รู้หรือไม่? พัสดุบางชิ้นเดินทางผ่านศูนย์คัดแยกกว่า 10 แห่งก่อนถึงบ้านคุณ
เคยสงสัยไหมว่า... ของที่คุณสั่งจากปลายนิ้วเพียงคลิกเดียว ทำไมบางครั้งถึงใช้เวลาหลายวันกว่าจะมาถึง?
หรือทำไมบางพัสดุถึงเดินทาง อ้อมโลก ทั้งที่ต้นทางกับปลายทางอยู่จังหวัดข้างกัน?
คำตอบอยู่ที่ ศูนย์คัดแยกสินค้า (Sorting Center) หัวใจลับของระบบโลจิสติกส์ที่ทำให้ทุกพัสดุเดินทางอย่างเป็นระบบระเบียบ
ศูนย์คัดแยกคืออะไร?
ศูนย์คัดแยกสินค้า (Sorting Hub / Distribution Center) คือสถานที่ที่พัสดุจากทุกแหล่งถูกรวบรวม เพื่อตรวจสอบ แยกเส้นทาง และกระจายต่อไปยังจุดปลายทางที่ถูกต้อง
ลองนึกภาพดูว่า มันเหมือนสนามบินขนาดใหญ่สำหรับพัสดุแต่ละชิ้น มีพนักงาน มีเครื่องจักร และมีสายพานที่ไม่เคยหยุดหมุน
เส้นทางของพัสดุหนึ่งชิ้น เดินทางไกลกว่าที่คิด
ตัวอย่างเช่น คุณสั่งสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ในเชียงใหม่ เพื่อส่งถึงกรุงเทพฯ
เส้นทางอาจเป็นแบบนี้
ร้านค้านำพัสดุส่งที่จุดรับ (Drop-off Point)
พัสดุถูกส่งไปยังศูนย์คัดแยกจังหวัดเชียงใหม่
จากนั้นถูกรวบรวมและขนส่งต่อด้วยรถบรรทุกไปยัง ศูนย์กลางภาคเหนือ
ต่อไปยัง ศูนย์กลางประเทศ (National Hub) ซึ่งมักอยู่บริเวณกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล
ที่นั่นพัสดุจะถูกแยกอีกครั้งตาม โซนจัดส่งปลายทาง
จากนั้นกระจายไปยัง ศูนย์กระจายสินค้าพื้นที่ย่อย (Local Distribution Center)
และสุดท้ายถึงมือพนักงานจัดส่ง (Delivery Rider)
บางครั้ง หากปลายทางอยู่ต่างจังหวัด พัสดุอาจต้องผ่านศูนย์ย่อยมากกว่า 10 จุด!
️ ระบบอัตโนมัติคือหัวใจของความเร็ว
ในยุคใหม่ ศูนย์คัดแยกหลายแห่งแทบไม่มีคนยืนเรียงของอีกต่อไป แต่ใช้เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง
สายพานอัจฉริยะ (Automated Conveyor)
แขนกลหุ่นยนต์ (Sorting Robot)
ระบบสแกนบาร์โค้ดความเร็วสูง (High-speed Barcode Scanner)
เครื่องจักรเหล่านี้สามารถคัดแยกพัสดุได้ หลายหมื่นชิ้นต่อชั่วโมง และลดความผิดพลาดจากมนุษย์ได้อย่างมหาศาล
ทำไมบางพัสดุถึง อ้อม หรือ ช้า?
หลายคนอาจแปลกใจว่า ทำไมของจากนนทบุรีไปปทุมธานีถึงต้องผ่านศูนย์ลาดกระบัง?
เหตุผลคือ ระบบโลจิสติกส์ของบริษัทใหญ่จะทำงานแบบ ฮับและสปก (Hub and Spoke System)
คือรวบของจากหลายพื้นที่เข้าสู่ศูนย์กลางใหญ่ (Hub) ก่อนกระจายออกไปยังศูนย์ย่อย (Spoke)
แม้ดูเหมือนอ้อม แต่ในทางปฏิบัติกลับ ช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาโดยรวม เพราะการรวมของส่งครั้งละมากๆ ทำให้ใช้รถและเส้นทางได้คุ้มค่ากว่า
เทคโนโลยีช่วยให้คัดแยกเร็วขึ้นทุกวัน
บริษัทโลจิสติกส์สมัยใหม่ เช่น Kerry, Flash, SCG Express, และ DHL ใช้ระบบ AI และ Machine Learning
เพื่อตรวจจับรูปทรง ขนาด และน้ำหนักของพัสดุแบบเรียลไทม์
AI ยังช่วยวิเคราะห์ว่าเส้นทางไหนจะทำให้พัสดุถึงเร็วที่สุด ลดภาระของพนักงาน และลดโอกาสที่ของจะถูกจัดผิดเส้นทาง
เกร็ดน่ารู้
พัสดุเฉลี่ยหนึ่งชิ้นในประเทศไทยต้องผ่าน อย่างน้อย 4 ศูนย์คัดแยก
พัสดุจากต่างประเทศอาจผ่านมากกว่า 12 ศูนย์ ก่อนถึงมือผู้รับ
บางศูนย์คัดแยกทำงานตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีการปิดเครื่องแม้แต่นาทีเดียว
สรุป
เบื้องหลังการสั่งของออนไลน์ที่ดูง่ายดาย มีระบบโลจิสติกส์ขนาดยักษ์ซ่อนอยู่
ทุกพัสดุที่คุณได้รับ ล้วนผ่าน การเดินทางที่มีแบบแผน ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง
และทุกจุดหยุดพัก ไม่ใช่การหน่วงเวลา แต่คือ การเตรียมให้ของถึงคุณอย่างถูกต้องที่สุด
ครั้งหน้าที่เห็นข้อความ พัสดุกำลังคัดแยกที่ศูนย์กระจายสินค้า
คุณอาจยิ้มออก เพราะรู้แล้วว่ามันกำลังอยู่ในมือของระบบอัจฉริยะที่กำลังทำงานเต็มกำลัง เพื่อให้ของชิ้นเล็กๆ เดินทางได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด