แชร์

การเพิ่มประสิทธิภาพภายในคลังสินค้า

อัพเดทล่าสุด: 18 ก.ค. 2024
429 ผู้เข้าชม

แนวทางที่1 พนักงานที่จะถูกกำหนดให้ทำงานในคลังสินค้าขององค์กร ต้องผ่านการคัดเลือกจากบุคคลที่มีความรู้ตรงตามรูปแบบการทำงานที่ต้องรับผิดชอบในคลังสินค้า มีการทดสอบความรู้ก่อนรับเข้าทำงาน ตลอดจนต้องผ่านการอบรมรูปแบบการทำงานที่ทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพในคลังสินค้า การอบรบถึงจิตสำนึกในการทำงานที่ดีที่ไม่สร้างปัญหาต่อเนื่องให้เกิดขึ้นในคลังสินค้า เพราะทุกการดำเนินการในคลังสินค้าล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องและเริ่มต้นจากบุคลากรในคลังสินค้า (ยกเว้นกรณีที่เป็นคลังสินค้าอัตโนมัติที่ดำเนินการผ่านระบบเครื่องจักรและกลไกควบคุมทั้งหมด)

แนวทางที่2 การกำหนดรอบตรวจนับสินค้าในคลังสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรทราบจำนวนสินค้าในคลังปัจจุบันเทียบกับจำนวนในระบบ หากปริมาณไม่ตรงกันผู้รับผิดชอบจะได้ทำการตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้องทนที นอกจากนั้นการทราบจำนวนสินค้าในคลังปัจจุบันยังทำให้ฝ่ายงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายจัดซื้อหรือฝ่ายวางแผงการผลิตได้รับข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการวางแผนการทำงานที่ประหยัดไม่เกิดการสั่งสินค้ามาเกิดความต้องการใช้จริงขององค์กร

แนวทางที่3 การสร้างรูปแบบการจัดเรียงที่เป็นระเบียบและการจัดสินค้าแลลแยกลำดับความสำคัญของสินค้า ความมีระเบียบของคลังสินค้าส่งผลโดยตรงต่อความรวดเร็วในการค้นหาสินค้า ปัญหาสินค้าค้างสต๊อคจนหมดอายุการใช้งาน ปัญหาสินค้าเต็มคลังหรือมีปริมาณมากเกินความจำเป็น ปัญหาเหล่านี้ล้วนมีจุดเริ่มต้นมาจากคลังสินค้าที่ไม่เป็นระเบียบทั้งสิ้น การจัดสินค้าแบบแยกลำดับความสำคัญของสินค้าจะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการค้นหาสินค้า

แนวทางที่4 การนำระบบจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System : WMS) หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับคลังสินค้ามาใช้ ระบบจัดการคลังสินค้าจะช่วยให้ผู้ดูแลทราบข้อมูลปัจจุบัน (Real Time) ความสะดวกในการใช้งาน การลดเวลาในการค้นหาข้อมูล การทราบข้อมูลปริมาณสินค้าคงคลัง ตำแหน่งจัดวาง และข้อมุลพื้นฐานที่จำเป็นเกี่ยวกับคลังสินค้าค้าทั้งหมดในทันที ช่วยให้องค์กรมีข้อมูลด้านคลังสินค้าเพื่อประกอบการตัดสินใจเรื่องต่่างๆ ที่สะดวกและแม่นยำกว่าการใช้ระบบการบันทึกข้อมูลแบบเดิม ลดต้นทุนที่เกิดจากความสูญเสียในคลังสินค้าและลดเวลาและความผิดพลาดที่เกิดจากการทำงานของคน ในส่วนของเทคโนโลยีปัจจุบันมีการพัฒนาซอร์ฟแวร์และอุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ที่สามารถช่วยเพิ่มความสะดวก ลดเวลาการทำงานและลดจำนวนการใช้งานคนและเครื่องจักรในคลังสินค้าขึ้นมามากมาย อาทิเช่น การนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์และการควบคุมอุตโนมัติในรูปแบบของหุ่นยนต์ขนย้ายสินค้าในคลังสินค้า (Warehouse Logistic Robotsz) เข้ามาทำหน้าที่แทนรถโฟล์ลิฟที่ใช้ขนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้าเพื่อลดต้นทุนในคลังสินค้าที่เกิดจากการเคลื่อนย้านสินค้าในคลังแบบเดิม

BY : NUN

ที่มา https://bait.rmutsb.ac.th/content/warehousing-management/


บทความที่เกี่ยวข้อง
Big Data & Analytics กับการบริหารจัดการสต็อกในคลังสินค้าอนาคต
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนของธุรกิจ “Big Data” และ “Analytics” กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในด้าน การบริหารจัดการสต็อกในคลังสินค้า (Warehouse Inventory Management) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่ส่งผลต่อทั้งต้นทุน การให้บริการ และประสบการณ์ของลูกค้า
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
24 เม.ย. 2025
คลังสินค้าไร้คน: เทคโนโลยีอัตโนมัติที่มาแทนแรงงานมนุษย์
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกทุกวินาที สิ่งที่เคยคิดว่าเป็น “อนาคต” กำลังกลายเป็น “ปัจจุบัน” หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ คลังสินค้าไร้คน หรือ Automated Warehouses ที่เปลี่ยนภาพของคลังสินค้าจากที่เคยเต็มไปด้วยพนักงานขนของ มาเป็นพื้นที่ที่หุ่นยนต์ทำงานแทนทุกอย่างเกือบ 100%
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
24 เม.ย. 2025
เปรียบเทียบระบบ Booking Manual กับ Online – ใครเร็ว ใครแม่นกว่า?
ในโลกของการขนส่งและโลจิสติกส์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การจองคิวหรือจองพัสดุ (Booking) กลายเป็นขั้นตอนสำคัญที่สามารถกำหนดความรวดเร็ว
ร่วมมือ.jpg Contact Center
24 เม.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ