Smart Transportation คืออะไร
Smart Transportation
ขนส่งอัจฉริยะ (Smart Transportation) หมายถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและระบบอัตโนมัติเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบขนส่ง โดยมุ่งเน้นการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เช่น สภาพการจราจร พฤติกรรมการขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลระบบขนส่ง นำมาใช้ในการวางแผนและตัดสินใจในการดำเนินงานขนส่งได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติเด่นมีดังนี้
-กำหนดเส้นทางการเดินรถ กำหนดของเขตระยะทางและเส้นทางของรถ และแจ้งเตือนทันทีที่มีการขับออกนอกเส้นทาง หรือเมื่อยานพาหนะมีปัญหา
-ประเมินการขับขี่ บันทึกลักษณะการขับรถของพนักงานขับว่าก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่ และนำมาประเมินผลเป็นคะแนนในภายหลังได้
-ตรวจอัตราการใช้เชื้อเพลิง บันทึกการสิ้นเปลืองน้ำมันและแจ้งสภาพเครื่องยนต์
-วิเคราะห์อุบัติเหตุ เมื่อเกิดอุบัติเหตุสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขับขี่และการเฉี่ยวชนจากเซ็นเซอร์ในแต่ละจุดของรถได้
-ป้องกันการขโมย เจ้าของรถสามารถสั่งดับเครื่องยนต์ได้จากทุกที่ผ่าน Smart Drive
-ดูรายงานได้ทุกที่ สามารถตรวจดูรายงานและสั่งการผ่านอุปกรณ์ได้ทุกดีไวซ์ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และพีซี
-ประหยัดคุ้มค่า ประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายเซิร์ฟเวอร์และการดูแลระบบ เพราะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้บนคลาวด์
ส่วนในเรื่องการประยุกต์ระบบ Smart Transport ให้เข้ากับการรับส่งรถโรงเรียน จะช่วยทำให้ผู้ปกครองเกิดความไว้วางใจในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่นำระบบดังกล่าวไปใช้ว่า มีความใส่ใจในความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักเรียน เป็นโรงเรียนยุคใหม่ที่มีความทันสมัยและมีวิสัยทัศน์ ได้มาตรฐานทั้งการเรียน การสอน และระบบความปลอดภัยนั่นเอง
ประโยชน์ของ Smart Transportation ได้แก่
เพิ่มประสิทธิภาพ: Smart Transportation ช่วยให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขนส่งได้ เช่น ช่วยลดการจราจรติดขัด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
ลดต้นทุน: Smart Transportation ช่วยให้สามารถลดต้นทุนในระบบขนส่งได้ เช่น ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบขนส่ง ลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมความเสียหาย
สร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน: Smart Transportation ช่วยให้สร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน เช่น ช่วยลดการใช้พลังงาน มลพิษ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ใน Smart Transportation ได้แก่
Internet of Things (IoT): IoT เป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เช่น เซ็นเซอร์ กล้องวงจรปิด ระบบนำทางอัตโนมัติ และระบบขนส่งสาธารณะ
Machine Learning: Machine Learning เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบสามารถเรียนรู้และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วยตัวเอง เช่น ระบบตรวจจับการจราจร ระบบแนะนำเส้นทาง และระบบควบคุมการจราจร
Artificial Intelligence (AI): AI เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบสามารถคิดและตัดสินใจได้เอง เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติ ระบบขนส่งสินค้าอัตโนมัติ และระบบจัดการการจราจร
ระบบตรวจจับการจราจร: การใช้เซ็นเซอร์และกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจจับสภาพการ
ตัวอย่างการนำเทคโนโลยี Smart Transportation มาใช้ ได้แก่
จราจรและพฤติกรรมการขับขี่ของยานพาหนะ นำมาใช้ในการวางแผนเส้นทางการจราจร แจ้งเตือนการจราจรติดขัด และควบคุมสัญญาณไฟจราจร
ระบบนำทางอัตโนมัติ: การใช้ระบบนำทางอัตโนมัติเพื่อนำทางยานพาหนะไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ช่วยลดการจราจรติดขัดและอุบัติเหตุ
ระบบขนส่งสาธารณะ: การใช้ระบบขนส่งสาธารณะที่เชื่อมโยงกัน เช่น รถเมล์ รถไฟใต้ดิน และแท็กซี่ ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ช่วยลดมลพิษและการใช้พลังงาน
Smart Transportation กำลังเป็นเทรนด์ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืน
BY : NONT
ที่มา : ssanetwork