วิศวกรรมโลจิสติกส์ เรียนเกี่ยวกับไร จบไปสามารถทำงานไรได้บ้าง
วิศวกรรมโลจิสติกส์ เป็นงานที่เกี่ยวกับเทคนิคทางด้านการออกแบบ และควบคุม สำหรับการขนส่ง จัดเก็บ เคลื่อนย้าย สินค้าและบริการ การวิเคราะห์ วิจัยปัญหาในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่วนที่ เกี่ยวข้องในระบบโซ่อุปทาน และการประยุกต์ทางด้านเทคนิคต่างๆ ที่จะนำไปใช้ในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการจัดการ การเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนในการผลิต รวมไปถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
เทคนิคด้านวิศวกรรมโลจิสติกส์เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญครอบคลุมตั้งแต่เริ่มต้นการดำเนินธุรกิจจนถึงพัฒนาและคงความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยเห็นได้จาก ระบบคลังสินค้า ระบบการผลิต ระบบการบรรจุภัณฑ์ ระบบการกระจายสินค้า วางแผนระบบและเครือข่ายการขนส่ง รวมถึง การนำ เข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศ โดยผสมผสานความรู้ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์และบริหารจัดการ เข้าไว้ในหลักสูตรเดียวกันภาระงานหลักของวิศวกรรมโลจิสติกส์ ตามที่ได้ระบุไว้ในข้อความข้างต้น ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ ไปจนถึงการพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทั้งหมด โดยรายละเอียดมีดังนี้:
1. การออกแบบระบบขนส่ง
ประเภทการขนส่ง: ทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ
การเลือกเส้นทาง การคำนวณเวลาและต้นทุน รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์
2. การเลือกกระบวนการและวิธีการประกอบชิ้นส่วนสินค้า
การเลือกเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรให้เหมาะสมกับกระบวนการผลิต
3. การออกแบบผังอาคารและอุปกรณ์ในโรงงาน
การจัดวางผังโรงงาน เครื่องจักร และอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
การออกแบบระบบขนย้ายและเก็บวัตถุดิบหรือสินค้าสำเร็จรูป
4. การวางระบบกระจายสินค้าและการจัดการคลังสินค้า
วางแผนและควบคุมการขนส่ง การจัดเก็บ และการกระจายสินค้า
การพัฒนาระบบควบคุมคุณภาพและการบำรุงรักษา
5. การพัฒนาระบบต้นทุนและงบประมาณ
การวิเคราะห์ต้นทุนอย่างละเอียดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย
การกำหนดต้นทุนมาตรฐาน
6. การปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ เช่น Lean, Six Sigma หรือ Kaizen
การลดความสูญเสียในระบบการผลิต
7. การออกแบบระบบวิเคราะห์และคำนวณคุณค่า
การสร้างระบบวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงและประเมินผลกระบวนการ
8. การพัฒนาระบบข่าวสารเพื่อการบริการ
ออกแบบระบบข้อมูลที่เชื่อมโยงระหว่างกระบวนการ เช่น ระบบ ERP, WMS
9. การจัดตั้งระบบค่าแรงงานจูงใจ
วางแผนค่าตอบแทนเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน
10. การวัดและประเมินผลการทำงาน
การตั้งเกณฑ์มาตรฐานและวิธีการประเมินผล
การวัดประสิทธิภาพงานของบุคลากรและองค์กร
11. การประเมินคุณค่าของตำแหน่งงาน
วางระบบการกำหนดหน้าที่และบทบาทในองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
12. การวิจัยปฏิบัติการ (Operations Research)
การวิเคราะห์เชิงคณิตศาสตร์ เช่น การจำลองระบบ โปรแกรมเชิงเส้น และการตัดสินใจ
13. การสำรวจที่ตั้งโรงงาน
การวิเคราะห์ปัจจัยที่เหมาะสมสำหรับที่ตั้ง เช่น ตลาด แหล่งวัตถุดิบ แหล่งเงินทุน ภาษี
บทบาทของวิศวกรรมโลจิสติกส์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาด ทั้งในระดับภายในประเทศและระดับสากล
หากนำความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์และการบริหารจัดการมาผสมผสานกันอย่างเหมาะสม จะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้ในทุกอุตสาหกรรม
ที่มา : admissionpremium.com และ chatgpt.com