E-Payment คืออะไร?
อัพเดทล่าสุด: 28 ส.ค. 2024
915 ผู้เข้าชม
E-Payment ที่อยู่ภายใต้การทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย
การทำระบบ e-Payment จะทำให้ธุรกรรมทางการเงินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ดำเนินไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างความมั่นคงให้กับระบบบริหารจัดการการเงินการคลัง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ
1. ระบบการชำระเงินที่มีความสำคัญ
BAHTNET
สำหรับ e-payment ประเภทแรกที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลอยู่ก็คือ ระบบบาทเนต (Bank of Thailand Automated High-value Transfer Network: BAHTNET) ที่หมายถึง การทำรายการโอนเงินเพื่อลูกค้า ทั้งที่เป็นลูกค้าสถาบันและบุคคลใดก็ตามที่มีถิ่นฐานในประเทศและนอกประเทศ รวมถึงรายการโอนเงินระหว่างสถาบันที่ทำเพื่อลูกค้าที่มีถิ่นฐานในประเทศและนอกประเทศ
สำหรับ e-payment ประเภทแรกที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลอยู่ก็คือ ระบบบาทเนต (Bank of Thailand Automated High-value Transfer Network: BAHTNET) ที่หมายถึง การทำรายการโอนเงินเพื่อลูกค้า ทั้งที่เป็นลูกค้าสถาบันและบุคคลใดก็ตามที่มีถิ่นฐานในประเทศและนอกประเทศ รวมถึงรายการโอนเงินระหว่างสถาบันที่ทำเพื่อลูกค้าที่มีถิ่นฐานในประเทศและนอกประเทศ
2. ระบบการชำระเงิน
Inter-institution Fund Transfer System (ระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบ)
ระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบ (IFTS) หมายถึงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ช่วยให้การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆ ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการเคลื่อนย้ายเงินจากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่งแบบเรียลไทม์หรือมีความล่าช้าน้อยที่สุด เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตั้งแต่การโอนเงิน, ธุรกรรมทางธุรกิจ, การจ่ายบิล, และการชำระหนี้ระหว่างธนาคาร ฯลฯ เป็นต้น
ระบบโอนเงินรายย่อยระหว่างผู้ใช้บริการของระบบ (IFTS) หมายถึงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ช่วยให้การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินหรือธนาคารต่างๆ ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการเคลื่อนย้ายเงินจากธนาคารหนึ่งไปยังอีกธนาคารหนึ่งแบบเรียลไทม์หรือมีความล่าช้าน้อยที่สุด เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตั้งแต่การโอนเงิน, ธุรกรรมทางธุรกิจ, การจ่ายบิล, และการชำระหนี้ระหว่างธนาคาร ฯลฯ เป็นต้น
3. Settlement System (ระบบการชำระดุล)
ระบบการชำระดุล เป็นกลไกหรือกระบวนการที่อำนวยความสะดวกในการโอนเงินหรือทรัพย์สินในขั้นสุดท้ายระหว่างฝ่ายต่างๆ เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่ช่วยให้มั่นใจถึงความสมบูรณ์และการชำระบัญชีของธุรกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น การซื้อขายหลักทรัพย์, การชำระเงิน, และธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยระบบการชำระดุลมีบทบาทสำคัญในการทำงานที่ราบรื่นและปลอดภัยของตลาดการเงินเป็นอย่างมาก
4. บริการการชำระเงิน
บริการบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตร ATM
บริการบัตรเครดิต, บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม เป็นเครื่องมือทางการเงินหรือวิธีการชำระเงินที่ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ ได้ เช่น ซื้อสินค้า, ถอนเงินสด และเข้าถึงเงินในบัญชีธนาคารของตนเอง
บริการบัตรเครดิต, บัตรเดบิต และบัตรเอทีเอ็ม เป็นเครื่องมือทางการเงินหรือวิธีการชำระเงินที่ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินประเภทต่างๆ ได้ เช่น ซื้อสินค้า, ถอนเงินสด และเข้าถึงเงินในบัญชีธนาคารของตนเอง
5. บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์
Electronic money service หรือที่เรียกกันว่าเงินอิเล็กทรอนิกส์ คือมูลค่าของเงินที่จัดเก็บไว้ในระบบดิจิทัลและสามารถใช้สำหรับธุรกรรมทางการเงินต่างๆ โดยบริการเหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคดิจิทัล เพราะสามารถใช้ได้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่การซื้อสินค้าออนไลน์, การโอนเงิน, หรือแม้แต่การเข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ ต่อไปนี้คือบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
6. กระเป๋าเงินดิจิทัล
โดยทั่วไปเงินอิเล็กทรอนิกส์จะถูกจัดเก็บไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล (digital wallet) ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปฯ มือถือ, เว็บไซต์, บัตรพลาสติก, หรือบัตรเสมือนจริง โดยกระเป๋าเงินเหล่านี้จะจัดเก็บเงินอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ใช้และสามารถเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต/เดบิต เพื่อการใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งโปรดักต์ในกลุ่มนี้ก็จะมี TrueMoney Wallet, เป๋าตัง, และ Rabbit Line Pay เป็นต้น
7. การชำระค่าสินค้าและบริการ
ผู้ใช้สามารถใช้เงินอิเล็กทรอนิกส์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าจริง รวมถึงยังใช้สำหรับธุรกรรมการขายปลีก, การชำระบิล, และการช็อปปิ้งออนไลน์อีกด้วย
8.การโอนเงินแบบ Peer-to-Peer (P2P)
แอปฯ ธนาคาร รวมถึงแพลตฟอร์ม e-money จำนวนมากรองรับการโอนแบบ P2P ซึ่งในปี 2022 มีการใช้งานคิดเป็น 42% ของการทำธุรกรรมผ่าน e-commerce ทั้งหมดเลยทีเดียว ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งเงินให้เพื่อน, ครอบครัว, หรือคนรู้จักทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ รวมถึงการให้เงินค่าสิ่งของ, คืนเงินที่ยืมมา, หรือส่งเป็นของขวัญก็ได้อีกด้วย
BY: FAH
ที่มา: sevenpeakssoftware
บทความที่เกี่ยวข้อง
ลืมภาพจำของจุดส่งของที่เงียบๆ ไปได้เลย! เราจะมาแนะนำไอเดียคอนเทนต์ TikTok แบบ "Behind the Scenes" ที่จะเปลี่ยนจุด Drop-off ของคุณให้กลายเป็นดาวเด่นในย่านและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการกับคุณอย่างล้นหลาม
4 ก.ย. 2025
ในโลกดิจิทัลที่ทุกคนสามารถสร้างและเผยแพร่คอนเทนต์ได้ การสร้างคอนเทนต์ที่ "สวย" หรือ "ดูดี" เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อีกต่อไป เพราะคอนเทนต์ที่ดีจริง ๆ ต้องมีมากกว่านั้น มันต้องสามารถดึงดูดความสนใจ, สร้างความเชื่อมั่น และที่สำคัญที่สุดคือต้อง "ขายได้" วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันว่าทำอย่างไรให้คอนเทนต์สร้างสรรค์ของคุณไม่เป็นแค่ผลงานศิลปะที่สวยงาม แต่เป็นเครื่องมือการตลาดทรงพลังที่ช่วยผลักดันยอดขายให้คุณได้จริง
4 ก.ย. 2025
เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับภาพสินค้าของคุณบนทุกแพลตฟอร์ม ผมขอสรุปหลักการสำคัญ 4 ข้อที่สามารถนำไปใช้ได้จริงดังนี้
3 ก.ย. 2025