Energy Monitoring ในคลังสินค้า ใช้พลังงานให้คุ้ม ลดต้นทุนได้จริง

Energy Monitoring คืออะไร?
Energy Monitoring คือระบบติดตามและวิเคราะห์การใช้พลังงานในคลังสินค้าแบบเรียลไทม์ ผ่านอุปกรณ์ IoT เช่น เซนเซอร์ไฟฟ้า มิเตอร์ดิจิทัล และระบบคลาวด์ที่ช่วยบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ
เป้าหมายคือ รู้ว่าใช้พลังงานตรงไหนมากเกินไป และลดได้อย่างไร เพื่อช่วยลดต้นทุนและลดคาร์บอนของธุรกิจ
ทำไมคลังสินค้าต้องใช้ Energy Monitoring
1. ต้นทุนพลังงานในคลังสูงขึ้นทุกปี
ไฟฟ้าเป็นค่าใช้จ่ายหลักของคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟแสงสว่าง เครื่องปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ยกสินค้า เช่น Forklift ไฟฟ้า การรู้จุดที่ใช้มากเกินจำเป็นช่วยลดต้นทุนได้ทันที
2. พบปัญหาได้ก่อนเกิดความเสียหาย
ถ้าเครื่องจักรบางตัวกินไฟผิดปกติ ระบบจะเตือนทันที ลดความเสี่ยงการเสียหายและการหยุดชะงัก
3. ช่วยให้วางแผนลดคาร์บอนอย่างเป็นระบบ
การเก็บข้อมูลทำให้ธุรกิจรู้ว่า Scope 2 (การใช้ไฟฟ้า) ของคลังสินค้ามาจากส่วนไหนมากที่สุด
ส่วนที่เปลืองพลังงานที่สุดในคลังสินค้า
ระบบทำความเย็นหรือเครื่องปรับอากาศ
ไฟส่องสว่างที่เปิดทั้งวัน
เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า
พัดลมระบายอากาศ
สถานีชาร์จ forklift
ระบบ Energy Monitoring สามารถชี้จุดที่ต้องปรับปรุง เช่น ช่วงเวลาใช้พลังงานสูงสุด (Peak) หรืออุปกรณ์ที่ทำงานหนักเกินไป
ประโยชน์ที่ธุรกิจได้ทันทีหลังติดตั้ง
ลดต้นทุนค่าไฟ 10-30%
วางแผนบำรุงรักษาได้แม่นยำ
ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของคลังสินค้า
เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน
เริ่มต้นใช้ Energy Monitoring อย่างง่าย
ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจใช้ไฟฟ้าในจุดหลัก
ใช้ระบบ Cloud หรือ Dashboard แสดงผลแบบเรียลไทม์
ตั้งระบบแจ้งเตือนเมื่อใช้พลังงานเกินค่าปกติ
ใช้ข้อมูลเพื่อลด Peak Load และจัดตารางทำงานใหม่
เมื่อคลังสินค้ามีข้อมูลด้านพลังงานครบถ้วน การลดต้นทุนกลายเป็นเรื่องง่าย และยังช่วยให้ธุรกิจเป็นมิตรต่อโลกมากขึ้น
BANKKUNG


BS&DC SAI5
