แชร์

“AI ส่งของแทนคน?”: เมื่อรถขนส่งไร้คนขับเริ่มวิ่งจริง

ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
อัพเดทล่าสุด: 7 ส.ค. 2025
310 ผู้เข้าชม

รถขนส่งไร้คนขับ: ไม่ใช่อนาคต แต่เป็น ปัจจุบัน ที่เริ่มต้นแล้ว

ภาพรถยนต์วิ่งบนถนนโดยไม่มีคนขับอาจเคยเป็นแค่จินตนาการในหนังไซไฟ แต่ในวันนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเปลี่ยนจินตนาการนั้นให้กลายเป็นความจริงอย่างเงียบ ๆ โดยเฉพาะในวงการโลจิสติกส์ ที่ รถขนส่งไร้คนขับ เริ่มถูกนำมาใช้จริงในบางเส้นทางทดลอง ทั้งในนิคมอุตสาหกรรม เขตท่าเรือ และถนนสาธารณะบางสาย

หลายบริษัทโลจิสติกส์และสตาร์ทอัปด้านเทคโนโลยี กำลังทดสอบระบบรถบรรทุกอัตโนมัติ (Autonomous Truck) ที่ใช้ AI ควบคุมทุกอย่าง ตั้งแต่การวางเส้นทาง วิเคราะห์สภาพจราจร ไปจนถึงการรับส่งพัสดุแบบไม่ต้องใช้คนขับเลย


ทำไมรถขนส่งไร้คนขับถึงเริ่มเกิดขึ้นจริง

มีหลายปัจจัยที่ช่วยผลักดันให้รถขนส่งไร้คนขับเริ่มเข้ามาในระบบขนส่ง เช่น:

ต้นทุนแรงงานที่เพิ่มสูง
บริษัทขนส่งต้องการลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน โดยเฉพาะในช่วงที่คนขับรถขาดแคลนและค่าแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
ถนนในนิคมอุตสาหกรรม หรือเส้นทางเฉพาะบางสาย มีโครงสร้างพร้อมให้ทดลองใช้รถไร้คนขับได้ปลอดภัยมากขึ้น เช่น เส้นทางปิดในท่าเรือ หรือคลังสินค้าอัตโนมัติ
การสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน
หลายหน่วยงานร่วมมือกันในโครงการนำร่อง เช่น Sandbox ทดลองรถอัตโนมัติใน EEC (เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) ที่สนับสนุนโดย BOI และกระทรวงคมนาคม

AI ในรถขนส่งไร้คนขับทำงานอย่างไร?

หัวใจหลักของรถขนส่งไร้คนขับคือระบบ AI ที่ควบคุมการขับขี่ โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น:

Computer Vision วิเคราะห์ภาพถ่ายจากกล้องหน้ารถ เพื่อจดจำเส้นถนน ป้ายจราจร และสิ่งกีดขวาง
Lidar และ Radar ตรวจจับระยะทางและสิ่งของรอบตัวแบบ 360 องศา
Machine Learning เรียนรู้รูปแบบการขับขี่และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมแบบเรียลไทม์
Edge Computing ประมวลผลข้อมูลที่เกิดขึ้นตรงนั้นทันที ไม่ต้องส่งขึ้น Cloud ลดความหน่วง
ระบบทั้งหมดนี้ทำให้รถขนส่งสามารถวิ่งไปตามเส้นทางได้โดยไม่ต้องมีคนขับ ทั้งยังสามารถหยุดเร่งหลบหลีกสิ่งกีดขวางอย่างปลอดภัย


ความท้าทายที่ยังต้องจับตา

แม้เทคโนโลยีจะก้าวหน้า แต่การใช้งานในไทยยังมีหลายความท้าทาย เช่น:

กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ที่ยังไม่เปิดทางให้รถไร้คนขับวิ่งในพื้นที่สาธารณะได้ 100%
สภาพถนนและการจราจร ที่อาจไม่เป็นระเบียบเท่าประเทศตะวันตก เช่น รถมอเตอร์ไซค์ย้อนศรหรือถนนแคบ ๆ
ความไว้วางใจของประชาชน ยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยอยู่พอสมควร

รถขนส่งไร้คนขับมีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจ?
สำหรับธุรกิจขนส่งและอีคอมเมิร์ซ รถไร้คนขับจะช่วยให้:

ส่งของได้ 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเข้างานของคนขับ
ลดต้นทุนระยะยาว เมื่อเทียบกับค่าจ้างพนักงาน
เพิ่มความแม่นยำในการจัดส่ง เพราะใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ในการวางแผนเส้นทาง
รองรับการเติบโตของพัสดุจำนวนมากโดยไม่ต้องจ้างแรงงานเพิ่ม

แล้วพนักงานขนส่งจะหายไปไหม?

คำตอบคือ ไม่ใช่ทันที รถไร้คนขับยังต้องใช้คนควบคุมในช่วงเริ่มต้น และยังมีงานอื่น ๆ อีกมาก เช่น การจัดการพัสดุ บริการลูกค้า หรือควบคุมระบบหลังบ้านผ่านแดชบอร์ด AI ซึ่งพนักงานควรเริ่มเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ เช่น:

การใช้ Dashboard ควบคุมยานพาหนะ
การอ่านข้อมูลจาก AI และวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจ
การซ่อมบำรุงหรือให้คำแนะนำด้านเทคโนโลยี

สรุป: รถไร้คนขับเริ่มจริง และธุรกิจต้องเริ่มปรับตัว

เทคโนโลยีรถขนส่งไร้คนขับไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เมื่อ AI กำลังเข้ามาทำหน้าที่แทนมนุษย์มากขึ้นในระบบโลจิสติกส์ การเตรียมตัวตั้งแต่วันนี้จึงเป็นทางรอดที่ชาญฉลาดสำหรับทุกธุรกิจ



บทความที่เกี่ยวข้อง
Checklist  ธุรกิจคุณพร้อมขยายไหม? ตรวจให้ชัดก่อนโต
Checklist สำหรับเจ้าของธุรกิจ ตรวจสอบความพร้อมก่อนขยายกิจการ ครอบคลุมระบบ คน เงิน และโลจิสติกส์ เพื่อลดความเสี่ยงในการเติบโต
ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
18 ธ.ค. 2025
วิธีเริ่มต้นอัปเกรดระบบโลจิสติกส์ภายในบริษัท  ทำทีละขั้น ไม่ต้องรื้อทั้งระบบ
แนวทางอัปเกรดระบบโลจิสติกส์ภายในบริษัทแบบเป็นขั้นตอน ลดความเสี่ยง คุมงบ และเพิ่มประสิทธิภาพโดยไม่กระทบการทำงาน
ร่วมมือ.jpg เหมาคัน
18 ธ.ค. 2025
สรุปเทรนด์โลจิสติกส์ทั้งเดือน  ธุรกิจต้องรู้ เพื่อไม่หลุดเกมการแข่งขัน
สรุปเทรนด์โลจิสติกส์ล่าสุดทั้งเดือน ครอบคลุมเทคโนโลยี ต้นทุน พฤติกรรมลูกค้า และความยั่งยืน เพื่อให้ธุรกิจปรับตัวได้ทันเวลา
ChatGPT_Image_27_มิ_ย_2568_09_35_26.png BANKKUNG
18 ธ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ