สองยักษ์อีคอมเมิร์ซ “ช้อปปี้-ลาซาด้า” โกยรายได้ฉ่ำรวมกัน 7.8 หมื่นล้านบาท
สองยักษ์อีคอมเมิร์ซ ช้อปปี้-ลาซาด้า โกยรายได้ฉ่ำรวมกัน 7.8 หมื่นล้านบาท
โดยเฉพาะ Shopee รายได้ปี 67 ทะลุ 49,964 ล้านบาท กำไร 4,630 ล้าน! เจาะกลยุทธ์เบื้องหลังความสำเร็จของ SPX Express
ในปี 2567 Shopee ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซไทย ด้วย รายได้ที่ทะลุ 49,964 ล้านบาท และ กำไรสุทธิสูงถึง 4,630 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ Shopee เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย
ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด Shopee สามารถรักษาความเป็นผู้นำไว้ได้อย่างมั่นคง หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ กลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ ผ่านบริษัทในเครืออย่าง SPX Express
SPX Express: หัวใจแห่งระบบโลจิสติกส์ของ Shopee
SPX Express (Shopee Xpress) คือระบบขนส่งที่ Shopee พัฒนาและควบคุมเองทั้งหมด ตั้งแต่การรับสินค้า แพ็คสินค้า จนถึงการจัดส่งถึงมือลูกค้า โดยไม่ต้องพึ่งผู้ให้บริการขนส่งภายนอก
สิ่งนี้ทำให้ Shopee สามารถควบคุมต้นทุน ลดระยะเวลาในการจัดส่ง และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างรอบด้าน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ผลักดันรายได้และกำไรของบริษัทให้เติบโตแบบก้าวกระโดด
วิเคราะห์ 5 กลยุทธ์หลักที่ Shopee ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ
1. กลยุทธ์บูรณาการแนวดิ่ง (Vertical Integration)
Shopee ไม่เพียงแค่เป็นแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ แต่ยังขยายมายังธุรกิจขนส่งอย่าง SPX Express และระบบชำระเงินผ่าน ShopeePay
การควบคุมทุกขั้นตอนในห่วงโซ่อุปทานนี้ช่วยลดต้นทุนต่อคำสั่งซื้อ และสามารถเสนอโปรโมชั่น ส่งฟรี ได้บ่อยครั้ง
2. การสร้างระบบนิเวศแบบครบวงจร (Ecosystem Strategy)
Shopee สร้าง Ecosystem ที่ประกอบด้วย
- แพลตฟอร์ม Marketplace
- ระบบจ่ายเงิน (ShopeePay)
- โลจิสติกส์ (SPX Express)
- ฟีเจอร์การตลาด เช่น Flash Sale, Live, คูปอง ฯลฯ
เมื่อผู้ใช้งานเข้ามาในระบบ พวกเขามีโอกาสใช้บริการทุกอย่างในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยสร้าง Customer Lifetime Value ได้สูงขึ้น
3. กลยุทธ์การเจาะตลาดเชิงรุก (Aggressive Market Penetration)
Shopee ยังคงใช้กลยุทธ์ราคา โปรโมชั่น และคูปองอย่างต่อเนื่อง แม้จะลดกำไรต่อหน่วย แต่สร้าง ออร์เดอร์จำนวนมาก ที่ทำให้รายได้รวมสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มต่างจังหวัด ด้วยเครือข่ายโลจิสติกส์ของ SPX ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
4. การยกระดับประสบการณ์ลูกค้า (Customer Experience Optimization)
- ส่งของเร็ว มีบริการ Same-day/Next-day Delivery
- ติดตามพัสดุแบบเรียลไทม์
- คืนสินค้าหรือขอเงินคืนได้ง่าย
- รีวิวสินค้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจ
Shopee ใช้ข้อมูลผู้บริโภค (Data-Driven UX) เพื่อปรับปรุงบริการและออกแบบโปรโมชั่นให้เหมาะกับพฤติกรรมแต่ละกลุ่ม
5. การลงทุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Investment)
เบื้องหลังความรวดเร็วของ SPX Express คือ
- คลังสินค้าที่ใช้ระบบอัตโนมัติ
- ระบบจัดการออเดอร์ (Order Management System)
- การวิเคราะห์เส้นทางขนส่งที่แม่นยำ
เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ Shopee มีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง แต่ยังคงบริการระดับพรีเมียม
Shopee ไม่ได้แค่ขายของ แต่ "ควบคุมทั้งระบบ"
ผลกำไรระดับ 4,630 ล้านบาทในปี 2567 ไม่ใช่แค่เรื่องของการขายสินค้าให้มากขึ้น แต่คือความสำเร็จของการ ควบคุมทั้ง Ecosystem ทางธุรกิจ อย่างชาญฉลาด Shopee ไม่ได้มองตัวเองแค่ในฐานะแพลตฟอร์ม แต่คือผู้ควบคุมทั้งการตลาด การจ่ายเงิน และการขนส่ง
การมี SPX Express อยู่ในมือทำให้ Shopee ไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องแบ่งผลประโยชน์ และยังสามารถออกแบบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง นี่คือภาพของ ธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ขับเคลื่อนอย่างมีกลไกและแม่นยำ
ภาพปกจาก Asia Search Solutions Co.,ltd