบโต 5.5% ภายในปี 2564 จากแรงหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ เนื่องจากมีการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมการผลิต และการกระจายตัวของซัพพลายเชนของบริษัทฯ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขนส่งทางถนนกลายเป็นหัวใจสำคัญของโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เนื่องจากเหตุผลหลายประการที่สัมพันธ์กับลักษณะภูมิภาค เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ดังนี้:
1. ภูมิประเทศและเครือข่ายการขนส่ง
ภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อกัน: ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีพรมแดนติดกัน ซึ่งช่วยให้การขนส่งทางถนนเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและสะดวกกว่าทางอื่น ๆ เช่น ทางเรือหรืออากาศ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: หลายประเทศในภูมิภาคกำลังลงทุนพัฒนาถนนและทางหลวงเชื่อมโยงระหว่างประเทศ เช่น ทางหลวงอาเซียน (ASEAN Highway Network) ซึ่งช่วยเสริมประสิทธิภาพการขนส่ง
2. การเติบโตของเศรษฐกิจและการค้าอีคอมเมิร์ซ
อีคอมเมิร์ซขยายตัว: การเติบโตของธุรกิจออนไลน์ เช่น Lazada, Shopee และ Grab ทำให้เกิดความต้องการการขนส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการส่งสินค้าแบบ last-mile delivery
SMEs และการค้าในท้องถิ่น: ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ในภูมิภาคมักใช้การขนส่งทางถนนเพื่อลดต้นทุนและเข้าถึงตลาดท้องถิ่น
3. ความคุ้มค่าและยืดหยุ่น
ต้นทุนที่ต่ำกว่า: การขนส่งทางถนนมักมีต้นทุนต่ำกว่าการขนส่งทางอากาศ และเหมาะสมสำหรับการขนส่งระยะสั้นหรือสินค้าที่ไม่ต้องการความเร่งรีบ
ความยืดหยุ่นสูง: รถบรรทุกหรือรถตู้สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เช่น รถไฟหรือสนามบิน
4. เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ระบบติดตาม GPS และ IoT: การนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยเพิ่มความโปร่งใสและประสิทธิภาพ เช่น การติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์
แอปพลิเคชันโลจิสติกส์: บริษัทขนส่งขนาดใหญ่และแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ เช่น Ninja Van และ J&T Express ทำให้ผู้ใช้บริการจองและจัดส่งสินค้าผ่านแอปได้ง่าย
5. ความร่วมมือระดับภูมิภาค
นโยบายอาเซียน: ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอาเซียน เช่น เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ช่วยลดข้อจำกัดด้านภาษีและการขนส่งระหว่างประเทศ
โครงการพัฒนาร่วม: เช่น ความริเริ่ม One Belt One Road ของจีน ที่สนับสนุนการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาค
6. การตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง
การแพร่ระบาดของโควิด-19: การล็อกดาวน์และการหยุดชะงักของการขนส่งทางอากาศและทางเรือในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การขนส่งทางถนนเป็นทางเลือกสำคัญ
ความต้องการลดระยะเวลาในการขนส่ง: การขนส่งทางถนนช่วยลดเวลาการขนส่งระหว่างประเทศในภูมิภาค เมื่อเทียบกับการใช้เส้นทางที่มีหลายจุดต่อ
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ การขนส่งทางถนนจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมีประสิทธิภาพและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว.
BY : Tonkla
ที่มา : www.salika.co และ chatgpt.com