แชร์

เทคนิคการนับสต๊อกแบบถูกต้องและประหยัดเวลา

S__2711596.jpg BS&DC SAI5
อัพเดทล่าสุด: 28 พ.ย. 2025
6 ผู้เข้าชม

การนับสต๊อกถือเป็นงานสำคัญของคลังสินค้า เพราะข้อมูลที่ผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจกระทบต่อการขาย การสั่งซื้อ และภาพรวมของธุรกิจได้ การมีเทคนิคที่เหมาะสมจะช่วยลดข้อผิดพลาดและย่นระยะเวลาทำงานได้อย่างมาก

1) จัดโซนสินค้าให้ชัดเจนก่อนเริ่มนับ
การแบ่งพื้นที่เป็นโซน เช่น โซน A-B-C หรือโซนตามหมวดสินค้า ช่วยให้ทีมงานเดินตรวจนับง่ายขึ้น ลดความสับสน และช่วยให้สามารถนับย้อนตรวจสอบได้สะดวก

ข้อดี:
  • ลดความผิดพลาด
  • ช่วยให้นับตามเส้นทางได้เป็นระบบ

2) ใช้หลักการ "นับจากจุดเดิมทุกครั้ง"
การกำหนดจุดเริ่มต้นและเส้นทางการนับที่เหมือนเดิมในทุกรอบ ช่วยให้ไม่เกิดการข้ามโซนหรือเดินซ้ำ นอกจากนี้ยังช่วยให้วิเคราะห์สาเหตุความคลาดเคลื่อนได้ง่ายขึ้น

3) เตรียมสินค้าและพื้นที่ก่อนนับ
จัดวางสินค้าให้เป็นระเบียบ เช่น ตั้งฉลากหน้าชั้นให้ตรง เช็กว่ามีสินค้าค้างบนรถ เข้าชั้นไม่ครบ หรือยังไม่รับเข้าระบบ หากพื้นที่พร้อม การนับจะเร็วกว่ามาก

4) ใช้การนับแบบ "Cycle Count" แทนการนับใหญ่ครั้งเดียว
การทำ Cycle Count คือการแบ่งหมวดสินค้าออกเป็นกลุ่ม แล้วหมุนเวียนตรวจนับทุกวันหรือทุกสัปดาห์ วิธีนี้ช่วยลดภาระนับสต๊อกครั้งใหญ่ และทำให้พบปัญหาการคลาดเคลื่อนเร็วขึ้น
เหมาะกับ:
  • คลังสินค้าขนาดกลางถึงใหญ่
  • สินค้าหมุนเวียนเร็ว ต้องควบคุมสต๊อกใกล้ชิด
5) ใช้ระบบบาร์โค้ดหรือสแกนเนอร์
บาร์โค้ดช่วยลดการจดด้วยมือ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของความผิดพลาด การสแกนยังช่วยยืนยันว่ารหัสสินค้าไม่ผิด และสามารถอัปเดตเข้าระบบได้ทันที
ประโยชน์:
  • เร็วกว่า
  • ข้อมูลแม่นยำกว่า
  • ลดเอกสาร

6) ทำงานเป็นคู่ (Double Check)
การให้พนักงานสองคนทำหน้าที่นับและตรวจซ้ำ ช่วยลดความคลาดเคลื่อนได้ดี โดยเฉพาะสินค้าที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ของชิ้นเล็กจำนวนมาก หรือสินค้ามูลค่าสูง

7) ตรวจสอบสินค้าที่ผิดปกติทันที
หากเจอจำนวนไม่ตรงหรือมีสินค้าชำรุด ให้แยกออกจากสต๊อกทันที และบันทึกเหตุผลไว้เพื่อตรวจสอบย้อนหลัง การแก้ไขปัญหาหน้างานช่วยลดการคลาดเคลื่อนสะสม

8) สรุปผลและอัปเดตระบบให้ทันทีหลังนับเสร็จ
การบันทึกผลหลังจบการนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถ้าปล่อยให้ข้อมูลตกหล่น จะทำให้สต๊อกไม่ตรงในรอบถัดไป การมีข้อมูลล่าสุดช่วยให้ทีมจัดซื้อและทีมขายทำงานได้แม่นยำขึ้น

สรุป
การนับสต๊อกที่ถูกต้องและประหยัดเวลาเกิดจากการจัดระบบที่ดี ผสานกับเครื่องมืออย่างบาร์โค้ดและวิธีการนับที่เหมาะสม หากทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้คลังสินค้ามีข้อมูลแม่นยำ ลดต้นทุนความผิดพลาด และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งทีม


บทความที่เกี่ยวข้อง
FIFO / LIFO คืออะไร? ใช้ต่างกันอย่างไร
เมื่อพูดถึงการทำงานคลังสินค้าหรือการบัญชีสต็อก เรามักจะได้ยินคำว่า FIFO และ LIFO อยู่เสมอ ทั้งสองคำนี้คือ “วิธีการจัดการสต็อก” ที่มีผลต่อ การจัดเก็บสินค้า, การหมุนเวียนสินค้า, การคิดต้นทุน, และ งบการเงินของธุรกิจ
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
28 พ.ย. 2025
The Power of UGC: เมื่อ "รีวิวบ้านๆ" จากลูกค้า ทรงพลังกว่า "โฆษณา" หลักล้าน
คุณเคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมบางแบรนด์ทุ่มงบยิงโฆษณา (Ads) ไปหลายล้านบาท แต่ยอดขายกลับนิ่งสนิท? ในขณะที่บางร้านแทบไม่ได้จ้างโปรดักชันใหญ่โต แต่สินค้ากลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพียงเพราะมีคลิปวิดีโอถ่ายกันเองเล่นๆ บน TikTok หรือโพสต์รีวิวสั้นๆ บน Twitter (X)
ร่วมมือ.jpg Contact Center
28 พ.ย. 2025
ความแตกต่างระหว่างคลังสินค้ากับศูนย์กระจายสินค้า (Warehouse vs DC)
ในโลกของโลจิสติกส์ หลายคนอาจเคยสับสนระหว่าง คลังสินค้า (Warehouse) กับ ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center – DC) ว่าต่างกันอย่างไร ทำงานอะไรบ้าง และควรใช้แบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
27 พ.ย. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ