แชร์

วัสดุกันกระแทกในขนส่ง มีอะไรบ้าง ?

อัพเดทล่าสุด: 27 ส.ค. 2024
1215 ผู้เข้าชม

1.พลาสติกกันกระแทก (Bubble Wrap)

  •  คุณสมบัติ: พลาสติกกันกระแทกมีฟองอากาศเล็ก ๆ ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและลดการสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการปกป้องระดับเบาถึงปานกลาง
  •  การใช้งาน: ใช้ในการห่อหุ้มสินค้าโดยตรง หรือเป็นชั้นรองระหว่างสินค้าและกล่อง ใช้กับสินค้าเช่น เครื่องแก้ว, เครื่องเซรามิก, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก

2. โฟมกันกระแทก (Foam)

  •  คุณสมบัติ: โฟมมีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถป้องกันแรงกระแทกและรองรับน้ำหนักได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อน
  •  การใช้งาน: ใช้ห่อหุ้มหรือรองรับสินค้า มักใช้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่, เฟอร์นิเจอร์ หรือสินค้าอุตสาหกรรม

3. กระดาษลูกฟูก (Corrugated Paper)

  •  คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ทำจากกระดาษหลายชั้นที่มีช่องอากาศระหว่างชั้น ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี
  •  การใช้งาน: ใช้ในกล่องบรรจุภัณฑ์หรือทำเป็นตัวกันกระแทกภายในกล่อง มักใช้ในการบรรจุภัณฑ์สินค้าทั่วไป เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าอุปโภคบริโภค

4. เม็ดโฟมกันกระแทก (Packing Peanuts)

  •  คุณสมบัติ: มีลักษณะเป็นเม็ดโฟมเล็กๆ น้ำหนักเบา สามารถเติมเต็มช่องว่างภายในกล่องและช่วยป้องกันสินค้าไม่ให้ขยับ
  •  การใช้งาน: ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการเติมเต็มพื้นที่ว่างในกล่อง เช่น ของขวัญ, อุปกรณ์ตกแต่ง

5. แผ่นยางกันกระแทก (Rubber Padding)

  •  คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อแรงกระแทก
  •  การใช้งาน: ใช้ในสินค้าที่มีน้ำหนักมากและต้องการการปกป้องที่มากขึ้น เช่น เครื่องจักร, อุปกรณ์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่

6. แผ่นไม้รอง (Wooden Crates)

  •  คุณสมบัติ: ทำจากไม้ มีความแข็งแรงสูงมาก เหมาะสำหรับการป้องกันสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก
  •  การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การขนส่งสินค้าโครงสร้างเหล็ก, เครื่องจักรขนาดใหญ่, หรืองานศิลปะ

เทคนิคและวิธีการเลือกใช้วัสดุกันกระแทกให้เหมาะสม:


1. พิจารณาน้ำหนักของสินค้า: สินค้าที่มีน้ำหนักมากต้องการวัสดุกันกระแทกที่แข็งแรงและสามารถรับน้ำหนักได้ดี เช่น โฟมหนาๆ หรือแผ่นยางกันกระแทก ขณะที่สินค้าที่เบาอาจใช้พลาสติกกันกระแทกหรือกระดาษกันกระแทก

2. ตรวจสอบความเปราะบางของสินค้า: สำหรับสินค้าที่แตกหักง่ายหรือเป็นแก้ว ควรใช้วัสดุกันกระแทกที่มีคุณสมบัติการดูดซับแรงกระแทกสูง เช่น พลาสติกกันกระแทกหรือเม็ดโฟมกันกระแทก

3. คำนึงถึงการบรรจุหีบห่อที่แน่นหนา: การบรรจุหีบห่อที่แน่นหนาจะช่วยลดความเสี่ยงในการขยับของสินค้า ใช้เม็ดโฟมกันกระแทกหรือหมอนลมเพื่อเติมเต็มช่องว่างในกล่อง

4. เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ปัจจุบันมีวัสดุกันกระแทกที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้ เช่น วัสดุเส้นใยธรรมชาติหรือกระดาษลูกฟูก สำหรับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การเลือกใช้วัสดุเหล่านี้สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

5. ความสะดวกในการใช้งานและการจัดเก็บ: วัสดุกันกระแทกบางชนิดสามารถใช้งานและจัดเก็บได้ง่าย เช่น แผ่นพลาสติกแบบยืดหยุ่น หรือพลาสติกกันกระแทกที่สามารถม้วนเก็บได้ง่าย ควรเลือกวัสดุที่สะดวกต่อการใช้งานและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ

6. การปรับขนาดและรูปร่างของวัสดุกันกระแทก: วัสดุบางประเภท เช่น โฟมหรือกระดาษลูกฟูก สามารถตัดหรือดัดให้เข้ารูปกับสินค้าที่ต้องการได้ ช่วยให้การบรรจุหีบห่อมีความปลอดภัยมากขึ้น






BY : LEO

ที่มา : CHAT GPT


บทความที่เกี่ยวข้อง
ขนส่งไหนเร็วสุดในไทย? รีวิวบริษัทขนส่งยอดนิยมที่คนไทยเลือกใช้
การส่งพัสดุในยุคนี้มีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และการซื้อขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น
6 พ.ย. 2024
เช็คลิสต์! 10 สิ่งของต้องห้ามส่งไปต่างประเทศ รู้ไว้ก่อนโดนตีกลับ
เคยไหมครับ? ตั้งใจแพ็กของอย่างดี ส่งไปให้คนสำคัญที่อยู่ต่างประเทศ แต่ผ่านไปหลายสัปดาห์กลับพบว่าพัสดุถูกตีกลับมาที่หน้าประตูบ้าน พร้อมกับค่าส่งกลับที่ต้องจ่ายเพิ่ม... เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิด และสาเหตุส่วนใหญ่มักมาจากการ "ส่งสิ่งของต้องห้าม" โดยไม่ได้ตั้งใจ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
23 ก.ค. 2025
เทคโนโลยี Digital Label ป้ายอัจฉริยะที่อัปเดตข้อมูลพัสดุได้แบบเรียลไทม์
Digital Label หรือป้ายอัจฉริยะกำลังเปลี่ยนวิธีติดตามพัสดุในคลัง ด้วยการแสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ ประหยัดกระดาษ ลดแรงงาน และอัปเดตได้จากระยะไกล
ออกแบบโลโก้__5_.png BANKKUNG
23 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ