แชร์

วัสดุกันกระแทกในขนส่ง มีอะไรบ้าง ?

อัพเดทล่าสุด: 27 ส.ค. 2024
1054 ผู้เข้าชม

1.พลาสติกกันกระแทก (Bubble Wrap)

  •  คุณสมบัติ: พลาสติกกันกระแทกมีฟองอากาศเล็ก ๆ ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและลดการสั่นสะเทือน เหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการปกป้องระดับเบาถึงปานกลาง
  •  การใช้งาน: ใช้ในการห่อหุ้มสินค้าโดยตรง หรือเป็นชั้นรองระหว่างสินค้าและกล่อง ใช้กับสินค้าเช่น เครื่องแก้ว, เครื่องเซรามิก, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก

2. โฟมกันกระแทก (Foam)

  •  คุณสมบัติ: โฟมมีน้ำหนักเบาและมีความยืดหยุ่นสูง สามารถป้องกันแรงกระแทกและรองรับน้ำหนักได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นฉนวนความร้อน
  •  การใช้งาน: ใช้ห่อหุ้มหรือรองรับสินค้า มักใช้กับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่, เฟอร์นิเจอร์ หรือสินค้าอุตสาหกรรม

3. กระดาษลูกฟูก (Corrugated Paper)

  •  คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ทำจากกระดาษหลายชั้นที่มีช่องอากาศระหว่างชั้น ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้ดี
  •  การใช้งาน: ใช้ในกล่องบรรจุภัณฑ์หรือทำเป็นตัวกันกระแทกภายในกล่อง มักใช้ในการบรรจุภัณฑ์สินค้าทั่วไป เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, สินค้าอุปโภคบริโภค

4. เม็ดโฟมกันกระแทก (Packing Peanuts)

  •  คุณสมบัติ: มีลักษณะเป็นเม็ดโฟมเล็กๆ น้ำหนักเบา สามารถเติมเต็มช่องว่างภายในกล่องและช่วยป้องกันสินค้าไม่ให้ขยับ
  •  การใช้งาน: ใช้สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่ต้องการเติมเต็มพื้นที่ว่างในกล่อง เช่น ของขวัญ, อุปกรณ์ตกแต่ง

5. แผ่นยางกันกระแทก (Rubber Padding)

  •  คุณสมบัติ: มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถรองรับน้ำหนักได้มากและทนทานต่อแรงกระแทก
  •  การใช้งาน: ใช้ในสินค้าที่มีน้ำหนักมากและต้องการการปกป้องที่มากขึ้น เช่น เครื่องจักร, อุปกรณ์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่

6. แผ่นไม้รอง (Wooden Crates)

  •  คุณสมบัติ: ทำจากไม้ มีความแข็งแรงสูงมาก เหมาะสำหรับการป้องกันสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก
  •  การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น การขนส่งสินค้าโครงสร้างเหล็ก, เครื่องจักรขนาดใหญ่, หรืองานศิลปะ

เทคนิคและวิธีการเลือกใช้วัสดุกันกระแทกให้เหมาะสม:


1. พิจารณาน้ำหนักของสินค้า: สินค้าที่มีน้ำหนักมากต้องการวัสดุกันกระแทกที่แข็งแรงและสามารถรับน้ำหนักได้ดี เช่น โฟมหนาๆ หรือแผ่นยางกันกระแทก ขณะที่สินค้าที่เบาอาจใช้พลาสติกกันกระแทกหรือกระดาษกันกระแทก

2. ตรวจสอบความเปราะบางของสินค้า: สำหรับสินค้าที่แตกหักง่ายหรือเป็นแก้ว ควรใช้วัสดุกันกระแทกที่มีคุณสมบัติการดูดซับแรงกระแทกสูง เช่น พลาสติกกันกระแทกหรือเม็ดโฟมกันกระแทก

3. คำนึงถึงการบรรจุหีบห่อที่แน่นหนา: การบรรจุหีบห่อที่แน่นหนาจะช่วยลดความเสี่ยงในการขยับของสินค้า ใช้เม็ดโฟมกันกระแทกหรือหมอนลมเพื่อเติมเต็มช่องว่างในกล่อง

4. เลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: ปัจจุบันมีวัสดุกันกระแทกที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและสามารถย่อยสลายได้ เช่น วัสดุเส้นใยธรรมชาติหรือกระดาษลูกฟูก สำหรับบริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การเลือกใช้วัสดุเหล่านี้สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

5. ความสะดวกในการใช้งานและการจัดเก็บ: วัสดุกันกระแทกบางชนิดสามารถใช้งานและจัดเก็บได้ง่าย เช่น แผ่นพลาสติกแบบยืดหยุ่น หรือพลาสติกกันกระแทกที่สามารถม้วนเก็บได้ง่าย ควรเลือกวัสดุที่สะดวกต่อการใช้งานและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ

6. การปรับขนาดและรูปร่างของวัสดุกันกระแทก: วัสดุบางประเภท เช่น โฟมหรือกระดาษลูกฟูก สามารถตัดหรือดัดให้เข้ารูปกับสินค้าที่ต้องการได้ ช่วยให้การบรรจุหีบห่อมีความปลอดภัยมากขึ้น






BY : LEO

ที่มา : CHAT GPT


บทความที่เกี่ยวข้อง
แฟรนไชส์ขนส่ง เหมาะกับใคร? สำรวจตัวเองก่อนลงทุน
ในยุคที่ธุรกิจ E-commerce เติบโตแบบก้าวกระโดด การขนส่งกลายเป็นฟันเฟืองสำคัญของเศรษฐกิจ หลายคนจึงเริ่มหันมามองหาโอกาสในธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่ง ไม่ว่าจะเป็น Kerry, Flash, J&T หรือแบรนด์ใหม่ๆ ที่เปิดรับผู้ร่วมธุรกิจ แต่คำถามคือ แฟรนไชส์ขนส่ง “เหมาะกับคุณ” จริงหรือไม่? ก่อนตัดสินใจลงทุน มาสำรวจตัวเองกันก่อน
ร่วมมือ.jpg Contact Center
9 มิ.ย. 2025
เปิดเบื้องหลังการวางระบบ AI Assistant สำหรับบริษัทขนส่ง
วันนี้เราจะพาไปเปิดเบื้องหลังของการวางระบบ AI Assistant ในบริษัทขนส่ง ตั้งแต่แนวคิดเริ่มต้น ไปจนถึงการ “ฝึก” ให้ AI อย่าง ChatGPT เข้าใจธุรกิจของเราได้อย่างแม่นยำ
ร่วมมือ.jpg Contact Center
9 มิ.ย. 2025
ทำไมธุรกิจสตาร์ทอัพควรเลือกเช่าคลังสินค้าแทนสร้างเอง
ในโลกของธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในวงการสตาร์ทอัพ ความยืดหยุ่นและความเร็วคือหัวใจของความอยู่รอดและเติบโต
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
7 มิ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ