กระบวนการทำงานในคลังสินค้า ตั้งแต่รับของจนถึงส่งออก
อัพเดทล่าสุด: 27 พ.ย. 2025
7 ผู้เข้าชม

กระบวนการทำงานในคลังสินค้า ตั้งแต่รับของจนถึงส่งออก (Warehouse Workflow)
การจัดการคลังสินค้าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจที่ต้องจัดเก็บสินค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ ผู้ผลิต หรือผู้จัดจำหน่าย เพราะกระบวนการในคลังที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุน ลดความผิดพลาด และทำให้ส่งสินค้าได้เร็วขึ้น บทความนี้จะพาไปรู้จักกระบวนการตั้งแต่รับของเข้าคลังจนถึงการส่งสินค้าออกอย่างครบถ้วน
1. Receiving - ขั้นตอนรับสินค้าเข้าคลัง
การรับสินค้าเป็นจุดเริ่มต้นของงานคลังทั้งหมด หากผิดพลาดตั้งแต่ตรงนี้ จะกระทบถึงขั้นตอนอื่นทันที
สิ่งที่ต้องทำ ได้แก่
2. Put Away - จัดเก็บสินค้าเข้าที่
หลังจากตรวจรับแล้ว สินค้าต้องถูกวางในตำแหน่งที่เหมาะสม
ขั้นตอนนี้ประกอบด้วย
3. Storage - การจัดเก็บและควบคุมสต็อก
เมื่อสินค้าอยู่ในพื้นที่จัดเก็บ ต้องมีการดูแลรักษาและตรวจสอบสต็อกอย่างสม่ำเสมอ
4. Picking - เบิกสินค้าเพื่อเตรียมส่ง
เมื่อมีออเดอร์เข้ามา เจ้าหน้าที่จะทำการ หยิบสินค้า ตามคำสั่งซื้อ
รูปแบบการหยิบมีหลายแบบ เช่น
หลังหยิบสินค้าแล้ว ต้องตรวจสอบก่อนแพ็ค
รายการที่ตรวจเช็ค ได้แก่
6. Packing - แพ็คสินค้า
การแพ็คเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับ "คุณภาพ" ที่ลูกค้ารับรู้โดยตรง
หลักการแพ็คที่ดี ได้แก่
ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการคลัง
ประกอบด้วย
สรุป
กระบวนการทำงานในคลังสินค้ามีหลายขั้นตอนที่เชื่อมโยงกัน หากแต่ละขั้นทำอย่างมีมาตรฐาน จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความเร็ว และเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าได้อย่างมาก
การจัดการคลังสินค้าเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจที่ต้องจัดเก็บสินค้า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์ ผู้ผลิต หรือผู้จัดจำหน่าย เพราะกระบวนการในคลังที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดต้นทุน ลดความผิดพลาด และทำให้ส่งสินค้าได้เร็วขึ้น บทความนี้จะพาไปรู้จักกระบวนการตั้งแต่รับของเข้าคลังจนถึงการส่งสินค้าออกอย่างครบถ้วน
1. Receiving - ขั้นตอนรับสินค้าเข้าคลัง
การรับสินค้าเป็นจุดเริ่มต้นของงานคลังทั้งหมด หากผิดพลาดตั้งแต่ตรงนี้ จะกระทบถึงขั้นตอนอื่นทันที
สิ่งที่ต้องทำ ได้แก่
- ตรวจสอบเอกสาร (PO, ใบกำกับ, ใบส่งของ)
- ตรวจนับจำนวนจริงเทียบกับเอกสาร
- ตรวจคุณภาพสินค้า (สภาพสินค้า, วันหมดอายุ, ความเสียหาย)
- บันทึกข้อมูลเข้าระบบ WMS หรือ ERP
2. Put Away - จัดเก็บสินค้าเข้าที่
หลังจากตรวจรับแล้ว สินค้าต้องถูกวางในตำแหน่งที่เหมาะสม
ขั้นตอนนี้ประกอบด้วย
- เลือกตำแหน่งจัดเก็บตามประเภทสินค้า
- จัดเรียงตาม FIFO / FEFO / LIFO ตามนโยบายคลัง
- แสกนบาร์โค้ดหรือบันทึกลงระบบ
3. Storage - การจัดเก็บและควบคุมสต็อก
เมื่อสินค้าอยู่ในพื้นที่จัดเก็บ ต้องมีการดูแลรักษาและตรวจสอบสต็อกอย่างสม่ำเสมอ
- ควบคุมอุณหภูมิ/ความชื้น (กรณีสินค้าเฉพาะทาง)
- ตรวจสต็อกประจำวันหรือประจำเดือน
- ใช้ระบบแจ้งเตือนสินค้าหมดหรือใกล้หมดอายุ
- จัดวางสินค้าให้ปลอดภัย
4. Picking - เบิกสินค้าเพื่อเตรียมส่ง
เมื่อมีออเดอร์เข้ามา เจ้าหน้าที่จะทำการ หยิบสินค้า ตามคำสั่งซื้อ
รูปแบบการหยิบมีหลายแบบ เช่น
- Pick by Order: หยิบทีละคำสั่ง
- Batch Picking: หยิบแบบรวมสำหรับหลายคำสั่ง
- Zone Picking: แบ่งพื้นที่ตามโซนแล้วหยิบตามโซน
- บาร์โค้ด
- Handheld Scanner
- ระบบ WMS ที่ช่วยกำหนดเส้นทางหยิบสินค้าที่เร็วที่สุด
หลังหยิบสินค้าแล้ว ต้องตรวจสอบก่อนแพ็ค
รายการที่ตรวจเช็ค ได้แก่
- จำนวนสินค้าครบตามออเดอร์
- รหัสสินค้าตรงกับที่สั่ง
- สภาพสินค้าก่อนส่ง
6. Packing - แพ็คสินค้า
การแพ็คเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับ "คุณภาพ" ที่ลูกค้ารับรู้โดยตรง
หลักการแพ็คที่ดี ได้แก่
- เลือกกล่องหรือบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสม
- ใช้วัสดุกันกระแทก
- ปิดผนึกแน่นหนา
- ติดสติ๊กเกอร์ที่อยู่ / ใบปะหน้า
- แสกนบาร์โค้ดยืนยันก่อนส่งออก
ขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการคลัง
ประกอบด้วย
- จัดคิวขนส่งตามรอบ
- แยกตามบริษัทขนส่ง (Kerry, Flash, ไปรษณีย์ ฯลฯ)
- ลงทะเบียนส่งรับใบรับของขนส่ง
- อัพเดตสถานะให้ลูกค้าทราบ
สรุป
กระบวนการทำงานในคลังสินค้ามีหลายขั้นตอนที่เชื่อมโยงกัน หากแต่ละขั้นทำอย่างมีมาตรฐาน จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความเร็ว และเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้าได้อย่างมาก
- รับสินค้า - จัดเก็บ - ควบคุมสต็อก - หยิบ - ตรวจ - แพ็ค - ส่งออก
บทความที่เกี่ยวข้อง
ในโลกของโลจิสติกส์ หลายคนอาจเคยสับสนระหว่าง คลังสินค้า (Warehouse) กับ ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution Center – DC) ว่าต่างกันอย่างไร ทำงานอะไรบ้าง และควรใช้แบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
27 พ.ย. 2025
รถบรรทุก EV: ทางรอดธุรกิจขนส่งยุคน้ำมันแพง หรือแค่กระแส? (เจาะลึกความคุ้มค่า) Meta Description: ผ่าความจริงรถบรรทุก EV (Electric Trucks) ช่วยลดต้นทุนขนส่งได้จริงไหม? คุ้มค่าแค่ไหนในยุคน้ำมันแพง? บทวิเคราะห์เจาะลึกเพื่อผู้ประกอบการขนส่งและ SME
27 พ.ย. 2025
เทคนิคที่นักขายมืออาชีพใช้กันทั่วโลก คือ Cross-sell และ Upsell
ซึ่งถ้าทำถูกวิธี จะช่วยเพิ่มยอดขายเฉลี่ยต่อบิลได้อย่างแนบเนียนและยั่งยืน
27 พ.ย. 2025
BS&DC SAI5



Contact Center