แชร์

7 ปัญหายอดฮิตในคลังสินค้า และวิธีจัดการอย่างได้ผล

S__2711596.jpg BS&DC SAI5
อัพเดทล่าสุด: 3 พ.ค. 2025
107 ผู้เข้าชม
1. สินค้าคงคลังไม่แม่นยำ
ปัญหา: จำนวนสินค้าที่ระบุในระบบไม่ตรงกับของจริง
สาเหตุ: บันทึกผิดพลาด, ขาดระบบติดตาม, การหยิบสินค้าไม่ถูกต้อง
วิธีแก้:
  • ใช้ระบบ WMS (Warehouse Management System) ช่วยจัดการสต๊อก
  • ตรวจนับสินค้าเป็นประจำ (Cycle Count)
  • สแกนบาร์โค้ดทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวสินค้า
2. การจัดวางสินค้าไม่มีประสิทธิภาพ
ปัญหา: หาของยาก ใช้เวลานานในการหยิบสินค้า
สาเหตุ: วางสินค้าแบบไม่มีการวางแผน, สินค้าเดินเร็วอยู่ไกล
วิธีแก้:
  • แบ่งโซนสินค้าอย่างชัดเจน (Fast-moving / Slow-moving)
  • ใช้หลักการจัดเรียงแบบ ABC Analysis
  • ปรับผังคลังสินค้าให้เหมาะกับลักษณะสินค้าและการเคลื่อนไหว
3. ความผิดพลาดในการหยิบและจัดส่งสินค้า
ปัญหา: หยิบผิดรุ่น ผิดจำนวน ส่งของผิดให้ลูกค้า
สาเหตุ: ขาดระบบตรวจสอบก่อนจัดส่ง, ความเร่งรีบ
วิธีแก้:
  • ใช้ระบบ Pick to Light / Voice Picking
  • ตรวจสอบซ้ำก่อนแพ็ค (Double Check)
  • ฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด
4. พื้นที่เก็บของไม่เพียงพอ
ปัญหา: คลังแออัด จัดเก็บไม่เป็นระเบียบ
สาเหตุ: สินค้าเก่าค้างสต๊อก, การวางสินค้าซ้ำซ้อน
วิธีแก้:
  • ทำ FIFO (First-In-First-Out) อย่างเคร่งครัด
  • วิเคราะห์การหมุนเวียนของสินค้า เพื่อลดสินค้าค้างสต๊อก
  • ใช้ชั้นวางแนวตั้ง หรือระบบชั้นเก็บอัตโนมัติ (AS/RS)
5. ความปลอดภัยของสินค้า
ปัญหา: สินค้าชำรุด เสียหาย หรือสูญหาย
สาเหตุ: การจัดเก็บไม่เหมาะสม, ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัย
วิธีแก้:
  • ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
  • ติดตั้งกล้องวงจรปิดและระบบควบคุมการเข้า-ออก
  • อบรมการยก/เคลื่อนย้ายสินค้าอย่างถูกวิธี
6. ขาดแรงงานหรือพนักงานไม่เพียงพอ
ปัญหา: งานล่าช้า พนักงานเหนื่อยล้า
สาเหตุ: จำนวนคนไม่สัมพันธ์กับปริมาณงาน
วิธีแก้:
  • วิเคราะห์แนวโน้มงานล่วงหน้าเพื่อวางแผนกำลังคน
  • ใช้ระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ช่วยงานบางส่วน
  • จัดตารางทำงานและเวียนงานอย่างมีประสิทธิภาพ
7. ขาดการวัดผลและปรับปรุง
ปัญหา: ไม่รู้ว่าปัญหาจริงอยู่ตรงไหน ทำให้แก้ไม่ตรงจุด
สาเหตุ: ไม่มีข้อมูล KPI หรือรายงานการทำงาน
วิธีแก้:
  • ตั้ง KPI ที่ชัดเจน เช่น OTIF (On Time In Full), Accuracy Rate
  • ติดตามผลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
  • ประชุมทีมสรุปและปรับปรุงกระบวนการทุกเดือน
สรุป
การจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่เรื่องของพื้นที่จัดเก็บ แต่เป็นการวางแผนทั้งระบบ ตั้งแต่คน เครื่องมือ ไปจนถึงเทคโนโลยี หากสามารถระบุปัญหาและปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความเร็ว และยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

บทความที่เกี่ยวข้อง
การขนส่งแบบ Less Than Truckload (LTL)
การขนส่งแบบ Less Than Truckload (LTL): ทางเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับธุรกิจยุคใหม่
Notify.png พี่ปี
5 พ.ค. 2025
Cross Docking: แนวทางลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วการส่งสินค้า
ในยุคที่การแข่งขันด้านความเร็วและต้นทุนในการขนส่งสินค้าเข้มข้นมากขึ้น "Cross Docking" กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในระบบโลจิสติกส์สมัยใหม่ ด้วยแนวคิดที่เน้นการลดเวลาการจัดเก็บสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้า Cross Docking จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถส่งมอบสินค้าได้รวดเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
5 พ.ค. 2025
เทคนิคการออกแบบเลย์เอาท์คลังสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
การออกแบบเลย์เอาท์คลังสินค้า (Warehouse Layout) เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บสินค้า การหยิบสินค้า การขนส่งภายใน หรือการบริหารพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ
S__2711596.jpg BS&DC SAI5
5 พ.ค. 2025
icon-messenger
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ