แชร์

เอกสารสำคัญสำหรับการนำเข้า–ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ

สีเขียว_สีเหลือง_น่ารัก_ภาพประกอบ_ปิดร้านค้า_Sorry_We_Are_Closed_Instagram_Post_.png BS Rut กองรถ
อัพเดทล่าสุด: 14 มิ.ย. 2025
252 ผู้เข้าชม

1. ใบกำกับสินค้า (Commercial Invoice)
    - เป็นเอกสารที่ผู้ขายออกให้ผู้ซื้อ เพื่อแสดงรายละเอียดสินค้า มูลค่า ราคาต่อหน่วย ปริมาณ รวมถึงข้อมูลผู้ขายและผู้ซื้อ ใบนี้เป็นหลักฐานสำคัญในการชำระเงิน และใช้ประกอบการผ่านพิธีศุลกากร

2. ใบบรรจุหีบห่อ (Packing List)
     - แสดงรายละเอียดของสินค้าที่บรรจุในแต่ละกล่อง เช่น ขนาด น้ำหนัก จำนวนกล่อง หรือรหัสสินค้า ใช้เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบสินค้าในขั้นตอนการนำเข้า-ส่งออก

3. ใบตราส่งสินค้า (Bill of Lading - B/L)
     - เอกสารที่สายเรือหรือผู้ขนส่งออกให้แก่ผู้ส่งสินค้า เพื่อยืนยันการรับสินค้าไว้สำหรับการขนส่งทางทะเล เป็นหลักฐานกรรมสิทธิ์ของสินค้า และใช้ในการรับสินค้าปลายทาง (ถ้าเป็นการส่งทางอากาศ เรียกว่า Air Waybill)

4. ใบอนุญาตนำเข้าส่งออก (Import/Export License)
     - บางประเทศหรือสินค้าบางประเภทต้องมีการขออนุญาตก่อนจึงจะสามารถนำเข้าส่งออกได้ เช่น สินค้าเกษตร สินค้าเคมี เครื่องมือแพทย์ ฯลฯ ใบอนุญาตนี้ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐ

5. เอกสารรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin C/O)
     - เป็นเอกสารที่ระบุว่าสินค้านั้นผลิตในประเทศใด ซึ่งสำคัญมากในการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) เช่น ไทย-จีน ไทย-อาเซียน ฯลฯ

6. ใบสั่งซื้อ (Purchase Order PO)
     - เอกสารที่ผู้ซื้อออกให้แก่ผู้ขาย เป็นคำสั่งซื้อสินค้าที่ระบุรายละเอียดชัดเจน ใช้เพื่อยืนยันความต้องการซื้อและสามารถใช้เป็นหลักฐานทางธุรกิจได้

7. ใบแจ้งหนี้ (Invoice) และใบเสร็จ (Receipt)
     - เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเรียกเก็บเงิน และยืนยันการชำระเงินระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย

8. ใบขนสินค้าขาเข้า/ขาออก (Import/Export Declaration)
     - เป็นเอกสารที่ต้องยื่นต่อกรมศุลกากร เพื่อแสดงข้อมูลสินค้า มูลค่า รหัสพิกัดศุลกากร และรายละเอียดอื่น ๆ สำหรับการผ่านพิธีการนำเข้าส่งออก

9. ประกันภัยขนส่งสินค้า (Cargo Insurance)
     - แม้ไม่ใช่เอกสารภาคบังคับ แต่เป็นสิ่งที่ควรมีอย่างยิ่ง เพื่อคุ้มครองความเสียหายหรือสูญหายระหว่างการขนส่ง โดยผู้ขายหรือผู้ซื้อสามารถเลือกทำได้ตามข้อตกลง


10. เอกสารเพิ่มเติมอื่น ๆ (แล้วแต่กรณี)
เช่น

  • ใบอนุญาตพิเศษ (สำหรับสินค้าที่ควบคุม)
  • เอกสารธนาคาร เช่น L/C (Letter of Credit)
  • รายงานการตรวจสอบคุณภาพ (Inspection Certificate)

สรุป
     เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้าส่งออกมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า ช่องทางขนส่ง และข้อกำหนดของแต่ละประเทศ การจัดเตรียมเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วน จะช่วยลดปัญหาและความล่าช้าในกระบวนการทางโลจิสติกส์ อีกทั้งยังเสริมสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจในตลาดโลก

บทความที่เกี่ยวข้อง
บริหารคลังอย่างไรให้รองรับการส่งออก
การส่งออกไม่ใช่แค่การบรรจุของขึ้นตู้แล้วจัดส่งต่างประเทศ แต่เป็นกระบวนการที่ต้องการความแม่นยำ ความเร็ว และความพร้อมในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะ “ระบบคลังสินค้า”
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
26 ก.ค. 2025
Fulfillment-as-a-Service (FaaS): โมเดลใหม่ของการบริหารคลัง
เมื่อโลกของอีคอมเมิร์ซเติบโตแบบก้าวกระโดด การบริหารจัดการคลังสินค้าและการจัดส่งสินค้าให้ถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
26 ก.ค. 2025
EOQ คืออะไร? สูตรลับคลังสินค้า สั่งของเท่าไหร่ให้ 'คุ้ม' ที่สุด
เคยเจอปัญหานี้ไหมครับ? สั่งของมาตุนในคลังสินค้าเยอะเกินไป เงินทุนก็จมไปกับสต็อก แถมยังต้องเสียค่าเช่าพื้นที่เพิ่ม แต่พอสั่งของมาน้อยเกินไป สินค้าก็ขาด ขายไม่ได้ เสียโอกาสทางธุรกิจไปอีก... คำถามคือ แล้วเราควรจะสั่งของครั้งละเท่าไหร่ดี ถึงจะเรียกว่า "พอดี" และ "คุ้มค่า" ที่สุด? วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ EOQ (Economic Order Quantity) หรือ ปริมาณการสั่งซื้อที่ประหยัดที่สุด ซึ่งเป็นเหมือนสูตรลับที่ช่วยให้ธุรกิจหาจุดสมดุลในการสั่งซื้อสินค้าได้อย่างมืออาชีพ
โก้(นักศึกษาฝึกงาน)
23 ก.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ