แชร์

กลยุทธ์ Customization สำหรับการตลาด

อัพเดทล่าสุด: 2 ก.ย. 2024
1240 ผู้เข้าชม

ความหมายของ Customization

    Customization ในทางการตลาดนั้นคือการปรับเปลี่ยนสินค้าให้เข้ากับความต้องการของลูกค้า โดยลูกค้านัันสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองและเรามักจะเห็นกันบนโลกออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆนั่นก็คือ การที่ลูกค้าสามารถเลือกสีให้กับรองเท้าในแต่ละส่วน การเลือกสีรถยนต์ที่ชอบและยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีเบาะที่นั่งหรือสีภายในห้องโดยสาร การเลือกสีให้กับเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทตามความต้องการ ซึ่งการทำ Customization นั้นจะเหมาะกับกลุ่ม Millennials เป็นหลัก และ Premium Product กับ Generation อื่นๆบางกลุ่ม

    ข้อดีของการ Customization นั้นก็คือการที่ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้สินค้าที่มีความพิเศษและมีอยู่หนึ่งเดียวซึ่งแตกต่างจากคนอื่นๆ และยังทำให้ลูกค้านั้นได้ใช้เวลาในการสื่อสารและติดต่อกับแบรนด์มากยิ่งขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์บนหน้าเว็บไซต์ หรือบางแบรนด์ก็สามารถ Customize สินค้าผ่านแอปพลิเคชันได้อีก และในตอนนี้เราจะเห็นแทบทุกอุตสาหกรรมนั้นได้นำแนวคิดการทำ Product Customization มาใช้ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ จักรยาน นาฬิกา คอมพิวเตอร์ มือถือ

ทำไมกลยุทธ์ Customization ให้ออกแบบสินค้าเอง

ทำให้ลูกค้ารู้สึกดีต่อแบรนด์

การออกแบบ หรือประกอบอะไรขึ้นมาสักหนึ่งอย่างจะรู้สึกสนุก และภาคภูมิใจกับสินค้านั้น ๆ เป็นอย่างมากเพราะเป็นสินค้าที่มีชิ้นเดียวบนโลก แตกต่างจากสินค้าที่วางขายทั่ว ๆ ไปในตลาด

 สร้างปรากฏการณ์การบอกต่อ หรือเกิดไวรัลบนโซเชียลมีเดีย

    เมื่อการออกแบบสินค้าเอง ทำให้เรารู้สึกสนุก ภาคภูมิใจ และรู้สึกว่าสินค้าที่ใช้อยู่มันดีจริง ๆ
เราก็มักจะอยากบอกต่อกับเพื่อนสนิท ครอบครัว หรือคนอื่น ๆ ให้ไปทดลองใช้สินค้าแบบนี้บ้าง
พฤติกรรมการบอกต่อนี้ เรียกว่า Word of Mouth
 
ประกอบกับปัจจุบัน ที่ใคร ๆ ต่างก็สามารถใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube เป็นพื้นที่ในการรีวิวสินค้าที่ตัวเองชอบได้

ช่วยให้แบรนด์รู้อินไซต์ของลูกค้าได้มากขึ้น

แบรนด์สามารถหาอินไซต์ หรือข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคได้ ด้วยการเก็บข้อมูล (Data) จากการที่ลูกค้าออกแบบ หรือปรับแต่งสินค้า แล้วนำไปพัฒนาต่อยอดในสินค้าใหม่ ๆ ของแบรนด์
 
ตัวอย่างเช่น Nike ที่มีบริการ Nike Individually Design (Nike iD) ให้ลูกค้าออกแบบสีของรองเท้าเองได้ทุกส่วนของรองเท้า ทั้งเชือกรองเท้า, ส้นรองเท้า และโลโกของรองเท้า

ช่วยให้แบรนด์สร้างรายได้มากขึ้น

ลูกค้ากว่า 90% ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น เพื่อแลกกับการซื้อสินค้าที่ได้ออกแบบเองโดยในจำนวนนี้ มีลูกค้าถึง 49% ที่ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้น 10-25% และราว 21% ที่ยอมจ่ายเงินเพิ่มขึ้นมากกว่า 25%

ข้อดีของการทำ Product Customization

สามารถเพิ่มราคาได้

    การทำอะไรก็ตามที่ดูพิเศษจนลูกค้ารู้สึกว่าได้เติมเต็มความต้องการ ซึ่งมันมีคุณค่าที่มาพร้อมกับราคาที่ต้องเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ และแม้ว่าลูกค้าจะรู้ถึงจุดนี้แต่ก็ไม่ควรเพิ่มราคาจนลูกค้ารู้สึกว่ามันมากจนเกินความคุณค่าที่ได้รับ

เพิ่มประสบการณ์อันแสนวิเศษ

    คนในเฉพาะกลุ่ม Millennials นั้นอยากได้อะไรที่ไม่เหมือนใครแสดงถึงความเป็นตัวตนที่เข้ากับ Lifestyle ของตัวเอง โดยการที่ลูกค้าสามารถเลือกในสิ่งที่พวกเขาชอบเองได้นั้น มันก็คือประสบการณ์ขั้นสุดที่แบรนด์สามารถจะมอบให้ได้

ปรับปรุงประสิทธิภาพช่องทางออนไลน์

    ด้วยความที่การทำ Customization นั้นโดยส่วนใหญ่จะทำผ่านช่องทางออนไลน์ โดยอาจจะเป็นเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันซึ่งมันทำให้แบรนด์ต้องหันมาพัฒนาและนำเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ๆมาใช้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ดีๆให้กับลูกค้า นับเป็นโอกาสที่แบรนด์จะใช้เวลาในการปรับปรุงและนำสิ่งดีๆมาใช้กับช่องทางต่างๆ

 

 




BY : NUN

ที่มา : Marketthink


บทความที่เกี่ยวข้อง
Brand Manifesto คืออะไร? สร้างคำประกาศตัวตนให้แบรนด์ของคุณ
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันดุเดือดและผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้อย่างง่ายดาย การมีแค่สินค้าหรือบริการที่ดีอาจไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่ทำให้แบรนด์หนึ่งโดดเด่นและครองใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืนคือ "ความเป็นตัวตน" ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ Brand Manifesto (คำประกาศตัวตนของแบรนด์) จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ได้เปล่งเสียง "ทำไม" แบรนด์ถึงถือกำเนิดขึ้นมา และ "เชื่อมั่น" ในสิ่งใด Brand Manifesto ไม่ใช่เพียงแค่พันธกิจ (Mission) หรือวิสัยทัศน์ (Vision) แต่คือการประกาศหลักการ ปรัชญา และคุณค่าหลักของแบรนด์ออกมาอย่างเร้าใจและสร้างแรงบันดาลใจ แล้ว Brand Manifesto คืออะไร และจะสร้างคำประกาศที่ทรงพลังให้กับแบรนด์ของคุณได้อย่างไร? มาหาคำตอบกัน
Gemini_Generated_Image_bjhh8wbjhh8wbjhh.png ใบบัว ( นักศึกษาฝึกงาน )
16 ต.ค. 2025
จากห้องเครื่องสู่ห้องประชุม: เฟรมเวิร์กสรุปรายงาน รายวัน-สัปดาห์-เดือน สำหรับธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ในโลกธุรกิจที่หมุนเร็ว การตัดสินใจที่ล่าช้าหรือผิดพลาดอาจหมายถึงการสูญเสียโอกาสมหาศาล การมี "ข้อมูล" อยู่ในมืออย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องเป็นการ "สรุปข้อมูล" ที่ถูกที่และถูกเวลาด้วย
ปาล์ม นักศึกษาฝึกงาน
16 ต.ค. 2025
Hyper-Personalization: กลยุทธ์มัดใจลูกค้าในยุคที่ทุกคนต้องการเป็นคนพิเศษ
ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคถูกรายล้อมไปด้วยข้อมูลและตัวเลือกมากมาย การตลาดแบบหว่านแห (Mass Marketing) อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ลูกค้าในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่สินค้าหรือบริการที่ดี แต่พวกเขามองหา "ประสบการณ์" ที่รู้สึกว่าแบรนด์เข้าใจและใส่ใจพวกเขาอย่างแท้จริง นี่คือจุดที่ Hyper-Personalization เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะกลยุทธ์การตลาดแห่งอนาคตที่จะมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
ร่วมมือ.jpg Contact Center
15 ต.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ