โลจิสติกส์งานช่วยเหลือฉุกเฉิน ขนส่งยังไงให้ถึงพื้นที่ภัยพิบัติเร็วที่สุด
เมื่อเกิด ภัยพิบัติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม แผ่นดินไหว ไฟป่า หรือพายุใหญ่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เวลา เพราะความช่วยเหลือทุกนาทีอาจหมายถึงชีวิตของผู้ประสบภัย แล้วเบื้องหลังการขนส่งอาหาร น้ำ ยา และสิ่งของจำเป็นเหล่านี้มีการจัดการอย่างไร?
ความท้าทายของโลจิสติกส์ฉุกเฉิน
เส้นทางถูกตัดขาด ถนนอาจถูกน้ำท่วมหรือดินถล่ม รถบรรทุกไม่สามารถวิ่งได้ ต้องหาทางเลือก เช่น ฮ. หรือเรือ
ทรัพยากรมีจำกัด ของที่มีอยู่ต้องกระจายไปให้ทั่วถึงและรวดเร็ว ไม่ใช่บางพื้นที่ได้มากเกินไป บางที่ไม่ได้เลย
เวลาเป็นตัวแปรหลัก ต่างจากโลจิสติกส์ปกติที่วางแผนล่วงหน้าได้ แต่โลจิสติกส์ฉุกเฉินต้องตัดสินใจแบบเรียลไทม์
วิธีการทำงานเบื้องหลัง
Pre-Positioning: หลายประเทศและองค์กร เช่น สหประชาชาติ หรือกาชาด จะมี คลังสินค้าสำรอง กระจายไว้หลายจุด เมื่อเกิดเหตุ จะขนส่งจากจุดที่ใกล้ที่สุดทันที
การใช้ Multi-modal Transport: ใช้หลายพาหนะผสมกัน เช่น รถบรรทุก เรือ ฮ. เพื่อให้ถึงพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
ระบบข้อมูลและการประสานงาน: ใช้เทคโนโลยีติดตามเส้นทาง วางแผนการส่งแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ทุกการเคลื่อนไหวไม่ซ้ำซ้อน และถึงมือผู้ประสบภัยจริง
ตัวอย่างจริงที่น่าสนใจ
เฮติ แผ่นดินไหว 2010 สนามบินเต็มจนเครื่องบินช่วยเหลือลงไม่ได้ ต้องใช้เรือและเฮลิคอปเตอร์เสริม
น้ำท่วมใหญ่ไทย 2554 มีการตั้งคลังกลางกระจายสิ่งของ และใช้เรือ/รถยกสูงเข้าไปส่งอาหารและน้ำ
ทำไมเรื่องนี้สำคัญกับเรา
โลจิสติกส์ฉุกเฉินคือ โลจิสติกส์เพื่อชีวิต ต่างจากการส่งของปกติ เพราะไม่ได้ส่งแค่พัสดุ แต่คือการส่ง ความหวัง และ โอกาสในการรอดชีวิต
ครั้งหน้าเวลาเห็นข่าวทีมกู้ภัยหรือรถบรรทุกขนของเข้าไปในพื้นที่ภัยพิบัติ ลองนึกถึงเบื้องหลังการจัดการที่ซับซ้อนนี้ แล้วคุณจะเห็นว่า โลจิสติกส์ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องธุรกิจ แต่คือหนึ่งในฮีโร่เงียบที่ช่วยชีวิตผู้คน