แชร์

10 วิธีคิดถ้าอยากประสบความสำเร็จ

อัพเดทล่าสุด: 16 ก.ค. 2024
496 ผู้เข้าชม

10 วิธีคิดถ้าอยากประสบความสำเร็จ

1.อย่าหนีปัญหาแต่ให้เผชิญหน้า

คนที่ประสบความสำเร็จได้จะไม่กลัวความผิดพลาดหรือล้มเหลว พวกเขาจะกล้าเผชิญหน้ากับปัญหาทุกอย่างที่เข้ามา การหลีกเลี่ยงงานที่ยาก หรืองานที่คุณคิดไปเองว่าเกินความสามารถของตัวเอง จะทำให้คุณไม่ก้าวหน้าไปไหน ถึงแม้บางทีปัญหาที่คุณไม่เคยเจอมาก่อนอาจทำให้คุณล้มเหลวในตอนแรก แต่เมื่อคุณผ่านมันไปได้ คุณจะนึกขอบคุณอุปสรรคเหล่านั้นที่ทำให้คุณได้เรียนรู้ และเป็นก้าวหนึ่งที่สำคัญสู่ความสำเร็จ

2.เชื่อในตัวเอง

ถ้าคุณยังไม่มั่นใจในตัวเองแล้วใครจะกล้าเชื่อมั่นในตัวคุณ เมื่อคุณเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในตัวเองหรือในสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ นั่นก็เท่ากับคุณประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ความมั่นใจในตัวเองเป็นทัศนคติที่ดีที่จะคอยป้องกันไม่ให้เป้าหมายสู่ความสำเร็จของคุณถูกสั่นคลอนเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทาย ยิ่งคุณมีความมั่นใจในตัวเองมากเท่าไหร่ คุณก็จะไม่หวั่นไหวในช่วงเวลาที่เลวร้ายมากเท่านั้น

3.เลือกคบเพื่อนที่ดี

มีคนเคยบอกว่าถ้าเราเอาตัวเองไปอยู่กับคนแบบไหน เราก็จะเป็นแบบนั้น การมีเพื่อนที่ดีรายล้อมรอบข้างจะช่วยส่งเสริมให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีจะเอื้อให้คุณพัฒนาศักยภาพของคุณได้อย่างเต็มที่เพราะคุณจะสามารถเรียนรู้สิ่งดี ๆ ได้จากพวกเขา รวมถึงขอคำปรึกษาหรือขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้ในยามจำเป็น เมื่อเพื่อนร่วมงานในทีมมีคุณภาพ คุณก็จะมีคุณภาพตามไปด้วย

4.เลือกเป้าหมายด้วยตัวเอง

ไม่มีใครรู้ใจเราดีเท่ากับตัวเราเอง ดังนั้นตั้งเป้าหมายด้วยตัวคุณเอง ให้คุณตั้งเป้าหมายสู่ความสำเร็จที่สอดคล้องกับศักยภาพของตัวคุณเองนอกเหนือไปจากเป้าหมายอื่น ๆ ที่ที่ทำงานหรือสังคมกำหนดบทบาทให้คุณ การเลือกเป้าหมายชีวิตส่วนตัวด้วยตัวเองจะทำให้คุณจะรู้สึกมีพลัง และมีแรงบันดาลใจในการทำตามเป้าหมายนั้น ๆ

5.มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน

ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน มีวิสัยทัศน์ที่กว้างและมองการณ์ไกลไปถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต แต่แค่จินตนาการในหัวอาจไม่พอ คุณต้องหาอะไรที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากกว่านั้น เขียนรายการสิ่งที่คุณอยากทำ และสิ่งที่คุณทำสำเร็จแล้วลงบนกระดาษ หรือถ้าคุณถนัดวาดภาพ คุณจะจัดเต็มไอเดียในการเชื่อมโยงเป้าหมายในปัจจุบันและอนาคตของคุณก็ได้ บันทึกหรือแผนภาพดังกล่าวจะคอยย้ำเตือนคุณว่าคุณขยับไปใกล้ความสำเร็จมากแค่ไหนแล้ว

6.พร้อมรับความท้าทายใหม่ ๆ

ในบางครั้งการทำในสิ่งที่ท้าทายอาจเป็นบันไดลัดไปสู่ความสำเร็จ การทำในเรื่องที่ยากจะทำให้คุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว การมีอุปสรรคมากั้นขวางระหว่างตัวคุณและเป้าหมาย จะทำให้คุณตระหนักได้ว่าคุณอยากไปให้ถึงความสำเร็จมากมายขนาดไหน หรือเมื่อคุณเจอทางตันและไปต่อไม่ได้ คุณจะเรียนรู้วิธีประเมินสถานการณ์ใหม่และเดินต่อไปได้ อาจจะด้วยการพลิกแพลงหนทางอื่นหรือแม้แต่การสร้างทางเดินขึ้นมาใหม่ด้วยตัวคุณเอง

7.ใส่ใจทุกรายละเอียด

การพิจารณาสิ่งที่สำคัญอย่างรอบคอบจะป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดที่คุณจะต้องมาตามแก้ไขในภายหลัง นั่นทำให้คุณสามารถเคลื่อนหาเป้าหมายสู่ความสำเร็จได้โดยไม่สะดุด การใส่ใจในทุกรายละเอียดในทุกเรื่องที่ทำ จะทำให้คุณรู้ตื้นลึกหนาบางของสิ่งที่คุณทำ และใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากที่สุด

8.กล้าเสี่ยงในสถานการณ์เหมาะสม

การก้าวสู่ความสำเร็จไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว ในบางครั้งคุณต้องชั่งน้ำหนักดูว่าควรตัดสินใจอย่างไรให้เหมาะสมในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อย่างไรก็ตามการเสี่ยงนั้นต้องอาศัยข้อมูลในการประเมินสถานการณ์ที่มากเพียงพอ ไม่ใช่เสี่ยงแบบสุ่มสี่สุ่มห้า ในขณะเดียวกันถ้าคุณชอบอะไรที่มั่นคงและไม่กล้าที่จะเสี่ยง ทุกสิ่งที่คุณทำจะถูกจำกัดอยู่แค่คำว่า พอใช้ ไม่ใช่คำว่า ดีที่สุด

9.ทำสิ่งที่ตัวเองรัก

การทำในสิ่งที่ตนเองรักจริง ๆ จะทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการก้าวสู่เป้าหมายมากกว่าสิ่งที่คุณถูกยัดเยียดหรือถูกบังคับให้ทำ เรื่องการทำงานก็เช่นกัน ถ้าคุณรู้สึกไม่ดีกับงานที่ทำอยู่ นี่เป็นสัญญาณเตือนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คุณรัก หรือถ้าคุณไม่มีทางเลือกอื่นก็ต้องหาแง่มุมที่คุณจะรักมันให้ได้ เพราะคุณต้องอยู่กับมันในทุก ๆ วัน หาสิ่งที่คุณรักให้เจอและทุ่มเทกับมันให้เต็มที่ แล้วคุณจะเห็นผลตอบแทนจากการทุ่มเทกับการทำงานได้ในไม่ช้า

10.เห็นคุณค่าสิ่งที่มีอยู่

รู้คุณค่าของสิ่งที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของตัวคุณ เพื่อนร่วมงานที่ดี หรือครอบครัวที่อยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งที่คุณมีคือรากฐานสู่ความสำเร็จ ในขณะเดียวกันอย่าลืมแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจเมื่อมีคนหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับคุณ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ในวันหนึ่งที่คุณประสบความสำเร็จ เมื่อมองย้อนกลับมาคุณจะเห็นว่าที่คุณประสบความสำเร็จได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความช่วยเหลือของพวกเขานั่นเอง

ที่มา:entrepreneur.com 





บทความที่เกี่ยวข้อง
Trigger Marketing กระตุ้นความต้องการของลูกค้าด้วยเทคนิคทางจิตวิทยา
Trigger Marketing หรือ การตลาดที่กระตุ้น คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้หลักการทางจิตวิทยามาปรับใช้ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดความต้องการและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ โดยอาศัยปัจจัยต่างๆ ที่กระตุ้นอารมณ์และพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น ความต้องการ ความกลัว ความอยากได้ ความอยากเป็น หรือความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
10 ธ.ค. 2024
การจัดการวิกฤตการณ์ (Crisis Management) วิธีรับมือกับวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับแบรนด์
การจัดการวิกฤตการณ์ (Crisis Management) คือ กระบวนการที่องค์กรนำมาใช้ในการรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และผลประกอบการขององค์กร หากไม่จัดการอย่างถูกวิธี วิกฤตการณ์อาจนำไปสู่ความเสียหายอย่างรุนแรง
9 ธ.ค. 2024
โรงงานพลังงานหมุนเวียนเต็มรูปแบบ ก้าวสู่การผลิตที่ยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานสะอาดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อให้เป้าหมายนี้เป็นจริง
9 ธ.ค. 2024
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ